เอเจนซี - ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เมื่อวันอังคาร(21) ประกาศว่าประเทศของเขารับประกันความปลอดภัยตามหลังเหตุมือระเบิดพลีชีพโจมตีโรงแรมหรู 2 แห่งในกรุงจาการ์ตาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เหจุโจมตีโรงแรมเจดับเบิลยู แมริออทและริตซ์-คาร์ลตัน ได้สังหารชีวิตประชาชนไป 9 รายและบาดเจ็บ 53 คน ในจำนวนนั้นมีทั้งคนอินโดนีเซียและชาวต่างขาติ ซึ่งนับเป็นเหตุโจมตีครั้งแรกในประเทศแห่งนี้ในช่วงเวลากว่า 4 ปี
"สารของผมที่ส่งไปถึงชาวโลกคืออินโดนีเซียสามารถผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้และจะยังคงให้คำรับประกันความปลอดภัยอย่างที่สุดในอนาคต" ประธานาธิบดีซุซิโล บังบัง ยุโธโยโน กล่าวระหว่างพิธีเปิดพิธิภัณฑ์แห่งใหม่ในเมืองหลวง
"ในส่วนของการสืบสวน ตำรวจได้รับความช่วยเหลือจากทหารและหน่วยข่าวกรอง ซึ่งผมก็กำลังจับตาดูความพยายามของพวกเขา" เขากล่าว "ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถคลี่คลายโดยฉับพลันในเหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา"
เหตุระเบิดโรงแรมมีลักษณะคล้ายกับปฏิบัติการโจมตีของเครือข่ายญะห์มาอะห์ อิสลามียะห์ (เจไอ) ที่มีเป้าหมายเล่นงานโรงแรมของชาวตะวันตกและชาวต่างชาติ โดยกลุ่มหัวรุนแรงนี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุจู่โจมหลายระลอกก่อนหน้านี้ในอินโดนีเซีย ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเหตุระเบิดบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งสังหารชีวิตประชาชนไปถึง 202 ราย
ตำรวจบอกว่าพวกเขาได้นำตัวอย่างดีเอ็นเอจากครอบครัวของชายชาวอินโดนีเซีย 2 คนที่เชื่อว่าเป็นมือระเบิดพลีชีพมาตรวจสอบ ในจำนวนนั้นคือ นูร์ฮาสบี นักศึกษาที่มีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกของกลุ่มเจไอ ส่วนอีกคนคือ อิบราฮิม คนงานร้านขายดอกไม้ในโรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน
มือระเบิดเข้าเช็กอินในโรงแรมแมริออทในฐานะแขกของโรงแรมเมื่อวันนพุธ(15) และใช้ห้อง 1808 บนชั้น 18 ประกอบระเบิด ขณะเดียวกันตำรวจก็พบระเบิดลูกที่ 3 ในกระเป๋าคอมพิวเตอร์แล็ปทอปภายในห้องดังกล่าวด้วย
แหล่งข่าวตำรวจรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์(20) สมมุติฐานหนึ่งที่ตำรวจพุ่งเป้าคือมือระเบิดอาจวางแผนกดชนวนระเบิดบนชั้น 18 ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความตื่นกลัวให้แก่แขกที่เข้าพักในหนีตายลงมายังล็อบบีที่อยู่ด้านข้าง และ ณ บริเวณล็อบบีนี้เองหนึ่งในมือระเบิดจะกดชนวนระเบิดลูก 3 ที่สามารถทำให้แขกเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
อินโดนีเซียเพิ่มระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นขึ้นตั้งแต่เหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์(10) โดยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยระเบิดได้ปฏิบัติการตรวจค้นตามกลุ่มอาคารต่างๆที่อยู่ใหล้สถานทูตออสเตรเลียเมื่อวันอังคาร(14) หลังมีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาแจ้งว่ามีระเบิดลูกหนึ่งถูกซุกซ่อนไว้ในอาคาร
นอกจากนี้ยังพบว่ามีคำขู่วางระเบิดหลายครั้งนับตั้งแต่วันศุกร์(10) ในจำนวนนั้นรวมไปยังบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งรัฐด้วย ทำให้ทางบริษัทเพอร์ตามินา ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ณ โรงกลั่นและคลังน้ำมันต่างๆ
ธนาคารหลายแห่ง รวมไปถึงธนาคารรอยัลแบงค์ออฟสกอตแลนด์และดีบีเอสของสิงคโปร์ ได้ห้ามเจ้าหน้าที่เดินทางเยือนอินโดนีเซียชั่วคราว ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปอิงค์และธนาคารอื่นๆได้ออกกฎจำกัดการเดินทางของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่ามาตรการเข้มงวดดังกล่าวดูเหมือนไม่กระทบต่อเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเท่าใดนัก หากว่าไม่มีเหตุโจมตีลักษณะเดียวกันกับเมื่อวันศุกร์(10) เกิดขึ้นซ้ำอีก
นักวิเคราะห์บอกต่อว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานักลงทุนให้ความสนใจที่เข้ามาลงทุนในตลาดอินโดนีเซียมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากผลการเลือกตั้งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ประธานาธิบดีหัวปฏิรูป ยุโธโยโน ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย รวมทั้งแนวโน้มที่สดใสของการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยุโธโยโน ยังคงมีงานหนักสำหรับฟื้นฟูความเชื่อมั่น