13 ตุลาคม วันตำรวจ เตรียมถ่ายทอดคำปราศรัย “อภิสิทธิ์” เน้นตำรวจอำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเสมอภาค และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้แนวทางสันติ หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มีความมั่นคง ทำงานเพื่อประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะมีการจัดงานวันตำรวจ ประจำปี 2552 ซึ่งกำหนดการจะมีตั้งแต่เวลา 07.00 น. พล.ต.อ.ปทีป จะเป็นประธานเพื่อทำพิธีบูชาศาลพระภูมิ ตามด้วยพิธีบูชาพระนารายณ์ จากนั้นเวลา 08.00 น. ประธานขึ้นแท่นรับความเคารพจาก ผบ.กองเกียรติยศ ทำพิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 ในฐานะที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ปรับปรุงกองตำรวจให้เป็นสากล
จากนั้น เวลา 09.00 น.จะเป็นพิธีสงฆ์ และพิธีสักการะรูปจำลอง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ที่สามารถรวบรวมตำรวจที่เป็นกองทัพ และเจ้าของคำพูด “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” ที่ห้องสารสิน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตามด้วยพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ ตร. และสถานีตำรวจ และหน่วยงานที่ได้รับรางวัลตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชน จากนั้นเวลา 13.30 น. จะมีพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ณ โรงเรียนนายตำรวจสามพราน จ.นครปฐม ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่จะมีนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงร่วมพิธีสวนสนามและกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณด้วย
สำหรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีคำปราศรัยเนื่องในวันตำรวจ ที่เตรียมถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์ ในวันที่ 13 ต.ค. มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ตำรวจยังมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเสมอภาค และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้แนวทางสันติ รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความมั่นคง เป็นศูนย์รวมจิตใจและความสามัคคีของคนในชาติ ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีความต้องการมากขึ้น ที่จะเห็นตำรวจและองค์กรของตำรวจพัฒนาก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมธิบาล
รัฐบาลจึงขอขอบคุณมามายังพี่น้องตำรวจด้วยความจริงใจที่ช่วยผลักดันแนวนโยบายของรัฐบาลในการที่จะพัฒนาข้าราชการตำรวจและองค์กรตำรวจ ขอย้ำว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญของตำรวจ พร้อมจะสนับสนุนในทุกๆ ด้าน อันจะพัฒนาศักยภาพและสร้างขวัญกำลังใจให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการตำรวจทุกนายจะมีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกันทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ที่ประชาชนไว้วางใจ เชื่อมั่นศรัทธา และสามารถให้บริการแก่พี่น้องประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนตามภารกิจและ หน้าที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีคำปราศรัยตอนหนึ่งว่า ข้าราชการตำรวจเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจจึงต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ตำรวจจึงจำเป็นต้องมีความรู้ เชี่ยวชาญในหนาที่ของตนเองในทุกๆ ด้าน เสียสละ อดทน อดกลั้น คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และต้องปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่สงบในชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติเป็นสำคัญ