xs
xsm
sm
md
lg

ยลโบสถ์งาม “เมืองอัมสเตอร์ดัม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : หมวยเกี๊ยะ
โบสถ์เก่า  โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองอัมสเตอร์ดัม
ถ้าหากยังจำกันได้ฉันเคยพาไปเที่ยวยัง “เมืองอัมสเตอร์ดัม” (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกว่าเป็น “เวนิสทางเหนือของยุโรป” กันมาแล้วครั้งหนึ่ง ในครั้งนั้นฉันได้พาไปชื่นชมกับความน่าอยู่ของเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีคลองมาก และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเรือหลังคากระจกล่องแม่น้ำ การไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินหลากหลายที่

แต่อย่างที่บอกว่าอัมสเตอร์ดัมเมืองนี้นั้นมีเสน่ห์มากหลาย และก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปชมอีกมากมาย อย่างในทริปนี้ฉันขอพาไปสัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมทางโบราณสถานที่งดงามยิ่งทางด้านศิลปะ นั่นคือ โบสถ์ ซึ่งที่เมืองอัมสเตอร์ดัมแห่งนี้มีโบสถ์ที่สำคัญๆ และงามยิ่งไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่น่าชื่นชมอยู่หลายที่
โบสถ์เวสเตอร์  ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในอัมสเตอร์ดัม
ดังที่ฉันจะพาไปรู้จักและสัมผัสกัน เริ่มจากโบสถ์แรกที่จะขอพาไปเที่ยวกันมีนามว่า “โบสถ์เวสเตอร์” (Wester Church) นับว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามที่สุดในเมืองอัมสเตอร์ดัม โบสถ์เวสเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1620 สร้างขึ้นตาม ตามแบบสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์บนยอดของหอระฆังสร้างเป็นรูปมงกุฎของจักรวรรดิออสเตรีย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกษัตริย์แม็กซิมิเลียน (Maximilian) แห่งออสเตรียได้เคยเสด็จเข้ามาพำนักรักษาตัวในอัมสเตอร์ดัม ก่อนที่จะเสด็จกลับประเทศได้พระราชทานเครื่องหมายของพระองค์นั่นคือมงกุฎ ให้เป็นที่ระลึกแก่อัมสเตอร์ดัม โบสถ์เวสเตอร์นี้จึงมีหอระฆังสูงที่สุดในอัมสเตอร์ดัมและมีระฆังที่หนักที่สุดในเนเธอร์แลนด์อยู่บนหอระฆัง ซึ่งระฆังที่อยู่บนหอนี้มีน้ำหนักรวม 7,059 กิโลกรัม หรือ 7 ตันเศษ ตัวหอมีความสูงถึง 85 เมตร และความพิเศษของโบสถ์เวสเตอร์แห่งนี้กล่าวกันว่าศพของเรมบรันด์ถูกนำมาฝังที่นี่ แต่ไม่มีเครื่องหมายบอกว่าอยู่ตรงไหน
ความสวยงามภายในโบสถ์เก่า
จากโบสถ์เวสเตอร์ที่สวยงาม เดินทางมาชมความงดงามกันต่อที่ โบสถ์เก่า (Oude Kerk) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอัมสเตอร์ดัม สร้างขึ้นในตอนต้นศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นที่สวดมนต์ให้กับเหล่านักเดินเรือที่เดินทางมายังอัมสเตอร์ดัม เดิมทีตัวโบสถ์สร้างด้วยไม้แต่เพิ่งจะมาสร้างเพิ่มเติมเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันในตอนต้นศตวรรษที่ 16 ที่โบสถ์นี้จะมีนาฬิกาที่อยู่บนหอระฆัง ซึ่งว่ากันว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรกของเนเธอร์แลนด์ และออร์แกน (เครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง) ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1724-1726 โดยคริสเตียน ฟาเตอร์ เป็นออร์แกนที่สวยที่สุดในประเทศ

และครั้นในปีค.ศ.1619 นาฬิกาได้ถูกเปลี่ยนและทำให้ดีขึ้นโดยเฮอโมนี (ผู้ประดิษฐ์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงในสมัยศตวรรษที่ 16 มีชีวิตอยู่ระหว่างปีค.ศ. 1619-1680) เมื่อเข้ามาเที่ยวชมภายในโบสถ์จะได้พบกับ สถานที่ที่ใช้เป็นที่ฝังศพของจิตรกรและจินกวีที่สำคัญ เช่น ฟอนเดลส์ รวมถึงวีรบุรุษทางทะเล ยาคอบ ฟาน เฮมแกร์ก (ผู้ค้นพบช่องแคบยิบรอลตา) และปัจจุบันโบสถ์เก่าหลังนี้ยังใช้เป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและแสดงนิทรรศการภาพเขียนต่างๆ ของจิตรกรที่สำคัญๆ ด้วย ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ทุกวัน
โบสถ์ใหม่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกตอนปลาย
และเมื่อมีโบสถ์เก่าก็ย่อมต้องมีโบสถ์ใหม่ด้วยเช่นกัน โดย “โบสถ์ใหม่” (Nieuwe Kerk) แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์และราชินีของเนเธอร์แลนด์ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาสำคัญๆ และรับเป็นวิหารหลวงมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ โบนาปาร์ค กษัตริย์ฝรั่งเศสที่มาปกครองเนเธอร์แลนด์ในตอนต้นศตวรรษที่ 18

โบสถ์ใหม่ตั้งอยู่ข้างวังหลวง โดยถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1490 เมื่อชุมชนของอัมสเตอร์ดัมขยายตัวจากบริเวณรอบโบสถ์เก่า ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกตอนปลาย แต่ได้ถูกไฟไหม้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งภายหลังได้สร้างตกแต่งใหม่เป็นแบบผสมเรอเนซองส์ และได้ตกแต่งภายในและแท่นบูชารวมถึงออร์แกนอย่างสวยงามเป็นแบบโกธิก และโบสถ์นี้เป็นที่ฝังศพของคนสำคัญๆ ของชาติ เช่น เฮนดริก เดอ ไกเซอร์ นายพลเรือผู้เสียชีวิตในการบกับฝรั่งเศส
โบสถ์เซนต์นิโคลัส เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
สำหรับโบสถ์ต่อไป ที่จะพาไปชื่นชมความงดงามกันนั้น มีชื่อว่า “โบสถ์เซนต์นิโคลัส” (Sint Nicolaaskerk) เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่เดิมโบสถ์แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวเรือเพื่อขอพรก่อนจะเดินทางออกเดินทางสู่ทะเล

สถาปัตยกรรมของโบสถ์เซนต์นิโคลัสหลังนี้ บนยอดโบสถ์มีลักษณะเป็นทรงโดมมีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคนั้นจะติดไฟสีแดงทำหน้าที่เป็นประภาคาร โดยโบสถ์เซนนิโคลัสถูกออกแบบโดย AC Bleys สร้างแล้วสร็จในปีค.ศ. 1887 นับว่าเป็นโบสถ์ที่ใหม่มากเมื่อเทียบกับโบสถ์อื่นๆ ในใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัม
โบสถ์โปรตุเกสสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบบารอก
โบสถ์ต่อไปที่น่าเดินทางไปเที่ยวกันเพื่อดูความสวยงาม คือ “โบสถ์โปรตุเกส” (Mozes-en-Aaron Church) จากตลาดใหม่ ถ้าเดินตรงไปประมาณ 5 นาที จะพบโบสถ์โปรตุเกสสีขาวตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ แต่เดิมนั้นบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่ของชาวยิว ซี่งเรียกตนเองว่าโปรตุเกสอิสราเอลิเตส เนื่องจากชาวยิวที่อยู่ในสเปน ได้ลี้ภัยเข้าไปอยู่ในประเทศโปรตุเกส เพราะถูกบีบบังคับไม่ให้ปฏิบัติภารกิจทางศาสนา และจากโปรตุเกส ชาวยิวจึงได้โยกย้ายเข้ามาในอัมสเตอร์ดัม ในตอนต้นศตวรรษที่ 17 ชาวยิวเหล่านี้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการเจียระไนเพชรเป็นอย่างมาก ทำให้อัมสเตอร์ดัมมีชื่อเสียง และกลายเป็นศูนย์กลางในการเจียระไนเพชรของโลกในเวลาต่อมา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านของชาวยิวที่อาศัยอยู่แถบนั้นได้ถูกรื้อถอนเพื่อนำไม้ไปใช้เป็นเชื้อเพลิง เนื่องจากความหนาวเย็น ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชาวยิวอาศัยอยู่ในอัมสเตอร์ดัมทั้งหมด 140,000 คน แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง มีชาวยิวเหลืออยู่เพียง 20,000 คนเท่านั้น
ความงดงามด้านในโบสถ์โปรตุเกส
โบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่ในส่วนที่เรียกว่า วาเตอร์โลสแควร์ ใกล้กับที่ว่าการเมืองแห่งใหม่ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1840 เป็นสถาปัตยกรรมแบบบารอก แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายเสียหายโดยทหารนาซี และได้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1970 เดิมใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพวกคาทอลิกในยุคที่โปรเตสแตนต์เรืองอำนาจ ภายหลังจึงตกเป็นสมบัติของพวกยิวและกลายเป็นโบสถ์ของยิวในที่สุด
โบสถ์เซาเดอร์ เป็นโบสถ์ของนิกายโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่
แล้วโบสถ์สุดท้ายที่จะขอพาไปเที่ยวชมกันคือ “โบสถ์เซาเดอร์” (Zuiderkerk) โบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1614 โดยสถาปนิก เฮนดริก เดอ ไกเซอร์ เป็นโบสถ์ของนิกายโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ แต่ไม่ได้ใช้เป็นโบสถ์มาตั้งแต่ปีค.ศ.1929 จนกระทั่งได้รับการบูรณะเมื่อปีค.ศ. 1988 และใช้เป็นที่ทำการของแผนกผังเมือง และทั้งหมดนี้คือโบสถ์ที่เก่าแก่และงดงามของเมืองอัมสเตอร์ ที่ถ้าหากใครมีโอกาสมาเที่ยวยังเมืองอัมสเตอร์ดัมแล้วขอบอกว่าอย่าพลาดการมาเที่ยวชมให้ได้น่ะ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“อัมสเตอร์ดัม” (Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่เมืองเฮก (The Hague) ชาวเนเธอร์แลนด์ใช้ภาษาดัตช์ (Dutch) และพูดได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ใช้เงินยูโร (Euro) 1 ยูโร ประมาณ 46 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น