โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...สำนวนนี้ก็ยังคงใช้ได้อยู่ทุกปีสำหรับช่วงเวลาที่จะส่งท้ายปีเก่าเพื่อย่างก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ในช่วงนี้หลายๆ จุดในกรุงเทพฯ ดูจะเริ่มคึกคักครึกครื้นกันแล้ว
สำหรับฉันในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ขอเสนอสถานที่เคานต์ดาวน์เด่นๆ น่าสนใจในกรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้มีที่ไหนบ้างขอเชิญทัศนากันได้
เริ่มกันที่สถานที่สุดฮิตฮิตที่สุดในการ Countdown นั่นก็คือ “ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์” บนถนนราชดำริ ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองแล้วยังมีการจัดงานCountdown ที่ใหญ่ที่สุดและจัดมาเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกันทาง CM Event / CMO Group, Central World ก็ได้จัดงานใหญ่อีกครั้งในชื่อว่า “HANDS Bangkok Countdown 2010” อันหมายถึง คล้องมือ คล้องใจ ผูกพันเราไว้ด้วยกัน โดยในช่วงเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ผู้คนนับแสนจะคล้องมือกันร่วมกับผู้คนทั่วประเทศและผู้คนทั่วโลก เพื่อเป็นกำลังใจให้กันเพื่อก้าวสู่ปีใหม่ร่วมกันภายในธีมHappy Town Party
โดยงาน HANDS Bangkok Countdown 2010 จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ ปี 2008 และ 2009 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะกรุงเทพมหานครเป็นเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งรอยยิ้มและความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสีสัน ความสะดวกสบายและความทันสมัยอย่างครบครัน ท่ามกลางการแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ระบบการคมนาคมขนส่งที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายเพื่อพร้อมที่จะรองรับมหาชนที่จะเข้าร่วมงาน
สำหรับการจัดงานปีนี้ประกอบด้วยการจัดสร้าง Landmark รูปแบบใหม่ "The HANDS Tower" หรือ “The Greeting Ball Tower” ที่จะเป็นอีกไฮไลต์สำคัญที่จะสร้างความทรงจำสำหรับความรู้สึกดีๆ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ปีใหม่อย่างมีความหวัง โดยทาวเวอร์ได้นำเทคนิค LED รุ่นล่าสุดพร้อมทั้งออกแบบให้มีความสามารถติดตั้งยิงไฟโรเทคนิคต่อเนื่องเป็นเวลา 1 นาที
ลักษณะ LED Screen เป็นแนวตั้ง รูปแบบสามเหลี่ยมที่ทอดตัวสูงขึ้นไปด้านบน ด้านบนสุดเป็นกราฟฟิกลูกโลกเพื่อแสดงเวลา แสดงภาพเหตุการณ์เคาท์ดาวน์ของที่ต่างๆทั่วโลก สำหรับThe Greeting Ball Tower เป็นทาวเวอร์ที่มีขนาดสูงถึง 21 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการนับเวลาถอยหลัง และสร้างความตื่นตาตื่นใจในช่วงเวลาเคานต์ดาวน์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบันเทิงจากกลุ่มศิลปินชื่อดังจากค่ายต่างๆ บนเวทีขนาดใหญ่ อันจะเป็นการส่งเสริมภาพแห่งการเฉลิมฉลองได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับธีม Happy Town Party ได้เนรมิต Happy Town เมืองแห่งความสุขกลางพื้นที่ลานสแควร์ A ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประกอบไปด้วยกิจกรรมแห่งความสุข โดยได้นำStarlight Gardenที่เนรมิตด้วย LED Limbo Wall ขนาดใหญ่จำลองพื้นที่ซึ่งถูกออกแบบด้วยหลอดไฟสีต่างๆพร้อมลวดลายกราฟฟิก นำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยภายในงาน Hands Bangkok Countdown 2010 นี้ เพื่อให้ประชาชนได้มาเยี่ยมชมและถ่ายเป็นที่ระลึก อีกทั้งยังมีมุมแห่งความสุขความบันเทิงที่ Sponsors Conner ด้วย
ด้านกิจกรรมในวัน Countdown หรือวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายท้ายสุดของปี พ.ศ.2552 หรือ ค.ศ.2009 ตั้งแต่เวลา 19.30 น. จะมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำมากมาย อาทิ วงScubb, วง Tatoo Colour, วง Mild, Palmy, ไอซ์ ศรัญยู, แก้ม+รุจน์ เดอะสตาร์, กอล์ฟ-ไมค์ เป็นต้น พร้อมทั้งมีการคั่นถ่ายทอดสดบรรยากาศความคึกคักสนุกสนานเป็นช่วงๆ และในเวลา 23.50 จะมีการเริ่มนับถอยหลังสู่พุทธศักราชใหม่ โดยไพโรเทคนิคจาก The Hands Tower และ Lighting Effect and Fireworks Show ที่ทันสมัย
นอกจากที่ลานหน้า Central World แล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีการร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยการประดับประดาไฟอย่างสวยงามสว่างไสว พร้อมทั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ใครที่สนใจอยากจะเดินชมเทศกาลแห่งความสุขอันคึกคักนี้ให้ทั่วก็สมารถใช้ Skywalk เชื่อมต่อสถานที่แต่ละแห่งได้
ทางกรุงเทพมหานครก็ได้ร่วมส่งความสุขและรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวทุกคน จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2010 ครั้งแรกขึ้นบน “สกายวอล์ก” (Skywalk) ตั้งแต่สกายวอล์คสนามกีฬาแห่งชาติ จนถึงย่านราชประสงค์ตลอดถนนเส้นพระราม 1 ที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร
โดยใช้ชื่องานว่า “Smiles Walk Skywalk เดินไปยิ้มไป” ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งในช่วงปลายปีที่ทางกรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อช่วยกันส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวและกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับโครงการ “กรุงเทพเมืองยิ้ม Bangkok Smiless”
สำหรับกิจกรรมของงาน Smiles Walk Skywalk เดินไปยิ้มไป แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ การแสดงศิลปะริมถนน Street Performance บนสกายวอล์ก เช่น โชว์ตัวตลกกายกรรม การเล่นจักกลิ้งโยนของ เดินขาสูง มายากล ละครใบ้ โชว์ประติมากรรมมีชีวิต (living sculpture) ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกวันศุกร์และเสาร์ พร้อมเพิ่มรอบวันที่ 31 ธันวาคมนี้ด้วย ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2553 ในเวลา 17.00-21.45 น. โดยสามารถร่วมชมได้ 3 สถานนี คือ สนามกีฬาแห่งชาติ สยาม และชิดลม-สี่แยกราชประสงค์
และส่วนที่สอง คือ การประดับไฟ Smiles Walk Skywalk ณ สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขใจกลางกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ โดยในปีนี้มีการประดับไฟนับล้านดวง ตกแต่งตลอดย่านราชประสงค์อย่างสวยงามสว่างไสว ใครที่มาเยือนก็จะได้รู้ว่าบรรยากาศและผู้คนทำให้รู้สึกคึกคักสนุกสนานได้เพียงใด
สำหรับย่านนี้ที่ได้มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อยู่เป็นประจำทุกปี ทั้งสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ และดิเอ็มโพเรียม สำหรับสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และย่านราชประสงค์จนถึงเซ็นทรัลชิดลม สามารถเดินชมแสงไฟประดับที่ระยิบระยับสวยงามพร้อมเสียงเพลงปีใหม่เคล้าคลอได้อย่างสะดวกสบายไม่ต้องขึ้นลงบันไดหลายรอบไม่ต้องข้ามถนน โดยเดินผ่านเส้นทาง Skywalk นั้นเอง
ตัวฉันที่ไม่ว่าเทศกาลงานใดไม่เคยพลาด ก็ได้ไปเดินทอดน่องชมวิวยามค่ำคื่นหลังพระอาทิตย์ตกดินในทุกๆ สถานที่ที่ฉันได้เล่าไปแล้ว ทั้งวิวแจ่มๆ บรรยากาศสวยๆ สายลมเย็นสบาย เรียกได้ว่าการเข้าเมืองมาเดินเที่ยวครั้งนี้ช่างพลิ้วเป็นที่สุด
นอกจากงาน Countdown และงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ย่านราชประสงค์แล้ว ที่บริเวณ “สวนสันติชัยปราการ” ก็มีการจัดงาน Countdown โดยสำนักงานเขตพระนครได้จัดงาน “รวมดวงใจ ร้อยความดี ถวายพระพร วันปีใหม่ 2553” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2552 - 1 มกราคม 2553
โดยกิจกรรมจะเน้นวิถีไทยในอดีต ประกอบด้วย กิจกรรมขบวนวัฒนธรรมวิถีความเป็นไทย ขบวนแห่เครื่องราชบรรณาการ 3 สมัย คือ สมัยกรุงสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กิจกรรมลงนามถวายพระพรในการ์ด กิจกรรมจำลองวิถีชีวิตย้อนยุค กิจกรรมออกร้านสาธิตศิลปหัตถกรรมไทย กิจกรรมเต้นร่วมสมัย (B-Boy) รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และกิจกรรมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การแสดงพลุไฟกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังมีที่ “ถนนข้าวสาร” ที่แม้ในปีนี้ทางสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสารจะไม่ได้จัดงานใหญ่ แต่บรรดาร้านค้าต่างๆ ก็จัดงาน Countdown และฉลองปีใหม่กันเองอย่างครึกครื้นเช่นกัน
ในโอกาสนี้ ฉันก็ขอถือโอกาสร่วมส่งท้ายปีเก่า 2552 และต้อนรับปีใหม่ 2553 ด้วยความสุข สดชื่น เบิกบาน สวัสดี ตลอดปี 2010 ...จากใจหนุ่มลูกทุ่ง
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...สำนวนนี้ก็ยังคงใช้ได้อยู่ทุกปีสำหรับช่วงเวลาที่จะส่งท้ายปีเก่าเพื่อย่างก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ในช่วงนี้หลายๆ จุดในกรุงเทพฯ ดูจะเริ่มคึกคักครึกครื้นกันแล้ว
สำหรับฉันในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ขอเสนอสถานที่เคานต์ดาวน์เด่นๆ น่าสนใจในกรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้มีที่ไหนบ้างขอเชิญทัศนากันได้
เริ่มกันที่สถานที่สุดฮิตฮิตที่สุดในการ Countdown นั่นก็คือ “ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์” บนถนนราชดำริ ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองแล้วยังมีการจัดงานCountdown ที่ใหญ่ที่สุดและจัดมาเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกันทาง CM Event / CMO Group, Central World ก็ได้จัดงานใหญ่อีกครั้งในชื่อว่า “HANDS Bangkok Countdown 2010” อันหมายถึง คล้องมือ คล้องใจ ผูกพันเราไว้ด้วยกัน โดยในช่วงเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ผู้คนนับแสนจะคล้องมือกันร่วมกับผู้คนทั่วประเทศและผู้คนทั่วโลก เพื่อเป็นกำลังใจให้กันเพื่อก้าวสู่ปีใหม่ร่วมกันภายในธีมHappy Town Party
โดยงาน HANDS Bangkok Countdown 2010 จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ ปี 2008 และ 2009 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะกรุงเทพมหานครเป็นเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งรอยยิ้มและความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสีสัน ความสะดวกสบายและความทันสมัยอย่างครบครัน ท่ามกลางการแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ระบบการคมนาคมขนส่งที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายเพื่อพร้อมที่จะรองรับมหาชนที่จะเข้าร่วมงาน
สำหรับการจัดงานปีนี้ประกอบด้วยการจัดสร้าง Landmark รูปแบบใหม่ "The HANDS Tower" หรือ “The Greeting Ball Tower” ที่จะเป็นอีกไฮไลต์สำคัญที่จะสร้างความทรงจำสำหรับความรู้สึกดีๆ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ปีใหม่อย่างมีความหวัง โดยทาวเวอร์ได้นำเทคนิค LED รุ่นล่าสุดพร้อมทั้งออกแบบให้มีความสามารถติดตั้งยิงไฟโรเทคนิคต่อเนื่องเป็นเวลา 1 นาที
ลักษณะ LED Screen เป็นแนวตั้ง รูปแบบสามเหลี่ยมที่ทอดตัวสูงขึ้นไปด้านบน ด้านบนสุดเป็นกราฟฟิกลูกโลกเพื่อแสดงเวลา แสดงภาพเหตุการณ์เคาท์ดาวน์ของที่ต่างๆทั่วโลก สำหรับThe Greeting Ball Tower เป็นทาวเวอร์ที่มีขนาดสูงถึง 21 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการนับเวลาถอยหลัง และสร้างความตื่นตาตื่นใจในช่วงเวลาเคานต์ดาวน์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบันเทิงจากกลุ่มศิลปินชื่อดังจากค่ายต่างๆ บนเวทีขนาดใหญ่ อันจะเป็นการส่งเสริมภาพแห่งการเฉลิมฉลองได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับธีม Happy Town Party ได้เนรมิต Happy Town เมืองแห่งความสุขกลางพื้นที่ลานสแควร์ A ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประกอบไปด้วยกิจกรรมแห่งความสุข โดยได้นำStarlight Gardenที่เนรมิตด้วย LED Limbo Wall ขนาดใหญ่จำลองพื้นที่ซึ่งถูกออกแบบด้วยหลอดไฟสีต่างๆพร้อมลวดลายกราฟฟิก นำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยภายในงาน Hands Bangkok Countdown 2010 นี้ เพื่อให้ประชาชนได้มาเยี่ยมชมและถ่ายเป็นที่ระลึก อีกทั้งยังมีมุมแห่งความสุขความบันเทิงที่ Sponsors Conner ด้วย
ด้านกิจกรรมในวัน Countdown หรือวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายท้ายสุดของปี พ.ศ.2552 หรือ ค.ศ.2009 ตั้งแต่เวลา 19.30 น. จะมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำมากมาย อาทิ วงScubb, วง Tatoo Colour, วง Mild, Palmy, ไอซ์ ศรัญยู, แก้ม+รุจน์ เดอะสตาร์, กอล์ฟ-ไมค์ เป็นต้น พร้อมทั้งมีการคั่นถ่ายทอดสดบรรยากาศความคึกคักสนุกสนานเป็นช่วงๆ และในเวลา 23.50 จะมีการเริ่มนับถอยหลังสู่พุทธศักราชใหม่ โดยไพโรเทคนิคจาก The Hands Tower และ Lighting Effect and Fireworks Show ที่ทันสมัย
นอกจากที่ลานหน้า Central World แล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีการร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยการประดับประดาไฟอย่างสวยงามสว่างไสว พร้อมทั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ใครที่สนใจอยากจะเดินชมเทศกาลแห่งความสุขอันคึกคักนี้ให้ทั่วก็สมารถใช้ Skywalk เชื่อมต่อสถานที่แต่ละแห่งได้
ทางกรุงเทพมหานครก็ได้ร่วมส่งความสุขและรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวทุกคน จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2010 ครั้งแรกขึ้นบน “สกายวอล์ก” (Skywalk) ตั้งแต่สกายวอล์คสนามกีฬาแห่งชาติ จนถึงย่านราชประสงค์ตลอดถนนเส้นพระราม 1 ที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร
โดยใช้ชื่องานว่า “Smiles Walk Skywalk เดินไปยิ้มไป” ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งในช่วงปลายปีที่ทางกรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อช่วยกันส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวและกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับโครงการ “กรุงเทพเมืองยิ้ม Bangkok Smiless”
สำหรับกิจกรรมของงาน Smiles Walk Skywalk เดินไปยิ้มไป แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ การแสดงศิลปะริมถนน Street Performance บนสกายวอล์ก เช่น โชว์ตัวตลกกายกรรม การเล่นจักกลิ้งโยนของ เดินขาสูง มายากล ละครใบ้ โชว์ประติมากรรมมีชีวิต (living sculpture) ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกวันศุกร์และเสาร์ พร้อมเพิ่มรอบวันที่ 31 ธันวาคมนี้ด้วย ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2553 ในเวลา 17.00-21.45 น. โดยสามารถร่วมชมได้ 3 สถานนี คือ สนามกีฬาแห่งชาติ สยาม และชิดลม-สี่แยกราชประสงค์
และส่วนที่สอง คือ การประดับไฟ Smiles Walk Skywalk ณ สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขใจกลางกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ โดยในปีนี้มีการประดับไฟนับล้านดวง ตกแต่งตลอดย่านราชประสงค์อย่างสวยงามสว่างไสว ใครที่มาเยือนก็จะได้รู้ว่าบรรยากาศและผู้คนทำให้รู้สึกคึกคักสนุกสนานได้เพียงใด
สำหรับย่านนี้ที่ได้มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อยู่เป็นประจำทุกปี ทั้งสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ และดิเอ็มโพเรียม สำหรับสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และย่านราชประสงค์จนถึงเซ็นทรัลชิดลม สามารถเดินชมแสงไฟประดับที่ระยิบระยับสวยงามพร้อมเสียงเพลงปีใหม่เคล้าคลอได้อย่างสะดวกสบายไม่ต้องขึ้นลงบันไดหลายรอบไม่ต้องข้ามถนน โดยเดินผ่านเส้นทาง Skywalk นั้นเอง
ตัวฉันที่ไม่ว่าเทศกาลงานใดไม่เคยพลาด ก็ได้ไปเดินทอดน่องชมวิวยามค่ำคื่นหลังพระอาทิตย์ตกดินในทุกๆ สถานที่ที่ฉันได้เล่าไปแล้ว ทั้งวิวแจ่มๆ บรรยากาศสวยๆ สายลมเย็นสบาย เรียกได้ว่าการเข้าเมืองมาเดินเที่ยวครั้งนี้ช่างพลิ้วเป็นที่สุด
นอกจากงาน Countdown และงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ย่านราชประสงค์แล้ว ที่บริเวณ “สวนสันติชัยปราการ” ก็มีการจัดงาน Countdown โดยสำนักงานเขตพระนครได้จัดงาน “รวมดวงใจ ร้อยความดี ถวายพระพร วันปีใหม่ 2553” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2552 - 1 มกราคม 2553
โดยกิจกรรมจะเน้นวิถีไทยในอดีต ประกอบด้วย กิจกรรมขบวนวัฒนธรรมวิถีความเป็นไทย ขบวนแห่เครื่องราชบรรณาการ 3 สมัย คือ สมัยกรุงสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กิจกรรมลงนามถวายพระพรในการ์ด กิจกรรมจำลองวิถีชีวิตย้อนยุค กิจกรรมออกร้านสาธิตศิลปหัตถกรรมไทย กิจกรรมเต้นร่วมสมัย (B-Boy) รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และกิจกรรมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การแสดงพลุไฟกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังมีที่ “ถนนข้าวสาร” ที่แม้ในปีนี้ทางสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสารจะไม่ได้จัดงานใหญ่ แต่บรรดาร้านค้าต่างๆ ก็จัดงาน Countdown และฉลองปีใหม่กันเองอย่างครึกครื้นเช่นกัน
ในโอกาสนี้ ฉันก็ขอถือโอกาสร่วมส่งท้ายปีเก่า 2552 และต้อนรับปีใหม่ 2553 ด้วยความสุข สดชื่น เบิกบาน สวัสดี ตลอดปี 2010 ...จากใจหนุ่มลูกทุ่ง
