ททท. ย้ำชัดปี 2553 เป็นปีแห่งการฟื้นเศรษฐกิจชาติ ต่อยอด “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” เสนอจุดต่างเมืองคุ้มค่าน่าเที่ยว “Amazing Thailand…Amazing Value” นำคู่แข่งขัน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เผยถึงแนวทางการส่งเสริมตลาดต่างประเทศว่า จะมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์และการสื่อสารการตลาด ผ่านกิจกรรม Fam Trip ทั้งคณะสื่อมวลชนและตัวแทนผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาทัศนศึกษาและโปรโมตการท่องเที่ยว โดยยังคงสานต่อจุดแข็งของแคมเปญ Amazing Thailand Amazing Value รวมทั้งการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ฟื้นฟูความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องด้วยภาพยนตร์โฆษณาในลักษณะ Testimonial Ads และเร่งฟื้นฟูตลาดเอเชียตะวันออกด้วยการจัดโรดโชว์ทีม ไทยแลนด์ที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลี
เสริมด้วยการใช้ Celebrity สร้างกระแส ตอกย้ำภาพลักษณ์เชิงบวก และเจาะกลุ่มตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งขยายช่องทางการรับรู้และการขาย ผ่านพันธมิตรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นตลาด ในรูปแบบ Online Marketing และการส่งเสริมการขายในรูปแบบโรดโชว์สู่พื้นที่ใหม่ (ตลาดอเมริกา ตลาดรัสเซีย-ซีไอเอส ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดเอเชีย-เอเชียใต้) อาทิ เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก และเคียฟ (กันยายน 2552) ปากีสถาน เนปาล ศรีลังกา (กันยายน 2552) เชนได นาโงยา ฮิโรชิมา (กันยายน 2552) ลอสแอนเจลิส ซีแอตเติลแวนคูเวอร์ โตรอนโต นิวยอร์ค (ตุลาคม 2552) โอมาน อิหร่าน (กรกฎาคม 2553) จอร์แดน ซีเรีย (กรกฎาคม 2553) โปแลนด์ เชค (กันยายน 2553)
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเด่นที่สำนักงาน ททท. ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วโลก ร่วมกันส่งเสริมได้แก่ Teaching Pro Golf FAM Trip (ทุกภูมิภาค) โดยเชิญโปรกอล์ฟร่วมทดสอบสนามและทำการแข่งขันในประเทศไทย และ TAT 50th Anniversary Mega Fam Trip เพื่อ Update สถานการณ์และสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการและสื่อมวลชนร่วมฉลองในโอกาสที่ ททท.ครบรอบ 50 ปี โดยจะมีการจัดกิจกรรมเน้น Seven Green และภาพลักษณ์ใหม่ในการทำงานของ ททท. ในทศวรรษใหม่
ด้านการส่งเสริมและพัฒนาตลาดตามกลุ่มความสนใจเฉพาะ (Niche Market) จะเน้นในกลุ่มกอล์ฟ กลุ่ม Wedding & Honeymoon กลุ่ม Diving และกลุ่มเยาวชน (Youth) อาทิ เชิญนักกอล์ฟจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเข้ามาร่วมแข่งขัน ในโครงการ TAT East Asia Regional Golf Tournament และจัดการแข่งขัน Cleveland Srixon CSSB Open 2010 สำหรับตลาดมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2552 ณ จังหวัดชลบุรี และส่งเสริมกลุ่ม wedding ในตลาดเวียดนาม ในโครงการ Amazing Moment in Life และตลาดอินเดีย ในโครงการ Amazing Thailand Weddings
ส่วนตลาดรัสเซีย ในโครงการ Celebrities’ Honeymoon และตลาดฝรั่งเศส ในโครงการ Amazing Romance – Amazing Thailand เพื่อให้ประเทศไทยเป็น Honeymoon Destination ของกลุ่มประเทศเป้าหมายเหล่านี้ ส่งเสริมกลุ่มดำน้ำ ในตลาดญี่ปุ่น ตามโครงการ Diving in Thailand และเข้าร่วมงาน DEMA Show ในสหรัฐอเมริกา ณ เมืองออรันโด ส่งเสริมกลุ่มเยาวชน จากตลาดตะวันออกกลาง ในโครงการ Thailand Student Camp และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Jump to Amazing Thailand รวมถึงการจัดสัมมนาแก่ผู้ปกครองชาวเกาหลีใต้เกี่ยวกับการศึกษาในประเทศไทย ตามโครงการ Education in Thailand
ในส่วนของการส่งเสริมสินค้าทางการท่องเที่ยว ได้จัดกิจกรรมทางการตลาดด้วยการจัดทำคู่มือท่องเที่ยวกรุงเทพฯ และบัตรราคาพิเศษ สำหรับที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ผนวกการใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคระบบขนส่งมวลชน BTS MRT Airport link สำหรับตลาดเอเชียตะวันออก ตามโครงการ 72 Hours Amazing Thailand และร่วมกับบริษัทนำเที่ยว สายการบิน จำหน่ายแพ็คเกจทัวร์ราคาพิเศษ สำหรับตลาดเอเชียใต้
ด้านส่งเสริมการขายสำหรับกลุ่มตลาด leisure การบริหารลูกค้า กิจกรรมสร้างสัมพันธ์ (CRM) ในตลาดยุโรป ด้วยโครงการ Thailand Through the Lens ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจากปี 2551 และต่อยอดจากโครงการ Amazing Thailand Card & Thailand Fan Club ในตลาดหลัก (สหราชอาณาจักร เยอรมนี ตะวันออกกลาง)
ทั้งนี้ทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศ กำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวไทย 90 ล้านคน/ครั้ง (+3.38%) คิดเป็นรายได้ประมาณ 430,000 ล้านบาท (+5.50%) โดยเน้นการจัดกิจกรรมเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ประกอบด้วย กลุ่มเยาวชน คนทำงาน ครอบครัว ผู้สูงอายุ ขับรถเที่ยว ชอบเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง ผจญภัย สุขภาพ ฝรั่ง และจะขยายฐานกลุ่มเขยฝรั่ง Expat ฯลฯ
ด้านกลยุทธ์และแนวทางในภาพรวมยังเน้นด้านเศรษฐกิจ คือ สร้างกระแสการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สานต่อแคมเปญ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ร่วมกับวาระ ททท. ครบรอบ 50 ปี ชูเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ ตอกย้ำจุดขายที่แตกต่างกันให้เป็นที่จดจำมากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค สร้างตระหนักรู้เรื่องการท่องเที่ยวอย่างรู้ค่า และส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ประกอบด้วย
ภาคเหนือ “วัฒนธรรมล้ำค่า งามผืนป่าธรรมชาติ” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม” ภาคกลาง “ท่องเที่ยวถวิลหาอดีต (วันวานยังหวานอยู่)” ภาคใต้ “ป่าสวย ทะเลใส หลากหลายวัฒนธรรม” ภาคตะวันออก “เที่ยวสนุก ทุกระดับ”
โดย ททท. จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับประเทศ อาทิ โครงการ บินไปบินกลับ ขับรถเที่ยว ปี 2553 โครงการเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2553 โครงการ TAT Amazing Fun Golf 2010 โครงการส่งเสริมตลาดไมซ์ โครงการออมบุญอุ่นใจ เที่ยวไทย 50 เส้นทาง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมที่เป็นโครงการในระดับภูมิภาค ได้แก่
ภาคเหนือ : การส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยว East – West Corridor โครงการเปิดประตูสู่วัฒนธรรมอาณาจักรภูกามยาว ภาคอีสาน : การส่งเสริมปีท่องเที่ยวอีสาน ด้วยกิจกรรมสร้างกระแส เช่น Amazing I -San Fair I – San Romance แซบสกล ผจญภัยมุก สนุกนคร ฯลฯ ภาคกลาง : โครงการเที่ยวเพลินใจสไตล์วันวาน โครงการเที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง ภาคใต้ : โครงการเที่ยวใต้ตามสไตล์ที่ชอบ หลากหลายวัฒนธรรม โครงการมหัศจรรย์ 2 ฝั่งทะเลใต้ ภาคตะวันออก : โครงการอร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน โครงการสีสันตะวันออก
ทั้งนี้ จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมืองของไทย และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติบางตลาด แต่สถานการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากปรับแผนการเดินทางออกนอกประเทศ หันมาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ดังนั้น ยุทธศาสตร์การดำเนินงานในปี 2553 จึงให้ความสำคัญด้านคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และรักษาจุดเด่นด้านความคุ้มค่าในการใช้จ่าย แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ (Authenticity) อัธยาศัยไมตรี ช้อปปิ้ง เพื่อสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่ง “การต่อยอด เพิ่มมูลค่า หาจุดต่าง” โดยวางเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 530,000 ล้านบาท
สำหรับตลาดคนไทย จะขยายผลจากแคมเปญ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการสร้างกระแสให้คนไทยรับรู้ถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีต่อเศรษฐกิจของชาติ พร้อมผนวกใช้โอกาสครบรอบ 50 ปี ของ ททท. เป็นตัวสะท้อนถึงเส้นทางการเติบโตของอุตสาหกรรม ซึ่งทุกคนและทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกัน
