เห็นดอกไม้สวยๆ ก็ชื่นตาชื่นใจ ทั้งรูปทรงและสีสันล้วนเข้าตา แต่รู้กันหรือไม่ว่า ดอกไม้สวยๆ นั้นก็มีพิษร้ายเหมือนกัน อย่างเช่น “ต้นลำโพง” ที่ “108 เคล็ดกิน” เคยได้เห็น แล้วก็ได้ยินมาว่า ถ้าใครกินเมล็ดลำโพงเข้าไป จะกลายเป็นบ้าเอาได้ แต่เรื่องนี้จะจริงหรือไม่นั้น ก็ต้องไปดูข้อมูลที่เอามาฝากกัน
ต้นลำโพงเป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีดอกลักษณะทรงกรวยยาวปากบายคล้ายแตรทรัมเป็ต หรือคล้ายกับดอกผักบุ้งแต่มีขนาดใหญ่กว่า คนสมัยก่อนจะใช้ลำโพงเป็นยาสมุนไพร ช่วยระงับความเจ็บปวด และแก้อาการเกร็ง นำมามวนเป็นบุหรี่ใช้สูบแก้อาการโรคหืด หรืออาจนำเมล็ดมาตำให้ละเอียด และแช่ในน้ำมันพืช น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา เมื่อครบ 7 วันนำมากรอง แล้วนำน้ำมันที่ได้มาทาแก้อาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ
นอกจากนี้ ผลของลำโพงก็ใช้แก้พิษไข้ แก้ไข้ที่ทำให้กระสับกระส่าย หรือน้ำมันจากเมล็ด ใช้ฆ่าเชื้อโรค แก้กลากเกลื้อน หิด เหา เชื้อโรคที่มีตัว แต่ก็มีการเตือนให้ระวังในการใช้เมล็ดลำโพง เพราะเชื่อว่ามีพิษทางเมาเบื่ออย่างรุนแรง อาจทำให้เป็นบ้า หรือถึงตายได้ รวมทั้งคนไทยในอดีตเรียกคนบ้าบางพวกว่า “บ้าลำโพง” เพราะเชื่อว่ากินหรือสูบลำโพงนั่งเอง
จากข้อมูลของสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่าสารออกฤทธิ์ที่พบมากใน เมล็ด และใบลำโพงคือ โทรเพน อัลคาลอยด์ ได้แก่ สโคโพลามีน (scopolamine) และไฮออสไซอะมีน (hy-oscyamine) โดยถ้ากินเมล็ดและใบของลำโพงเข้าไป จะปรากฏอาการภายในเวลา 5 - 10 นาที อาการที่พบคือ กระหายน้ำรุนแรง ปากและคอแห้ง ตาพร่า ม่านตาขยาย สู้แสงไม่ได้ น้ำลายแห้งทำให้กลืนน้ำลายยากและพูดไม่ชัด ผิวหนังร้อนแดงและแห้ง ตัวร้อน ปวดศีรษะ รู้สึกสับสน กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน มึนงง มีอาการประสาทหลอน เด็กบางคนอาจมีอาการชัก ชีพจรเต้นเร็วและอ่อน นอกจากนี้ ยังมีอาการปัสสาวะคั่ง ท้องผูก รายที่รุนแรงจะหมดสติและโคม่า ส่วนการรักษาคนที่ได้รับพิษจากลำโพงเข้าไป ให้กินผงถ่าน เพื่อลดการดูดซึม แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อล้างท้อง
คราวหน้าคราวหลัง ถ้าหากเห็นดอกไม้สวยๆ ที่ไหน ก็ขอให้ระวังพิษร้ายที่แฝงมากับความสวยงามด้วยก็แล้วกัน