“จังหวัดชุมพร” เปรียบเสมือน “ประตูสู่ภาคใต้” เพราะเป็นจังหวัดทางตอนบนสุดของภาคใต้ มีพื้นที่ต่อจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายของภาคกลาง แต่ประตูบานนี้มักถูกใช้เป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ทั้งที่จริงๆ แล้ว ชุมพรถือเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่เปิดประตูกว้างรอให้คนรักการท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน ดังคำขวัญที่ว่า “ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก”
ที่ชุมพร เราจะพบศาลของพลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” อยู่หลายแห่งด้วยกัน พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวชุมพรและชาวไทยจำนวนมาก พระองค์ทรงเดินทางไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษในด้านการทหารเรือ และทรงกลับมาวางรากฐานกองทัพเรือไทยให้แข็งแกร่ง จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากรัชกาลที่ 6 ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และหลังจากที่พระองค์กราบบังคมทูลลาออกจากราชการแล้ว ได้เสด็จมาประทับที่ชุมพร และสิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่ที่บ้านหาดทรายรี อำเภอเมือง เมื่อปี 2466 มีพระชนมายุได้ 43 พรรษา
ต่อมาชาวชุมพรจึงสร้างอนุสรณ์สถานของพระองค์ขึ้นที่หาดทรายรี โดยมีศาลกรมหลวงชุมพรฯ หันหน้าออกสู่ทะเล และมีเรือรบหลวงชุมพร เรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ซึ่งปลดประจำการเมื่อปี 2518 วางตั้งไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ ชาวเมืองนิยมมากราบสักการะและจุดประทัดถวายพระองค์ ไม่เพียงแต่ที่หาดทรายรีเท่านั้นที่มีศาลของกรมหลวงชุมพรฯ แต่ทั่วทั้งจังหวัดมีศาลของพระองค์อยู่นับสิบแห่ง เพราะพระองค์เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนเป็นอย่างมาก
พูดถึงหาดทรายรีแล้ว ที่แห่งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวทะเลของชุมพร เพราะที่หาดทรายรีนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขึ้นเรือเพื่อไปเที่ยวชมบรรยากาศและดำน้ำทั้งน้ำลึกน้ำตื้นไปตามหมู่เกาะต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ซึ่งเกาะที่อยู่ในพื้นที่อุทยานนั้นมีอยู่กว่า 40 เกาะ โดยเกาะที่น่าแวะไปเที่ยวชมได้แก่ เกาะง่ามใหญ่และเกาะง่ามน้อย ที่รอบเกาะยังมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามแห่งหนึ่งของอ่าวไทย ส่วนผู้ที่ชอบดำน้ำตื้นก็สามารถชมธรรมชาติใต้ท้องทะเลได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากโชคดีจะได้พบเห็นฉลามวาฬว่ายวนเวียนแถวๆ เกาะด้วย
นอกจากนี้ยังมีเกาะมัตตรา ซึ่งถือเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในหมู่เกาะชุมพร มีปะการังก้อนและปะการังสมอง รวมทั้งปลานานาชนิดให้ได้ชม ทั้งยังมีหาดทรายขาวให้ขึ้นไปนั่งเล่นได้ด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีเกาะลังกาจิว เป็นอีกหนึ่งเกาะที่น่าสนใจ เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรการเก็บรังนกนางแอ่น และพระองค์ได้ทรงจารึกปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บนผนังถ้ำ หากใครยังไม่เหนื่อยก็สามารถไปดำน้ำที่เกาะหลักแรด เกาะละวะ ฯลฯ ต่อได้อีก
มองดูหลายๆ เกาะในท้องทะเลชุมพรมักจะเป็นเกาะที่ไม่มีชายหาด แต่กลับมีกระท่อมหลังเล็กหลังน้อยอยู่บนชะง่อนหิน ดูสภาพแล้วจะว่าเป็นรีสอร์ทก็ไม่น่าจะใช่ ไปสอบถามมาได้ความว่า เกาะหลายๆ เกาะของชุมพรเป็นเกาะสัมปทานรังนก กระท่อมที่เห็นนั้นก็คือกระท่อมของคนที่นอนเฝ้าเกาะและเฝ้ารังนกนั่นเอง ก็แหม...ราคารังนกแท้ว่ากันกิโลกรัมละเป็นหมื่นเป็นแสน ก็ต้องมานั่งเฝ้านอนเฝ้ากันหน่อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รังนกของชุมพรนั้นถือเป็นรังนกคุณภาพดีติดอันดับโลกเลยทีเดียว จึงต้องดูแลกันอย่างดี
นอกจากเกาะแก่งต่างๆ แล้ว ชุมพรยังมีชายหาดสวยสะอาดน่าพักผ่อนอีกหลายแห่ง เช่น หาดทุ่งวัวแล่น ในอำเภอปะทิว ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของชุมพร หาดทรายแห่งนี้มีทรายขาวละเอียด ลักษณะหาดค่อยๆ ลาดเอียงลงทีละน้อย เป็นที่นิยมของทั้งชาวชุมพรและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาพักผ่อนกันที่นี่ นอกจากนั้นก็ยังมีหาดทรายรีอีกแห่งหนึ่งที่อำเภอสวี ซึ่งมีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การพักผ่อน
หากอยากมาท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดกับชาวบ้านเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและซึมซับความเป็นคนชุมพรให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้ไปพักที่โฮมสเตย์ซึ่งมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน โฮมสเตย์ที่มีชื่อที่สุดของชุมพร คงต้องยกให้ “โฮมสเตย์เกาะพิทักษ์” อำเภอหลังสวนเพราะเป็นชุมชนที่ได้รับยกย่องว่าเป็นตัวอย่างการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่ประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งของไทย ใครที่มาพักที่นี่นอกจากจะได้มานอนรับอากาศดีๆ ริมทะเลแล้ว ก็ยังจะได้ทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างการตกหมึก ตกปลา ทำอวนปู ดำน้ำดูปะการัง พร้อมทั้งยังจะได้ชิมอาหารทะเลสดๆ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านรสอร่อยด้วยฝีมือของแม่ครัวพ่อครัวบนเกาะพิทักษ์อีกด้วย และนอกจากโฮมสเตย์เกาะพิทักษ์แล้ว ก็ยังมีโฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่ ในอำเภอสวี และปากคลองโฮมสเตย์ ในอำเภอปะทิว ที่มีบรรยากาศสบายๆ ในหมู่บ้านชาวประมงให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสได้ด้วยเช่นกัน
ที่ชุมพรยังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอยู่ที่อำเภอบางเบิด นั่นก็คือ “สันทรายบางเบิด” สันทรายขนาดใหญ่มหึมาที่ทอดตัวอยู่ริมชายฝั่งระหว่างอำเภอบางสะพานน้อย ของจังหวัดประจวบฯ และอำเภอปะทิว ของจังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นแนวสันทรายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีความสูงกว่า 30 เมตร หรือเรียกได้ว่าเป็นเนินเขาขนาดย่อมๆ มีเม็ดทรายขาวละเอียดตลอดระยะทางที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติมายาวนานเป็นพันปี โดยมีส่วนสำคัญจากลมที่พัดต้องแรงสม่ำเสมอต่อเนื่องยาวนาน หน้าทะเลเปิดโล่ง หาดทรายต้องมีระยะน้ำขึ้นลงกว้าง ส่วนเมล็ดทรายนั้นก็ต้องละเอียดและมีน้ำหนักเบามากพอที่จะปลิวตามแรงลมทับถมกันขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นเนินสันทรายขนาดมหึมาอย่างที่เห็น และบนสันทรายนี้ก็ยังมีพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นกว่า 150 ชนิดที่หาดูได้ยากอีกด้วย
หากใครมาเที่ยวชุมพรในช่วงเดือนตุลาคม หรือช่วงวันออกพรรษา ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวอำเภอหลังสวน เพราะที่นี่เขามีประเพณี “แห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง” ที่จัดขึ้นในวันออกพรรษา(แรม 1 ค่ำ เดือน 11) ซึ่งถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในสยาม มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานสืบต่อกันมาเป็นเวลากว่า 120 ปีแล้ว การแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงนั้นมีความสนุกสนานเร้าใจต่างจากการแข่งเรือในจังหวัดอื่นๆ ตรงที่จะต้องมีคนปีนขึ้นไปบนโขนเรือ หรือหัวเรือ เพื่อคว้าธงให้ได้ก่อนขณะที่เรือเข้าเส้นชัย ดังนั้นนอกจากจะได้ลุ้นฝีพายแล้วก็ยังได้ลุ้นนายหัวเรือที่จะเป็นผู้คว้าธงอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ในเดือนตุลาคมยังเป็นช่วงที่ชุมพรจัดเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพ โดยในช่วงนั้นนกเหยี่ยวนับแสนตัวที่อาศัยอยู่ในแถบซีกโลกตอนเหนือจะเริ่มหนีอากาศหนาวมาทางซีกโลกใต้ซึ่งมีอากาศอบอุ่นและมีอาหารอุดมสมบูรณ์กว่า และเส้นทางการเดินทางของนกเหยี่ยวเหล่านี้จะผ่านประเทศไทยแถบจังหวัดชุมพร คนที่ชอบดูนกสามารถไปรอชมได้ในอำเภอเมืองและอำเภอปะทิว
และสำหรับใครที่จะเดินทางไปเที่ยวเมืองชุมพรในช่วงนี้ก็ขอบอกว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดอีกช่วงหนึ่ง เพราะในตอนนี้ผลไม้นานาชนิดกำลังผลิดอกออกผลกันเต็มที่ โดยในอำเภอหลังสวนเขากำลังจัดงาน “เทศกาลผลไม้และท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดชุมพร” โดยได้นำเอาผลผลิตทางการเกษตรพวกผลไม้ต่างๆ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ส้มโอ สับปะรด สะตอ ฯลฯ สดๆ จากสวนมาให้เลือกซื้อเลือกชิมกัน ขอแนะนำให้ชิมกล้วยเล็บมือนางซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของชุมพร รสชาติหวานอร่อยลิ้น ซึ่งหากใครอยากมาชิมผลไม้อร่อยสารพัดที่หลังสวนนี้ก็ยังมีเวลา เพราะเขาจะจัดงานไปจนถึงวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหลังสวน
และหากใครกำลังมองหาของฝากนอกจากผลไม้เหล่านี้แล้ว ก็ขอเสนอกาแฟของชุมพร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศ และได้รับการยอมรับจากคอกาแฟแล้วว่ามีรสชาติเยี่ยม เข้มข้นหอมอร่อย เหมาะจะซื้อเป็นของฝากกลับไปบ้าน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร โทร.0 7750 4940 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดชุมพร โทร.0 7750 1831, 0 7750 2775-6