เทศกาลกินเจปีนี้ หลายที่จัดงานกันอย่างคึกคักตามกระแสการกินเจที่ยังแรงไม่เคยตก
สำหรับที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ค่อนข้างต่างไปจากที่อื่นเพราะเขาใช้ว่าเทศกาล“ถือศีลกินผัก” ซึ่งเป็นประเพณีทรงคุณค่าปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างช้านาน
ชาวบ้านและชาวจีนในภูเก็ตเรียกประเพณีนี้ว่า "เจี๊ยะฉ่าย"หมายถึงการกินผัก ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน
ประเพณีกินผักกำเนิดขึ้นครั้งแรกในกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อครั้งที่คนจีนอพยพเข้ามาทำเหมืองแร่ในภูเก็ต ที่หมู่บ้านไล่ทูหรือในทู ซึ่งปัจจุบันคือบ้านกะทู้ ต.กะทู้ อ.กะทู้
คนจีนที่อาศัยอยู่ในทูมีความเชื่อและศรัทธาในเรื่องเทพเจ้าต่างๆ ครั้นมีเหตุเภทภัยก็ได้ทำการอัญเชิญเทพเจ้าที่นับถือบูชาให้ลงมาคุ้มครองปกป้อง
ต่อมาเศรษฐกิจของชาวในทูดีมาก จึงมีคณะงิ้วจากจีนเดินทางมาเปิดแสดง แต่หลังจากแสดงไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง คณะงิ้วเกิดเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งผู้นำคณะงิ้วนึกได้ว่าไม่ได้ประกอบพิธีกินผักที่เคยปฏิบัติมาทุกปีในเมืองจีน จึงตกลงกันจัดงานกินผักขึ้นที่โรงงิ้ว
ต่อมาโรคภัยไข้เจ็บชาวคณะงิ้วหายไป รวมไปถึงโรคภัยที่เคยเบียดเบียนชาวในทูก็พลอยลดลง สร้างความประหลาดใจให้ชาวในทูเป็นอย่างยิ่ง
นับแต่นั้นมาชาวในทูจึงมีการจัดงานกินผักขึ้นทุกปีที่ศาลเจ้ากะทู้ จนกลายเป็นประเพณีถือศีลกินผักสืบทอดมาถึงปัจจุบัน
สำหรับปีนี้ ประเพณีถือศีลกินผัก ภูเก็ต กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-26 ต.ค.โดยศาลเจ้าหรือ "อ๊าม" 15 แห่งทั่วภูเก็ตร่วมมือกับหลายภาคส่วนพร้อมใจกันเป็นแม่งาน ซึ่งศาลเจ้าแต่ละแห่งจะเตรียมข้าวและอาหาร(ผักต่างๆ)ไว้ให้ประชาชนร่วมรับประทานฟรีตลอด 9 วัน 9 คืน
ในขณะที่ผู้ร่วมพิธีชาวภูเก็ตส่วนใหญ่จะพากันนุ่งขาวห่มขาว กินผัก ถือศีล ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว ละเว้นอบายมุข พร้อมบูชาพระ เทพเจ้า ด้วยเครื่องเซ่นต่างๆทั้งที่ศาลเจ้าและที่บ้าน เพื่อให้ผู้นั้นสะอาด บริสุทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า "เช้ง"
ส่วนในภาคของพิธีกรรมนั้น ตลอดช่วงการจัดงานมีพิธีที่เด่นๆคือ
พิธีซ่งเก้งหรือการสวดมนต์ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ณ บริเวณสะพานหิน โดยในปีนี้ศาลเจ้าจุ๋ยตุ่ยเป็นเจ้าภาพ
พิธีอิ้วเก้งหรือการแห่พระ เป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์โดยมีขบวนธงธิวและป้ายชื่อแห่นำหน้า จากนั้นก็เป็นเกี้ยวหามธูปพระ เรียกว่า "ไท่เปี๋ย" หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป จัดตามชั้นยศของพระ
พิธีส่งพระหรือ ส่างอิ้งอ๋อง ทำกันในคืนสุดท้ายของการถือศีลกินผัก โดยก่อนเที่ยงคืนจะทำการส่งพระกิ้วอ๋องฮุดโจ้วกลับสวรรค์ ณ บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ระหว่างทางมีการตั้งโต๊ะบูชาและจุดประทัดสนั่นทั่วเมือง
นอกที่กล่าวมาแล้วยังมีพิธีกรรมเด่นๆอีก อาทิ พิธีลุยไฟ พิธีบูชาดาว(ป้ายชิดแช) พิธีเหลี่ยมเก้ง (สวดมนต์เช้า-เย็น) พิธีสะเดาะเคราะห์หลังลุยไฟ พิธีการเลี้ยงทหาร(โขกุ้น) เป็นต้น
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเดินทางไปร่วมงานกันได้ ซึ่งนอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพแล้วยังได้บุญอีกด้วย