โดย : จุซดานิน
ถ้าพูดถึง"วอลท์ ดิสนีย์" ส่วนใหญ่คงรู้จักตัวการ์ตูนอย่าง มิกกี้เม้าส์, โนนัลด์ดั๊ก, สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด, พินอคคิโอ, โฉมงามกับเจ้าชายอสูร(Beauty and the Beast) กันเป็นอย่างดี
ตัวการ์ตูนเหล่านี้ล้วนเป็นที่รู้จักของทั้งเด็กเล็กเด็กโตและอาจรวมไปถึงผู้ใหญ่และวัยชราด้วยเช่นกัน เพราะความน่ารักของเหล่าตัวการ์ตูนและเรื่องราวอันสนุกสนานตื่นเต้นล้วนโดนใจไปกับทุกเพศทุกวัย
หลายคนดูการ์ตูนไปก็นึกอยากจะสัมผัสกับจินตนาการอันเจิดจ้าเหมือนฝันแบบนั้นบ้าง ซึ่ง "วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์" (Walter Elias Disney)ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ และสร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลายและประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก ได้ตอบสนองความต้องการตามความฝันด้วยการสร้างสวนสนุก "Disney’s Land" แห่งแรกขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากนั้นก็มีการสร้างดิสนีย์แลนด์ขึ้นอีกในหลายเมืองใหญ่ตามมา
ดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย สร้างขึ้นในปี 1954 บนพื้นที่ขนาด 160 เอเคอร์ ในเวลาเพียง 1 ปี "ดิสนีย์แลนด์" อาณาจักรแห่งการ์ตูนก็พร้อมเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1955 และได้ขยายดิสนีย์แลนด์เป็น Disneyland Resort ในปี 2001 พร้อมทั้งเปิด Downtown Disney และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ (Disney California) อีกด้วย
นอกจากสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนียแล้ว ในปี 1971 สวนสนุกแห่งที่ 2 ก็ได้เกิดขึ้นครอบคลุมพื้นที่ 107 เอเคอร์ ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ เป็นเจ้าของดำเนินงานเองเช่นกัน สำหรับ "วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท" (Walt Disney World Resort) นี้มีชื่อเสียงมากเพราะไม่ใช่เพียงแค่เป็นดิสนีย์แลนด์ เท่านั้น หากแต่เป็นถึง ดิสนีย์ เวิลด์ (Disney’s World) เลยทีเดียว
ดิสนีย์ เวิล์ด แห่งนี้มี 4 ธีมหลักให้ได้เล่นกันอย่างสุดมัน ได้แก่ "Epcot Center" มีสัญลักษณ์เป็นสิ่งก่อสร้างวงกลมขนาดใหญ่เหมือนแก้วคริสตัลที่เจียระไนจนส่องแสงคล้ายสีรุ้ง ใน Epcot Center นี้สามารถนั่งรถไฟย้อนไปในอดีตและสู่ปัจจุบันด้วยการนำเสนอที่เหมือนจริง ในส่วนของ Innoventions จะแสดงเรื่องราวนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ และบ้านยุคใหม่ที่ควบคุมด้วยรีโมตนับสิบอัน
ในส่วนของ World Showcase ได้มีการนำเอาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของตนเองมานำเสนอถึง 11 ประเทศ อาทิ ลิ้มลองมาร์การิต้าที่ เม็กซิโก, เยือนพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน, กินเจลาโตในบรรยากาศเวนิส ประเทศอิตาลี, ฟังเรื่องประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญที่อาคารรัฐสภาอเมริกัน เป็นต้น
ธีมต่อมาคือ "Animal Kingdom" ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นต้นไม้แห่งชีวิต หรือ The Tree of Life และก็ไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาทั่วไปเพราะต้นไม้แห่งชีวิตนี้สูงขนาดตึก 14 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ตามกิ่งก้านสาขายังมีสัตว์เกาะอยู่ให้สมจริงอีกด้วย
ภายในธีมนี้มีโลกของไดโนเสาร์ หมู่บ้านซาฟารี แดนเอเชีย และอัฟฟริกา และยังมีโชว์ Tarzan Rocks ที่ผาดโผนโหนเถาวัลย์ไปมา หนังแอนนิเมชั่น 3 มิติเรื่อง IT’s Tough to be a Bug ส่วนที่แคมป์มินนี่-มิกกี้ มีโชว์ Festival of the Lion King โชว์โพคาฮอนทัส และที่ขาดไม่ได้ในส่วนของ Animal Kingdom ก็คือ การนั่งรถซาฟารีเปิดประทุนไปสัมผัสบรรยากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาของอัฟริกา และป่าไม้อันคุ้นเคยของเอเชียบ้านเรา
"Disney MGM Studios" หรือโรงถ่ายดิสนีย์ เอ็มจีเอ็ม ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นรูปหมวกปาร์ตี้ใบใหญ่ ซึ่งแค่เห็นก็รู้สึกถึงความสนุกขึ้นมาแล้ว โดยเราจะนั่งรถทัวร์โรงถ่ายดิสนีย์กัน ผู้บรรยายจะค่อยบอกรายละเอียดของฉากและสถานที่ต่างๆที่เคยปรากฏในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ใครที่ชอบดูหนังของดิสนีย์ล่ะก็ สนุกแน่!!
นอกจากนี้ยังมี โชว์สตันต์ เช่น ดินเดียน่าโจนส์สตันต์โชว์ อันน่าตื่นเต้นก็เรียกคนดูได้มากมาย และยังมีเครื่องเล่นที่หวาดเสียวสุดๆ อย่าง Rock ‘n’ Roller Coaster Starring Aerosmith หรือ รถไฟเหาะตีลังกาที่วิ่งด้วยความเร็วและตีลังกาไปมาหลายตลบเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มเหนี่ยว เท่านั้นยังไม่พอ Tower of Terror ก็ทั้งเสียวและสยองไปพร้อมๆกัน โดยเราจะถูกปลุกเร้าอามรณ์ด้วยเสียงและภาพจากจอมอนิเตอร์เหมือนเข้าไปในโรงแรมร้างผีสิง และก็ตามมาด้วยความเสียวเมื่อลิฟต์ไปหยุดอยู่ที่ชั้น 13 จากนั้นก็ทิ้งตัวดิ่งลงไปด้านล่าง ขึ้นๆลงๆ จนเล่นเอาตับไตไส้พุงแทบจะหลอมรวมหายกันไปเลย
สิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการทัวร์ The Magic of Disney Animation ที่ทำให้เรารู้การทำงานแอนนิเมชั่นว่ากว่าจะมาเป็นภาพยนตร์สักเรื่องมักยากลำบากและน่าทึ่งแค่ไหน ภายในโรงภาพยนตร์ดิสนีย์ ยังมีการโชว์อีกหลายชุด อาทิ ละครบรอดเวย์เรื่อง Beauty and the Beast, Disney’s Doug Live, I Shrunk The Kids เป็นต้น
ธีมปาร์คสุดท้ายคือ "Magic Kingdom" ซึ่งก็คงจะถูกอกถูกใจและรู้จักคุ้นเคยกับผู้คนส่วนใหญ่มากที่สุด โดย Magic Kingdom ของที่นี่ ก็คล้ายกับดิสนีย์แลนด์ที่อื่นๆ มี Main Street USA, Adventure land, Frontier land, Liberty Square, Tomorrow land และ Mickey’ Toon town Fair
ที่ Magic Kingdom นี้มีเครื่องเล่นสนุกให้ได้ลิ้มลองมากมาย อาทิ Space mountain รถไฟเหาะอันตื่นเต้นเร้าใจในแดน Tomorrow land หรือนั่งรถเข้าไปในฉากที่สะท้อนแสงแบล็กไลต์กับ Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin และยังสามารถยิงปืนเลเซอร์ที่อยู่กับรถให้ถูกตัว Zurg ศัตรูตัวฉกาจของบัซซ์ สนุกอย่าบอกใคร
สำหรับใครที่ชื่นชอบหมีพูห์ ล่ะก็ต้องไปที่ The Many Adventures of Winnie the Pooh นั่งรถที่มีรูปร่างเป็นเหยือกใส่น้ำผึ้งของโปรดของเจ้าหมีพูห์ เข้าไปในป่ากว้างขวางทักทายกับเจ้าพิกเล็ต อียอร์ อาวล์ ตัวการ์ตูนทุกตัวในเรื่องที่น่ารักมากๆเลยทีเดียว
หากยังไม่จุใจกับตัวการ์ตูนของดิสนีย์ ก็มาชมกันได้ที่พาเหรดของเมจิกคิงดอม ที่มีตัวการ์ตูนทั้ง มิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ กูฟี่ หมีพูห์ พีน็อคคิโอ อลาดิน The Little Mermaid สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด เจ้าหญิงนิทรา โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เป็นต้น เรียกว่ามากันครบทั้งโรงเลยก็ว่าได้
ส่วนกิจกรรมที่มีอยู่ทุกธีมปาร์กก็คือ "Character Greeting" ที่บรรดาตัวการ์ตูนของดิสนีย์ทั้งหลายจะออกมาพบปะให้น้องๆหนูๆและแขกของดิสนีย์ได้ถ่ายรูปและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดแบบไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
สำหรับดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 3 ได้แก่ "โตเกียว ดิสนีย์ แลนด์" (Tokyo Disney Land) จังหวัดจิบะ ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นในปี 1983 แม้สวนสนุกแห่งนี้จะไม่ได้เป็นเจ้าของเดียวกับดิสนีย์แลนด์ในที่อื่นๆ แต่บริษัทโอเรียนทัล แลนด์ เจ้าของก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และสร้างในสไตล์เดียวกัน ซึ่งก็หมดห่วงรับรองสนุกเหมือนกันแน่นอน
สวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 4 ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้แก่ "ดิสนีย์แลนด์ ปารีส"(Paris Disney Land) สวนสนุกแห่งนี้เริ่มแรกในปี ค.ศ.1992 ใช้ชื่อว่า ยูโร ดิสนีย์แลนด์ (Euro Disney Land) ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น ดิสนีย์แลนด์ ปารีส และสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็น "ดิสนีย์แลนด์ปาร์ค"(Disney Land Park) เมื่อปี 2002
และดิสนีย์แลนด์ แห่งใหม่ที่สุดก็คือ "ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์" (Hongkong Disney Land) เปิดเป็นทางการในปี ค.ศ.2005 ที่ผ่านมา ตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน ซึ่งก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในบ้านเรา
เมื่อพูดถึงดิสนีย์แลนด์แล้วผู้ใหญ่หลายๆคนอยากกลับไปเป็นเด็ก และเที่ยวท่องไปในโลกการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์ ให้สนุกสุดเหวี่ยง ซึ่ง วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของโลกคนหนึ่ง เพราะนอกจากผลงานการสร้างสรรค์ตัวการ์ตูนแล้ว เขายังสามารถครองใจผู้คนทุกเพศทุกวัยในโลกใบนี้ได้อย่างไม่มีข้อกังขา
ถ้าพูดถึง"วอลท์ ดิสนีย์" ส่วนใหญ่คงรู้จักตัวการ์ตูนอย่าง มิกกี้เม้าส์, โนนัลด์ดั๊ก, สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด, พินอคคิโอ, โฉมงามกับเจ้าชายอสูร(Beauty and the Beast) กันเป็นอย่างดี
ตัวการ์ตูนเหล่านี้ล้วนเป็นที่รู้จักของทั้งเด็กเล็กเด็กโตและอาจรวมไปถึงผู้ใหญ่และวัยชราด้วยเช่นกัน เพราะความน่ารักของเหล่าตัวการ์ตูนและเรื่องราวอันสนุกสนานตื่นเต้นล้วนโดนใจไปกับทุกเพศทุกวัย
หลายคนดูการ์ตูนไปก็นึกอยากจะสัมผัสกับจินตนาการอันเจิดจ้าเหมือนฝันแบบนั้นบ้าง ซึ่ง "วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์" (Walter Elias Disney)ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ และสร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลายและประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก ได้ตอบสนองความต้องการตามความฝันด้วยการสร้างสวนสนุก "Disney’s Land" แห่งแรกขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากนั้นก็มีการสร้างดิสนีย์แลนด์ขึ้นอีกในหลายเมืองใหญ่ตามมา
ดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย สร้างขึ้นในปี 1954 บนพื้นที่ขนาด 160 เอเคอร์ ในเวลาเพียง 1 ปี "ดิสนีย์แลนด์" อาณาจักรแห่งการ์ตูนก็พร้อมเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1955 และได้ขยายดิสนีย์แลนด์เป็น Disneyland Resort ในปี 2001 พร้อมทั้งเปิด Downtown Disney และ ดิสนีย์ แคลิฟอร์เนีย แอดเวนเจอร์ (Disney California) อีกด้วย
นอกจากสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนียแล้ว ในปี 1971 สวนสนุกแห่งที่ 2 ก็ได้เกิดขึ้นครอบคลุมพื้นที่ 107 เอเคอร์ ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ เป็นเจ้าของดำเนินงานเองเช่นกัน สำหรับ "วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท" (Walt Disney World Resort) นี้มีชื่อเสียงมากเพราะไม่ใช่เพียงแค่เป็นดิสนีย์แลนด์ เท่านั้น หากแต่เป็นถึง ดิสนีย์ เวิลด์ (Disney’s World) เลยทีเดียว
ดิสนีย์ เวิล์ด แห่งนี้มี 4 ธีมหลักให้ได้เล่นกันอย่างสุดมัน ได้แก่ "Epcot Center" มีสัญลักษณ์เป็นสิ่งก่อสร้างวงกลมขนาดใหญ่เหมือนแก้วคริสตัลที่เจียระไนจนส่องแสงคล้ายสีรุ้ง ใน Epcot Center นี้สามารถนั่งรถไฟย้อนไปในอดีตและสู่ปัจจุบันด้วยการนำเสนอที่เหมือนจริง ในส่วนของ Innoventions จะแสดงเรื่องราวนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ และบ้านยุคใหม่ที่ควบคุมด้วยรีโมตนับสิบอัน
ในส่วนของ World Showcase ได้มีการนำเอาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของตนเองมานำเสนอถึง 11 ประเทศ อาทิ ลิ้มลองมาร์การิต้าที่ เม็กซิโก, เยือนพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน, กินเจลาโตในบรรยากาศเวนิส ประเทศอิตาลี, ฟังเรื่องประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญที่อาคารรัฐสภาอเมริกัน เป็นต้น
ธีมต่อมาคือ "Animal Kingdom" ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นต้นไม้แห่งชีวิต หรือ The Tree of Life และก็ไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาทั่วไปเพราะต้นไม้แห่งชีวิตนี้สูงขนาดตึก 14 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ตามกิ่งก้านสาขายังมีสัตว์เกาะอยู่ให้สมจริงอีกด้วย
ภายในธีมนี้มีโลกของไดโนเสาร์ หมู่บ้านซาฟารี แดนเอเชีย และอัฟฟริกา และยังมีโชว์ Tarzan Rocks ที่ผาดโผนโหนเถาวัลย์ไปมา หนังแอนนิเมชั่น 3 มิติเรื่อง IT’s Tough to be a Bug ส่วนที่แคมป์มินนี่-มิกกี้ มีโชว์ Festival of the Lion King โชว์โพคาฮอนทัส และที่ขาดไม่ได้ในส่วนของ Animal Kingdom ก็คือ การนั่งรถซาฟารีเปิดประทุนไปสัมผัสบรรยากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาของอัฟริกา และป่าไม้อันคุ้นเคยของเอเชียบ้านเรา
"Disney MGM Studios" หรือโรงถ่ายดิสนีย์ เอ็มจีเอ็ม ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นรูปหมวกปาร์ตี้ใบใหญ่ ซึ่งแค่เห็นก็รู้สึกถึงความสนุกขึ้นมาแล้ว โดยเราจะนั่งรถทัวร์โรงถ่ายดิสนีย์กัน ผู้บรรยายจะค่อยบอกรายละเอียดของฉากและสถานที่ต่างๆที่เคยปรากฏในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ใครที่ชอบดูหนังของดิสนีย์ล่ะก็ สนุกแน่!!
นอกจากนี้ยังมี โชว์สตันต์ เช่น ดินเดียน่าโจนส์สตันต์โชว์ อันน่าตื่นเต้นก็เรียกคนดูได้มากมาย และยังมีเครื่องเล่นที่หวาดเสียวสุดๆ อย่าง Rock ‘n’ Roller Coaster Starring Aerosmith หรือ รถไฟเหาะตีลังกาที่วิ่งด้วยความเร็วและตีลังกาไปมาหลายตลบเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มเหนี่ยว เท่านั้นยังไม่พอ Tower of Terror ก็ทั้งเสียวและสยองไปพร้อมๆกัน โดยเราจะถูกปลุกเร้าอามรณ์ด้วยเสียงและภาพจากจอมอนิเตอร์เหมือนเข้าไปในโรงแรมร้างผีสิง และก็ตามมาด้วยความเสียวเมื่อลิฟต์ไปหยุดอยู่ที่ชั้น 13 จากนั้นก็ทิ้งตัวดิ่งลงไปด้านล่าง ขึ้นๆลงๆ จนเล่นเอาตับไตไส้พุงแทบจะหลอมรวมหายกันไปเลย
สิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการทัวร์ The Magic of Disney Animation ที่ทำให้เรารู้การทำงานแอนนิเมชั่นว่ากว่าจะมาเป็นภาพยนตร์สักเรื่องมักยากลำบากและน่าทึ่งแค่ไหน ภายในโรงภาพยนตร์ดิสนีย์ ยังมีการโชว์อีกหลายชุด อาทิ ละครบรอดเวย์เรื่อง Beauty and the Beast, Disney’s Doug Live, I Shrunk The Kids เป็นต้น
ธีมปาร์คสุดท้ายคือ "Magic Kingdom" ซึ่งก็คงจะถูกอกถูกใจและรู้จักคุ้นเคยกับผู้คนส่วนใหญ่มากที่สุด โดย Magic Kingdom ของที่นี่ ก็คล้ายกับดิสนีย์แลนด์ที่อื่นๆ มี Main Street USA, Adventure land, Frontier land, Liberty Square, Tomorrow land และ Mickey’ Toon town Fair
ที่ Magic Kingdom นี้มีเครื่องเล่นสนุกให้ได้ลิ้มลองมากมาย อาทิ Space mountain รถไฟเหาะอันตื่นเต้นเร้าใจในแดน Tomorrow land หรือนั่งรถเข้าไปในฉากที่สะท้อนแสงแบล็กไลต์กับ Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin และยังสามารถยิงปืนเลเซอร์ที่อยู่กับรถให้ถูกตัว Zurg ศัตรูตัวฉกาจของบัซซ์ สนุกอย่าบอกใคร
สำหรับใครที่ชื่นชอบหมีพูห์ ล่ะก็ต้องไปที่ The Many Adventures of Winnie the Pooh นั่งรถที่มีรูปร่างเป็นเหยือกใส่น้ำผึ้งของโปรดของเจ้าหมีพูห์ เข้าไปในป่ากว้างขวางทักทายกับเจ้าพิกเล็ต อียอร์ อาวล์ ตัวการ์ตูนทุกตัวในเรื่องที่น่ารักมากๆเลยทีเดียว
หากยังไม่จุใจกับตัวการ์ตูนของดิสนีย์ ก็มาชมกันได้ที่พาเหรดของเมจิกคิงดอม ที่มีตัวการ์ตูนทั้ง มิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ กูฟี่ หมีพูห์ พีน็อคคิโอ อลาดิน The Little Mermaid สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด เจ้าหญิงนิทรา โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เป็นต้น เรียกว่ามากันครบทั้งโรงเลยก็ว่าได้
ส่วนกิจกรรมที่มีอยู่ทุกธีมปาร์กก็คือ "Character Greeting" ที่บรรดาตัวการ์ตูนของดิสนีย์ทั้งหลายจะออกมาพบปะให้น้องๆหนูๆและแขกของดิสนีย์ได้ถ่ายรูปและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดแบบไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
สำหรับดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 3 ได้แก่ "โตเกียว ดิสนีย์ แลนด์" (Tokyo Disney Land) จังหวัดจิบะ ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นในปี 1983 แม้สวนสนุกแห่งนี้จะไม่ได้เป็นเจ้าของเดียวกับดิสนีย์แลนด์ในที่อื่นๆ แต่บริษัทโอเรียนทัล แลนด์ เจ้าของก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และสร้างในสไตล์เดียวกัน ซึ่งก็หมดห่วงรับรองสนุกเหมือนกันแน่นอน
สวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 4 ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้แก่ "ดิสนีย์แลนด์ ปารีส"(Paris Disney Land) สวนสนุกแห่งนี้เริ่มแรกในปี ค.ศ.1992 ใช้ชื่อว่า ยูโร ดิสนีย์แลนด์ (Euro Disney Land) ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น ดิสนีย์แลนด์ ปารีส และสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็น "ดิสนีย์แลนด์ปาร์ค"(Disney Land Park) เมื่อปี 2002
และดิสนีย์แลนด์ แห่งใหม่ที่สุดก็คือ "ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์" (Hongkong Disney Land) เปิดเป็นทางการในปี ค.ศ.2005 ที่ผ่านมา ตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน ซึ่งก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในบ้านเรา
เมื่อพูดถึงดิสนีย์แลนด์แล้วผู้ใหญ่หลายๆคนอยากกลับไปเป็นเด็ก และเที่ยวท่องไปในโลกการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์ ให้สนุกสุดเหวี่ยง ซึ่ง วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของโลกคนหนึ่ง เพราะนอกจากผลงานการสร้างสรรค์ตัวการ์ตูนแล้ว เขายังสามารถครองใจผู้คนทุกเพศทุกวัยในโลกใบนี้ได้อย่างไม่มีข้อกังขา