ดอกไม้งามมากสีสันสดใส ยามเห็นชีวิตก็แสนสุข ด้วยสีสันอันชวนดึงดูดตาและกลิ่นหอมของดอกไม้บางสายพันธุ์ยังส่งกลิ่นกำจรกำจายไปทั่ว ส่งผ่านความสดชื่นให้แก่ทุกชีวิตที่เข้าไปสัมผัส
และเพราะความรักอยากเห็นและสัมผัสความงดงามของดอกไม้ แบบพลิ้วไหวไปตามแรงลม กระจายตัวกันอยู่ตามทุ่งกว้างสุดปลายสายตา จึงทำให้ช่วงหน้าฝนนี้ "ตะลอนเที่ยว "ต้องมาเยือนที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เพื่อมาแย้มยลชมเจ้า "ดอกกระเจียว"ที่กำลังแตกหน่อชูช่อสีชมพูดารดาษเกลื่อนทุ่งหญ้าเพ็กสีเขียวขจี เบ่งบานท้าสายฝนและหมอกขาวให้สมกับที่ได้รับสมญานามว่าเป็น"ราชินีดอกไม้แห่งหน้าฝน"
1...
ก่อนจะลงย่างกรายไปตามทุ่งดอกกระเจียว เราควรจะรู้จักดอกกระเจียวให้มากกว่าสีสันสวยกลางท้องทุ่งเสียหน่อย
ดอกกระเจียว มีชื่อเรียกหลากหลายแตกต่างไปตามภูมิภาคและท้องถิ่น กระเจียวแดง ดอกอีเจียว กาเตียว ก็มีใช้เรียกขึ้นไปทางภาคเหนือบางเรียก "อาวแดง" ส่วนทางใต้เรียกว่า "จวด" ก็มี ทั้งยังมีชื่อสามัญว่าเป็น "ทิวลิปสยาม" ซึ่งบ่งบอกความงดงามของดอกไม้ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกมีเหง้าอยู่ในดิน จะพักตัวในฤดูหนาวและร้อน เมื่อถึงฤดูฝนจึงจะเริ่มผลิใบและดอก ใบยาวคล้ายใบพาย ออกใบและดอกพร้อมกัน ต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ดอกสีเหลืองในแดง กาบดอกสีม่วง ออกดอกพร้อมกัน
กระเจียว ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ เบ่งบานในภูมิอากาศชื้นเย็น มีถิ่นกำเนิดทาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และตามเขตชายแดนไทย-ลาว ตลอดจนชายแดนไทย-เขมร ดอกกระเจียวจะขึ้นและบานเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝนเท่านั้น คือ เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
2...
สำหรับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวขึ้นชื่อของเมืองไทย มี 2 แห่งด้วยกัน ล้วนต่างอยู่ใน จ.ชัยภูมิ ทั้งสิ้น ซึ่งหนึ่งนั้นก็คือที่อุทยานฯไทรทอง และอีกหนึ่งนั้นคือที่ อุทยานฯป่าหินงาม เป้าหมายหลักของเราในครั้งนี้ โดยจากกรุงเทพฯเราออกเดินทางแต่เช้าตรู่มุ่งสู่ "ไร่ภูเทพพิมาน" อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่พักของเราในค่ำคืนนี้
ไร่ภูเทพพิมาน อยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกกระเจียว ที่นี่มีที่พักทั้งแบบเรือนแถว ห้องพักหลังเดี่ยว กระท่อมปีกไม้ มีห้องพักทั้งหมด 36 ห้อง ให้เลือกพักในราคาย่อมเยาเคล้าบรรยากาศอันร่มรื่นของไร่เกษตรผสมผสาน ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อม มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
หลังเก็บข้าวของ ล้างหน้าล้างตา "ตะลอนเที่ยว" ไม่รอช้า ออกเดินทางสู่ทุ่งดอกกระเจียวในทันที ระหว่างทางเราไปแวะเที่ยวยัง "หมู่บ้านดิน" ที่บ้านเทพพนา ต.บ้านไร่ กันก่อน
หมู่บ้านดินที่นี่ เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 45 จากการการรวมตัวกันของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและที่พักชุมชนสำหรับนักท่องเที่ยว ในหมู่บ้านดินมีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ อาทิ ช่องหินหนีภัย คลองปูราชินี ถ้ำเทพพิทักษ์(ถ้ำเพียงดิน) หอชมวิวที่ขึ้นไปมองลงมาเห็นทิวทัศน์ของหมู่บ้านและพื้นที่รอบๆได้อย่างสวยงามกว้างไกล
จากหมู่บ้านดิน "ตะลอนเที่ยว"เขยิบใกล้ทุ่งดอกกระเจียวเข้าไปอีก แต่ว่ายังไม่ถึง เพราะเราเลือกไปแวะซึมซับความชุ่มชื่นของธรรมชาติกันก่อนที่ "น้ำตกเทพพนา" น้ำตกขนาดกลางที่เกิดจากลำห้วยกระโจนที่ไหลจากเทือกเขาพังเหย แบ่งเป็นสามชั้นลดหลั่นกัน ชั้นบนสุดมีความสูงประมาณ 2-3 เมตร ชั้น 2 สูงประมาณ 2-3 เมตร และชั้นสุดท้ายมีความสูงประมาณ 6 เมตร ซึ่งจะมีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น
เอาล่ะ หลังจากอุ่นเครื่องแวะเที่ยวละแวกใกล้เคียงมา 2 จุด ทีนี้ก็ได้เวลาเข้าอุทยานฯ ขึ้นป่าหินงามบนเขาพังเหย เพื่อไปชมทุ่งดอกกระเจียวกันเสียที
ทุ่งดอกกระเจียวอุทยานฯป่าหินงาม ถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวแปลงใหญ่ที่สุดในเมืองไทย การเที่ยวชมในปัจจุบันนั้นสะดวกสบาย เพราะทางอุทยานฯมีรถรางวิ่งรับ-ส่งบริการนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ นอกจากนี้ยังสร้างสะพานไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินออกนอกลู่นอกทางไปเหยียบย่ำดอกกระเจียวเสียหาย ซึ่งที่นี่มีกฎเคร่งครัดว่าถ้าใครเด็ด ดึง หัก ดอกกระเจียว หรือลงไปเหยียบย่ำทุ่งดอกกระเจียวเสียหายก็จะถูกปรับเป็นอุทาหรณ์ 500 บาท
สำหรับการเดินชมทุ่งดอกกระเจียว เจ้าหน้าที่อุทยานฯที่ยืนดูแลนักท่องเที่ยวอยู่ บอกกับเราว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมดอกกระเจียว คือช่วงเช้าตรู่ นั่นจึงทำให้เราดูทุ่งดอกกระเจียวในเย็นวันแรกกันแบบผ่านๆไม่เน้น หากแต่มุ่งไปเน้นกับการรอชมพระอาทิตย์ตก ณ "จุดชมวิวสุดแผ่นดิน" ที่อยู่ใกล้ๆกันแทน
จุดชมวิวสุดแผ่นดิน เป็นจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 846 เมตร เหตุที่เรียกบริเวณนี้ว่า"สุดแผ่นดิน" เพราะนี่คือเขตรอยต่อของ 3 ภาคอันได้แก่ แผ่นดินซีกทางอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ชัยภูมิ (ภาคอีสาน) แผ่นดินซีกทางตะวันตกของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ลพบุรี (ภาคกลาง) แผ่นดินซีกทางเหนือของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.เพชรบูรณ์ (ภาคเหนือ)
สุดแผ่นดิน มีลักษณะเป็นแนวผาและชะง่อนหิน มองลงไปเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาอันสวยงามในเบื้องล่าง สุดแผ่นดินคือจุดถ่ายรูปชั้นดีที่นักท่องเที่ยวนิยมวัดใจด้วยการไปนั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปบนชะง่อนหินริมหน้าผาดูน่าหวาดเสียว แต่ว่าก็เป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย แถมถ้าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจ พระอาทิตย์ตกที่สุดแผ่นดินถือว่าสวยงามไม่เป็นรองใครเลย
3...
เช้าวันใหม่ในไร่ภูเทพพิมาน
วันนี้เราตื่นแต่เช้าตรู่ประมาณ ตี 5 ครึ่ง เพื่อรีบออกเดินทางไปหยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว ณ ป่าหินงาม ซึ่งยามเช้าตรู่อย่างนี้ทุ่งดอกกระเจียวดูดารดาษสวยงามไปด้วย มวลหมู่ดอกกระเจียวจำนวนมากที่พากันชูช่อล้อสายลม อวดโฉมด้วยสีชมพูสดตัดกับทุ่งหญ้าเพ็กสีเขียวขจี ที่ในยามเช้าตรู่เช่นนี้ ทั้งท้องทุ่งจะถูกโอบอุ้มคลุมด้วยหมอกที่ปลิวมาตามแรงลมเป็นระลอกๆ เป็นการหนีจากภาวะอันร้อนรนจากเมืองใหญ่ มาสู่ความเย็นกายเย็นใจที่สดชื่นจริงๆ
“ตะลอนเที่ยว” เมื่อเจอกับความงามตามฤดูกาลเช่นนี้ เราจึงใช้เวลาซึมซับเสพบรรยากาศของทุ่งดอกกระเจียวอยู่เป็นนาน สองนาน แบบเอาให้จุใจกันไปข้างหนึ่ง จนกระทั่งแสงแดดเริ่มแรง เราจึงย้ายตัวจากทุ่งดอกกระเจียวไปยัง "ลานหินงาม" อันเป็นจุดไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของอุทยานฯแห่งนี้
“ลานหินงาม” ซึ่งเป็นลานหินมีรูปร่างแปลกตาในพื้นที่ กว่า 10 ไร่ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของที่ทำการอุทยานฯ เกิดจากการกัดเซาะของเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างบางเบาหลุดออกไป จึงมีรูปลักษณะที่สวยงามแปลกตาแตกต่างกันออกไป อาทิ หินรูปตะปู หินรูปเรดาห์ หินรูปโลกบอลโลก และหินรูปร่างแปลกตาอื่นๆอีกมากมายให้จินตนาการกันอย่างจุใจ
เสร็จสิ้นจากการเที่ยวลานหินงาม เราอำลาทุ่งดอกกระเจียวลงมาเที่ยววัดที่อยู่ข้างเคียงอุทยานฯป่าหินงาม ที่ตั้งอยู่ห่างจากอุทยานฯเพียงแค่ 30 เมตรแทน สำหรับวัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดเขาประตูชุมพล" ภายในบริเวณวัดมี ศาลาปฏิบัติธรรม หอระฆังสูงตระหง่าน ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่นเป็นลักษณะเฉพาะ
วัดแห่งนี้เป็นวัดที่พระเอกหนังไทย คือ สรพงศ์ ชาตรี เป็นผู้มาดำเนินการสร้างเพื่อถวายวัดนี้ ความเชื่อประการหนึ่งของผู้ที่มาเยือนวัดนี้คือต้องลอด "ซุ้มประตูชุมพล"ที่มีลักษณะเป็นซุ้มประตูหิน ลอดซุ้มประตูเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง ที่นี่คงความเป็นธรรมชาติภายในวัดอยู่อย่างมาก บรรยากาศภายในวัดยังคงเป็นแบบวัดป่า ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เหมาะสำหรับการไปปฏิบัติธรรม การไปพักใจ หรือเดินเล่นเพื่อสงบจิต และสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เป็นอย่างดี
นับเป็นความสิริมงคลปิดท้ายทริปที่หากใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียวงามอันสวยงามเช่นนี้ คงมัวรีรอไม่ได้ เพราะปีหนึ่งจะมีความงามปานเนรมิตของมวลหมู่ทุ่งดอกกระเจียวให้ชมกันแค่ช่วงหน้าฝนระหง่างเดือน มิ.ย.-ส.ค. นี้เท่านั้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม และรายละเอียดการชมทุ่งดอกกระเจียวที่ป่าหินงามได้ที่ "อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม" อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โทร.0-4489-0105 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถไปชมดอกกระเจียวบานได้อีกแห่งที่ "อุทยานแห่งชาติไทรทอง" อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โทร.08-282-3437, 08-1877-8485 ส่วนผู้ที่สนใจเข้าพักใน ไร่ภูเทพพิมาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-9897-2144,0-2954-1311-3