เอเอฟพี/เอเจนซี-เกิดเหตุระเบิดโรงแรมชื่อดัง 2 แห่ง ในย่านใจกลางกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเมื่อวานนี้ (17) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ราย ส่วนยอดผู้บาดเจ็บล่าสุดมีมากกว่า 60 รายซึ่งถึงขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่งและคาดว่าจำนวนผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกในเร็วๆนี้ด้านประธานาธิบดีอินโดนีเซียระบุเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย
สถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวีของอินโดนีเซียรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ (17) ได้เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว 2 แห่ง ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงจาการ์ตา คือโรงแรมริตซ์-คาร์ลตันและโรงแรมเจดับบลิว แมริออต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 60 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 4 ราย
รายงานข่าวระบุว่าเหตุระเบิดวานนี้ ถือเป็นเหตุรุนแรงครั้งแรกในรอบหลายปีที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน ดำเนินนโยบายปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธภายในประเทศอย่างต่อเนื่องจนสถานการณ์ด้านความมั่นคงในอินโดนีเซียดีขึ้นเป็นลำดับ
รัสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 2 รายซึ่งขณะนี้อาการยังทรงตัว ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ทิม แม็คเคย์ ประธานอำนวยการของบริษัทพีที โฮลซิม ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตซีเมนต์ของอินโดนีเซีย ได้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดวานนี้ด้วยเช่นกัน
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งซึ่งวิ่งออกกำลังกายผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออต จากนั้นอีกประมาณ 5 นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงระเบิดอีกลูกที่โรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน โดยแรงระเบิดทำให้ด้านหน้าของโรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน เสียหายอย่างหนัก และมีเศษกระจกกระจายอยู่ตามพื้นถนนด้านนอกโรงแรม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจอินโดนีเซียสามารถเก็บกู้ระเบิดได้อีกลูกหนึ่งในห้องพักหมายเลข 1808 ของโรงแรมเจดับบลิว แมริออต หลังเกิดการระเบิดที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมแห่งนี้ไม่กี่ชั่วโมง โดยเบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าห้องพักดังกล่าวอาจเป็นห้องที่ใช้ในการบัญชาการวางระเบิดในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจนายหนึ่งในที่เกิดเหตุระบุว่ายังไม่อาจสรุปได้ว่าเหตุอุกอาจกลางกรุงจาการ์ตาครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มใด
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโนของอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุหลังเหตุระเบิดไม่นานได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายอย่างแน่นอน แต่ผู้นำอินโดนีเซียไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ หรือ “เจไอ” ที่เคยก่อวินาศกรรมที่เกาะบาหลีในปี 2002 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 202 คน และอยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิดด้านนอกโรงแรมเจดับบลิว แมริออตเมื่อปี 2003 ที่มีผู้เสียชีวิต12 คนหรือไม่
หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย ได้ออกมาประณามเหตุวางระเบิดครั้งนี้ว่า เป็นการก่อเหตุที่ “ป่าเถื่อน” พร้อมประกาศเตือนให้พลเมืองออสเตรเลียทบทวนการเดินทางไปอินโดนีเซียในระยะนี้หลังมีรายงานว่ามีชาวออสเตรเลียอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บจากเหตุระเบิดวานนี้
สถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวีของอินโดนีเซียรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ (17) ได้เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว 2 แห่ง ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงจาการ์ตา คือโรงแรมริตซ์-คาร์ลตันและโรงแรมเจดับบลิว แมริออต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 60 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 4 ราย
รายงานข่าวระบุว่าเหตุระเบิดวานนี้ ถือเป็นเหตุรุนแรงครั้งแรกในรอบหลายปีที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน ดำเนินนโยบายปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธภายในประเทศอย่างต่อเนื่องจนสถานการณ์ด้านความมั่นคงในอินโดนีเซียดีขึ้นเป็นลำดับ
รัสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 2 รายซึ่งขณะนี้อาการยังทรงตัว ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ทิม แม็คเคย์ ประธานอำนวยการของบริษัทพีที โฮลซิม ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตซีเมนต์ของอินโดนีเซีย ได้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดวานนี้ด้วยเช่นกัน
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งซึ่งวิ่งออกกำลังกายผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออต จากนั้นอีกประมาณ 5 นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงระเบิดอีกลูกที่โรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน โดยแรงระเบิดทำให้ด้านหน้าของโรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน เสียหายอย่างหนัก และมีเศษกระจกกระจายอยู่ตามพื้นถนนด้านนอกโรงแรม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจอินโดนีเซียสามารถเก็บกู้ระเบิดได้อีกลูกหนึ่งในห้องพักหมายเลข 1808 ของโรงแรมเจดับบลิว แมริออต หลังเกิดการระเบิดที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมแห่งนี้ไม่กี่ชั่วโมง โดยเบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าห้องพักดังกล่าวอาจเป็นห้องที่ใช้ในการบัญชาการวางระเบิดในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจนายหนึ่งในที่เกิดเหตุระบุว่ายังไม่อาจสรุปได้ว่าเหตุอุกอาจกลางกรุงจาการ์ตาครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มใด
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโนของอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุหลังเหตุระเบิดไม่นานได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายอย่างแน่นอน แต่ผู้นำอินโดนีเซียไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ หรือ “เจไอ” ที่เคยก่อวินาศกรรมที่เกาะบาหลีในปี 2002 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 202 คน และอยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิดด้านนอกโรงแรมเจดับบลิว แมริออตเมื่อปี 2003 ที่มีผู้เสียชีวิต12 คนหรือไม่
หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย ได้ออกมาประณามเหตุวางระเบิดครั้งนี้ว่า เป็นการก่อเหตุที่ “ป่าเถื่อน” พร้อมประกาศเตือนให้พลเมืองออสเตรเลียทบทวนการเดินทางไปอินโดนีเซียในระยะนี้หลังมีรายงานว่ามีชาวออสเตรเลียอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บจากเหตุระเบิดวานนี้