xs
xsm
sm
md
lg

พบเกษตรกรรับพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชเกือบ 2,000 ราย‏

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เผยในปี 2552 พบเกษตรกรพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชเกือบ 2,000 ราย ภาคเหนือมากที่สุด พบสูงสุดในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.แนะก่อนใช้สารเคมีต้องอ่านฉลากให้เข้าใจวิธีการใช้และปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด สวมเสื้อผ้า ถุงมือ หน้ากากให้มิดชิด

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เป็นฤดูกาลเพาะปลูก กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยสุขภาพเกษตรกร เนื่องจากมีการนำสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชมาใช้จำนวนมาก และเกิดอันตรายตามมาจากการใช้ไม่ถูกวิธี โดยสารเคมีสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ ทางผิวหนัง ทางปาก และการหายใจ ตั้งแต่ปี 2543-2552 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วยจากพิษสารกำจัดศัตรูพืชเฉลี่ยปีละ 1,996 ราย เฉพาะในปี 2552 มีรายงาน 1,691 ราย ไม่มีเสียชีวิต ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 ป่วยในช่วงเดือนมิถุนายน -กรกฎาคม โดยพบที่ภาคเหนือมากเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 48 รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 27 ภาคกลางร้อยละ 21 ส่วนภาคใต้พบน้อยที่สุด ร้อยละ 4 “จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กำแพงเพชร อุทัยธานี ตราด เชียงราย สุโขทัย พะเยา นครสวรรค์ แม่ฮ่องสอน จันทบุรี และศรีสะเกษ กลุ่มอายุ 55-64 ปีมีการเจ็บป่วยมากที่สุด” นพ.สุพรรณกล่าว

โฆษก สธ.กล่าวต่อไปว่า การป้องกันพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรควรใช้อย่างถูกวิธีตามฉลากกำหนด สวมเสื้อผ้า หน้ากาก ถุงมือ รองเท้าให้มิดชิดทุกครั้งระหว่างการผสม การฉีดพ่นสารเคมี และอาบน้ำทันทีหลังฉีดพ่นเสร็จ ไม่ควรฉีดพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชขณะลมแรงหรือมีฝนตก เนื่องจากจะมีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสกับสารเคมี และระหว่างฉีดควรยืนอยู่เหนือลมเสมอ การเก็บสารเคมีต้องให้ห่างไกลเด็กเล็ก และไม่ควรนำภาชนะบรรจุสารเคมีมาใช้บรรจุน้ำดื่มหรือใส่อาหารเพื่อรับประทาน เพราะสารเคมีอาจปนเปื้อนในน้ำและอาหารได้

นพ.สุพรรณกล่าวต่ออีกว่า หากมีสารเคมีเปื้อนที่ผิวหนัง ให้ใช้น้ำสะอาดล้างอย่างน้อย 15 นาที และรีบอาบน้ำ ฟอกสบู่เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังจากฉีดพ่น หากมีอาการผิดปกติ ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นหลังฉีดพ่นสารเคมีทันทีหรือภายใน 24 ชั่วโมง เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดท้อง คัน ระคายเคืองผิวหนัง มีผื่นแดง ปวดศีรษะ มึนงง เหงื่อออก น้ำตาไหลผิดปกติ กล้ามเนื้อบิดเกร็ง มีน้ำลายมาก พูดไม่ชัด คลื่นไส้ อาเจียน ให้หยุดใช้สารเคมี และรีบไปพบแพทย์ ควรจดจำชื่อสารเคมี หรือนำขวดหรือภาชนะบรรจุสารเคมีไปด้วย เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยและรักษาของแพทย์

ทั้งนี้ หากมีผู้ที่มีอาการหมดสติหลังจากใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ในการช่วยเหลือเบื้องต้น ให้รีบนำผู้ป่วยไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากมีสารเคมีเปรอะเปื้อนตามร่างกาย ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาด หากมีสารเคมีเข้าตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างไหลผ่านตานานๆ ประมาณ 10-15 นาที เพื่อขจัดสารเคมีออกให้มากที่สุด และนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น