จระเข้เขาใหญ่ป่วน กรมอุทยานฯเตรียมจับตรวจดีเอ็นเอ

กรณีมีนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเล่นน้ำตกที่ เหวสุวัต เส้นทางเดินป่าผากล้วยไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และสามารถถ่ายภาพจระเข้ขนาดใหญ่ราว 1 เมตร กำลังนอนผึ่งแดดอยู่บนลานหิน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเจอระบุว่ามีจระเข้อยู่ถึง 2 ตัวด้วยกันนั้น และมีการส่งต่อทางฟอร์เวิร์ด เมล นั้นทางกรมอุทยานเดรงว่าจะสร้างความตื่นตกใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอุทยานฯเขาใหญ่เป็นอย่างมาก

โดย มาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ภาพที่เห็นเป็นจระเข้ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จริงๆ โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีก่อน เคยมีนักท่องเที่ยวไปพบและถ่ายภาพได้ซึ่งขณะนั้นยังมีขนาดเล็กอยู่ แต่ถึงปัจจุบันจากการติดตามของเจ้าหน้าที่พบว่าจระเข้ทั้ง 2 ตัว แต่ละตัวยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 70 กก. ตัวหนึ่งผิวสีดำ อีกตัวผิวสีเหลืองคาดดำ ส่วนใหญ่จะพบที่บริเวณลำน้ำตะคอง และลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ซึ่งเป็นจุดที่มีวังน้ำลึก และจระเข้มักจะขึ้นมานอนผึ่งแดดเป็นประจำในช่วงที่มีแสงแดดรำไร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันว่าจระเข้คู่นี้เป็นจระเข้น้ำจืดสายพันธ์ไทย แท้ ( Siamese Crocodile ) เหมือนกับที่มีรายงานการเจอตัวที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตาม รวมทั้งหาที่มาที่ไปของจระเข้ดังกล่าวด้วย และจะจับจระเข้ไปตรวจดีเอ็นเอว่า เป็นจระเข้น้ำจืดชนิดใด

ระหว่างนี้ทางอุทยานได้ทำป้ายติดประกาศเตือน ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังจระเข้คู่นี้แล้ว โดยป้ายดังกล่าวติดอยู่บริเวณจุดลำน้ำลำตะคอง ซึ่งห่างจากฝั่งไม่เกิน 100 เมตรและก่อนจะเดิน ทางในเส้นทางเดินป่า ก็มีการบอกกล่าวต่อนักท่องเที่ยวเพื่อให้ระวัง และไม่ให้ลงเล่นน้ำตกในจุดดังกล่าวด้วย

ที่ผ่านมายืนยันว่ายังไม่เคยมีนักท่องเที่ยวถูกจระเข้ทำร้าย แต่ก็ไม่ควรประมาท อีกทั้งไม่อยากให้นักท่องเที่ยวทำร้ายจระเข้ด้วย เพราะสำหรับจระเข้คู่นี้หากเป็นสายพันธุ์ไทยแท้ ก็ถือว่าเป็นข่าวดีมาก เนื่องจากประชากรของจระเข้น้ำจืด ในธรรมชาติ ของไทยตอนนี้ เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ปัจจุบันมีรายงานพบตัวเป็นๆแถวอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติปางสีดาเท่านั้น และอยู่ในระหว่างการศึกษาร่วมกับสมคมอนุรักษ์สัตว์ป่า ตั้งทีมนักวิจัยติดตามพฤติกรรมของจระเข้ที่พบขึ้นมาวางไข่ริมน้ำมาปีกว่าๆ แล้ว และเป็นข่าวดีว่าก่อนหน้านี้แม่จระเข้ขึ้นมาวางไข่และถูกตัวเงินตัวทองกินหมด แต่เมื่อเร็วๆนี้พบว่ามีลูกจระเข้เกิดใหม่อย่างน้อยอีก 2 ตัว

ด้าน บุญเรือง สายศร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่คนแรก เปิดเผยว่า สมัยก่อนจุดที่พบจระเข้ เคยเป็นแหล่งที่อยู่ของตะโขง แต่สูญหายไปนานแล้ว นอกจากนี้เมื่อก่อนบริเวณดังกล่าวเคยมีตัวนาก สัตว์ลักษณะคล้ายหนูตัวใหญ่ อาศัยอยู่ชุกชุม แต่ตอนนี้ลดลงไปมากจนแทบไม่เห็น ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจถูกจระเข้จับกินหมด

อนึ่ง สำหรับจระเข้ที่พบบริเวณอุทยานฯเขาใหญ่ นั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นจระเข้น้ำจืดชนิดใด มีคนนำมาปล่อยไว้หรืออาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ มาก่อนเพราะไม่มีรายงานการพบเห็น และเพิ่งมาพบเอาตอนเป็นตัวโตแล้ว ไม่ใช่พบมาตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ

ในหมู่นักท่องเที่ยวมีคนไปพบเจอและถ่ายรูปกันมาเยอะ แต่เนื่องจากไม่ได้รับการนำเสนอเป็นข่าวเพราะความไม่ชัดเจนในเรื่องถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ ต่างกับการค้นพบจระเข้น้ำจืดที่มีอาศัยตามธรรมชาติที่ อช.ปางสีดา อช.แก่งกระจาน เขตฯอ่างฤาไน และเขตฯห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นเรื่องจริง จึงนำมาเผยแพร่ในลักษณะรายงานการค้นพบ .