เทศกาลคริสต์มาส คือเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อเป็นการระลึกถึงการประสูติของพระเยซูเจ้า ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธ.ค.ของทุกปี
คริสต์มาสจึงถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ของคริสตศาสนิกชน ในบ้านเรานั้นก็มีกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าตามโบสถ์ต่างๆ ตลอดจนห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่งก็มีการจัดงานร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ด้วยเช่นกัน
หนึ่งเดียวที่ท่าแร่
แต่ถ้าใครที่อยากสัมผัสรูปแบบเทศกาลคริสต์มาสที่ไม่จำเจ ไม่ซ้ำใคร ขอแนะนำให้มาที่ "หมู่บ้านท่าแร่ " ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร หมู่บ้านท่าแร่เป็นชุมชน คาทอลิคเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี และถือว่าเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือนนับถือศาสนาคริสต์
เล่ากันว่า ในอดีตชาวท่าแร่ เป็นคริสตศาสนิกชน อพยพมาจากประเทศเวียดนาม ที่ได้รับการปลดปล่อยจากการเกณฑ์แรงงานทาสและมีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ จำนวน 40 คน มาอาศัยอยู่ในตัวเมืองสกลนคร โดยมีบาทหลวงเกโกมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส คอยดูแล
เมื่อจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ทั้งมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐบางคน บาทหลวงเกโกจึงหาทำเลที่ตั้งหมู่บ้านใหม่ โดยจัดทำแพขนาดใหญ่ทำด้วยเรือเล็ก นำไม้ไผ่ผูกติดกัน ใช้ผ้าห่มและผืนผ้าขึงแทนใบ บรรทุกทั้งคนทั้งสัมภาระ ให้สายลมพัดพาไปในทิศที่พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ ในที่สุดพวกเขาสามารถข้ามไปอีกฟากหนึ่งของหนองหานได้อย่างปลอดภัย และตั้งรกรากใหม่เป็นชุมชนชาวคริสต์ บ้านท่าแร่
เทศกาลคริสต์มาสที่น่ารักเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในไทยของชาวท่าแร่มีความโดดเด่นด้วยประเพณี "แห่ดาว" ในเทศกาลคริสต์มาส คือจัดที่ มิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง เท่านั้น ซึ่งการแห่ดาว เป็นกิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส เพื่อระลึกเหตุการณ์ที่บรรดาโหราจารย์ได้ติดตามดาวประหลาดดวงหนึ่ง เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่แบธเลเฮม และถือกันว่าดวงาวคือสัญลักษณ์แห่งการประสูติของพระเยซู
ซึ่งที่สำนักมิสซังท่าแร่-หนองแสง จังหวัดสกลนคร จัดเป็นชุมชนที่มีประชากรชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิคอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตั้งของอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง (สำนักมิสซังท่าแร่ฯ) ซึ่งรับผิดชอบดูแลคริสตศาสนา ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์
ดังนั้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี ชาวคริสต์ใน 4 จังหวัดนี้ จะรวมตัวกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ โดยจะประดับตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีอีกสีสันหนึ่งของเทศกาลนี้ก็คือ ขบวนแห่ดาวที่ทำจากดวงไฟวิทยาศาสตร์สีสันสวยงาม
*รู้จักแห่ดาว
สำหรับวิวัฒนาการของการแห่ดาวนั้น ในระยะแรกเริ่มนั้น คริสตชนจะเดินแห่ โดยที่มือมีไม้ที่มีดาวดวงเล็กแขวนอยู่ ซึ่งใช้แสงจากการจุดเทียนและเดินแห่รอบโบสถ์ ขณะเดินแห่ก็ร้องเพลงคริสต์มาส สลับกับการสวดภาวนาก่อนเริ่มพิธีกรรม ภายหลังได้วิวัฒนาการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากการเดินแห่มาใช้ สามล้อปั่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์แห่ ตามลำดับ และประดับประดาดาวและรถยนต์ให้ประณีต สวยงาม และสร้างสรรค์
กระทั่งในปี ค.ศ. 1980 มุขนายกคายน์ แสนพลอ่อน(พระสังฆราชคนก่อน) ได้ริเริ่มการแห่ดาวและประกวดดาวขึ้นในตัวจังหวัดสกลนคร ได้พัฒนาการแห่ดาวจาก 20-30 ขบวนรถยนต์ มาเป็น 200 ขบวน พร้อมกับการประดับตกแต่งให้สวยงามตระการตายิ่งขึ้นในระยะ 25 ปี
ก่อนที่ในปี ค.ศ. 2003 – 2004 งานเทศกาลประเพณีแห่ดาวครั้งที่ 23 และ 24 ถูกยกระดับขึ้นเป็นประเพณีระดับจังหวัดอย่างเป็นทางการ โดยอาศัยความร่วมมือกันระหว่างมิสซังโรมันคาทอลิคท่าแร่-หนองแสง กับผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กร หน่วยงานทางจังหวัด นอกจากนั้นมิสซังโรมันฯ ยังได้รับปัจจัยสมทบช่วยเหลือจากองค์กร หน่วยงานต่างๆจากทางจังหวัดและท้องถิ่นอีกด้วย
ดาวที่นำไปตกแต่งในขบวนรถที่ประดับประดาอย่างสวยงามตามแต่จินตนาการ ส่วนใหญ่สื่อถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประสูติของพระเยซู เช่น การตกแต่งและจำลองบรรยากาศของขบวนให้เป็นถ้ำ อันเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู และในบางขบวนจะใช้คนประกอบแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการประสูติฯ เพื่อให้ดูน่าสนใจ ซึ่งการแห่ดาวทั้งหมดจะมาสิ้นสุดกันที่ "โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล"
ราตรีแห่งดาวดาว
สำหรับการจัดงานเทศกาลแห่ดาวในปีนี้ สมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ในปีนี้ทางจังหวัดจัดงานประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสของชาวท่าแร่ ในวันที่ 24-25 ธ.ค. 52 โดยในวันที่ 24 ธ.ค. 52 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จะมีขบวนแห่ดาวขนาดเล็กรอบโบสถ์และพิธีมิสซา ขบวนรถแห่ดาวประดับตกแต่งด้วยไฟวิทยาศาสตร์นับพันดวง จะเคลื่อนไปรอบชุมชนท่าแร่
ส่วนในวันที่ 25 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ขบวนรถแห่ดาวประดับตกแต่งด้วยไฟวิทยาศาสตร์นับพันดวง ประมาณ 200 คัน จะเคลื่อนจากศูนย์ราชการไปรวมกันที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร ชมการแสดงบนเวทีของเด็ก ๆ พลุไฟ ละครเทวดา การประกวดร้องเพลงคริสต์มาส การประกวดดาว
ส่วนทางด้าน วิชุกร กุหลาบศรี ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครพนม ได้กล่าวเชิญชวนถึงงานแห่ดาวซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเช่นกันว่า เทศกาลแห่ดาวของชาวท่าแร่ ได้ถูกบรรจุลงในโครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของทางททท.ด้วยจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าเที่ยวน่าชม จึงขอเชิญชวนให้เดินทางไปเที่ยวชมบรรยากาศการประดับประดาบ้านเรือนด้วยดวงไฟหลากสีสัน มหัศจรรย์ดาวเต็มเมือง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส พิเศษอย่างยิ่งในคืนวันที่ 24 ธ.ค. 52 โดยทาง ททท. ได้จัดลานกิจกรรม เกม การละเล่นสนุกๆและของขวัญมากมายไว้แจกเด็กๆ ทั้งยังมีรถบริการรับจากตัวเมืองสกลนครพาไปร่วมงานอีกด้วย
เที่ยวเพลินๆที่ท่าแร่
นอกเหนือจากการชมดาวที่ประดับทั่วท่าแร่แล้ว ภายในต.ท่าแร่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอีกด้วย อย่างทิวทัศน์ของ "หนองหาน"(หนองหาร) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อันขึ้นชื่อของสกลนครที่มีอาณาเขตครอบคลุมมาถึงดินแดนแห่งนี้ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สามารถชมพระอาทิตย์อัสดงได้ที่นี่ก่อนที่จะไปดูการแห่ดาวได้
รวมถึงการชมความอลังการของ "โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล" โบสถ์ที่ใช้เป็นจุดสิ้นสุดของการแห่ดาว ก็มีดีมากกว่าที่คิด เพราะมีความสำคัญกับชาวท่าแร่ เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่สีขาวรูปทรงคล้ายเรือ ที่สร้างไว้เพื่อระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้
และก่อนการชมการแห่ดาวในช่วงค่ำคืน ยามกลางวันเรายังสามารถเยี่ยมยล บ้านเรือนอันความโดดเด่นและน่าสนใจของชาวท่าแร่ ที่มีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมตารางหมากรุก คล้ายกับบ้านเมืองในแถบประเทศตะวันตก นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสอายุร่วม 100 ปี ที่ยังคงความคลาสสิกงดงามเรียงรายสองข้างทางในถนนสายหลักของหมู่บ้าน มีทั้งแบบเรือนเดียวชั้นเดียวพื้นติดดิน และแบบอาคารก่ออิฐสองชั้น ซึ่งในสมัยก่อนเรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูงในการก่อสร้าง "แห่ดาว" ที่ท่าแร่ปีนี้ คุณสนใจเป็นหนึ่งในนั้นหรือยัง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร โทร. 0-4271-6247,สำนักมิสซังท่าแร่ - หนองแสง โทร. 0-4271-1272,ททท. สำนักงานนครพนม โทร 0-4251-3490 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.