ระเบิดที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุมของผู้นำชนเผ่าของอิรัก ที่ร่วมกันประชุมที่โรงแรมอัล-ราชีค ในกรุงแบกแดด ต่างต้องผวาไปตามๆ กัน หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงใกล้กระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ควันจากการระเบิดคละคลุ้งไปทั่วห้องประชุม
เจ้าหน้าที่ของอิรักเชื่อว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ และกลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่ เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลชีอะห์ หลังกองทัพสหรัฐฯ ถอนกำลังออกไปจากเขตเมือง ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกว่า กองทัพรัฐบาลอิรักจะไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับประเทศได้
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั่วกรุงแบกแดด เป็นการโจมตีของมือระเบิดพลีชีพที่ขับรถบรรทุกระเบิดโจมตีที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และอาคารรัฐสภา โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดที่ด้านหน้าอาคาร และรถยนต์หลายคันบนถนน ถูกแรงระเบิดอัดพังยับ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 คน บาดเจ็บอีกกว่า 400 คนจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
รัฐบาลอิรักประกาศจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุร้าย ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังประณามการก่อเหตุระเบิด
นับว่าเป็นเหตุนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 18 เดือนของอิรัก และเกิดขึ้นก่อนวันครบรอบ 6 ปีเหตุระเบิดสำนักงานสหประชาชาติในอิรัก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน รวมทั้งทูตพิเศษสหประชาชาติประจำอิรัก
เจ้าหน้าที่ของอิรักเชื่อว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ และกลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่ เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลชีอะห์ หลังกองทัพสหรัฐฯ ถอนกำลังออกไปจากเขตเมือง ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกว่า กองทัพรัฐบาลอิรักจะไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับประเทศได้
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั่วกรุงแบกแดด เป็นการโจมตีของมือระเบิดพลีชีพที่ขับรถบรรทุกระเบิดโจมตีที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และอาคารรัฐสภา โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดที่ด้านหน้าอาคาร และรถยนต์หลายคันบนถนน ถูกแรงระเบิดอัดพังยับ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 คน บาดเจ็บอีกกว่า 400 คนจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
รัฐบาลอิรักประกาศจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุร้าย ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังประณามการก่อเหตุระเบิด
นับว่าเป็นเหตุนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 18 เดือนของอิรัก และเกิดขึ้นก่อนวันครบรอบ 6 ปีเหตุระเบิดสำนักงานสหประชาชาติในอิรัก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน รวมทั้งทูตพิเศษสหประชาชาติประจำอิรัก