xs
xsm
sm
md
lg

ค่อยๆคลานนะ “เชียงคาน”/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
อาคารเรือนไม้ทอดยาว เสน่ห์อันเรียบง่ายแห่งเชียงคาน
โลกยังคงหมุนไป เวลายังคงผันผ่าน

มนุษย์ยุคใหม่ แม้สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ แต่มนุษย์มิอาจชนะวันเวลาได้

...แม้ไม่อาจชนะวันเวลา แต่ในบางครั้งบางครา ใครและใครหลายคน กลับรู้สึกอยากหยุด ผ่อน ย้อน ยืด เร่ง บีบ วันเวลาให้ได้ดังใจต้องการ

แม้มันจะเป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยมายาคติแห่งวันเวลาก็ตามที

สาวแรกรัก อยากหยุดวันเวลาอันเปี่ยมสุขกับชายคนรักไว้ให้นานที่สุด แต่น่าแปลกที่เธอกลับเร่งคืน เร่งวัน รอเวลาสวมชุดเจ้าสาวเข้าพิธีวิวาห์กับชายคนรักของเธออย่างใจจดใจจ่อ

มนุษย์เงินเดือนอยากให้วันศุกร์ วันสุขแห่งชาติมาถึงไวไว แต่กลับอยากยืดวันเสาร์-อาทิตย์ ออกไปให้นานเท่านาน

นักการเมืองต้องคดียุบพรรค อยากยืดวันเวลาตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกไปให้นานที่สุด แต่เมื่อผลตัดสินออกมากลับอยากเร่งวันเวลาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีให้ผ่านพ้นโดยไว แต่ถ้ามันยังรู้สึกช้าไม่ทันใจก็หาทางแก้รัฐธรรมนูญ แก้กฎหมาย นิรโทษกรรมให้กับตัวเองและพวกพ้องแม่มเลย!!! ยังไงๆพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความด้านสุดๆอยู่แล้ว

สมัยผมเรียนมัธยมและมหา’ลัย ใจก็อยากให้วันสำเร็จการศึกษามาถึงไวๆ แต่น่าแปลกที่พอถึงช่วงเทอมสุดท้าย โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายใกล้วันจบ กลับรู้สึกอยากให้วันเวลามันเดินช้าๆเพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสสนุกสนานกับเพื่อนๆให้มากขึ้น

ขณะที่ใครและใครอีกหลายคนต่างก็มีความรู้สึกอยากหยุด ยืด และเร่ง วันเวลาด้วยเหตุผลแตกต่างกันออกไป แต่วันเวลาก็ไม่เคยตามใจมนุษย์คงไหน ยังคงเคลื่อนผ่านทำหน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรง ไม่สั่นคลอน

...ที่สั่นคลอนมีแต่จิตใจของมนุษย์ต่างหาก

1...

แม้ไม่อาจชนะวันเวลา แต่ในบางครั้งบางครา ในบางสถานที่ผมกับรู้สึก(ไปเอง)ว่า วันเวลาเดินช้ากว่าปกติ โดย“เชียงคาน” จ.เลย คือหนึ่งในนั้น
ทิวทัศน์แม่น้ำโขง
เพื่อนนักเที่ยวที่ชอบแสงสีมันบอกกลับผมว่า “เชียงคานไม่เห็นมีอะไร ทำไมมึงถึงชอบวะ”

ผมไม่รู้จะตอบมันยังไง รู้แต่ว่ายามที่อยู่เชียงคานชีวิตอันยุ่งยาก เร่งรีบ บีบรัด จากเมืองหลวงมันหายไปเป็นปลิดทิ้ง มีแต่ชีวิตที่สงบงาม เรียบง่าย แต่เปี่ยมเสน่ห์ เปี่ยมรอยยิ้ม จากวิถีคนริมโขง ให้สัมผัส จนผมรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตที่นี่มันค่อยๆคืบค่อยๆคลานไปอย่างเนิบนาบ ตามบรรยากาศที่พบเห็น

แต่เป็นความเนิบนาบที่เนืองแน่นไปด้วยเสน่ห์กระไรปานนั้น...

2…

ความทรงจำบทใหม่ของผมในเชียงคานเริ่มขึ้นที่เกสต์เฮาส์เล็กๆริมโขงแห่งหนึ่ง

อย่างที่บอกยามอยู่เชียงคาน ผมรู้สึกว่าเวลาเดินช้า ทำให้เช้านี้ผมตื่นสายกว่ากำหนด คือตื่นไม่ทันพระบิณฑบาต แต่ว่าก็ตื่นเช้ากว่ายามที่อยู่กรุงเทพฯเยอะมากๆเลย

เช้าๆอย่างนี้ที่อากาศหนาวเย็นยะเยียบ โจ๊ก ข้าวต้ม ชา กาแฟ หรืออะไรร้อนๆ คือตัวช่วยคลายหนาวได้เป็นอย่างดี ผมจึงไม่รีรอล้างหน้าล้างตาเดินทางไป“ตลาดสดเทศบาล” แถวถนนสรเชียงคานซอย 9 หาอะไรร้อนๆเปิดประเดิมมื้อเช้า พร้อมไม่ลืมชมสีสันบรรยากาศยามเช้าของตลาดแห่งนี้

ตลาดสดเทศบาลเชียงคานยามเช้าคึกคักไปด้วยบรรยากาศการซื้อขาย ผู้ซื้อ พ่อค้า แม่ขาย ร้านรวง อาหาร สดแห้ง พืชผักสารพัด หนังควายแห้ง ปลาร้าใส่ถุง ไก่ย่าง ปลาย่าง ข้าวเหนียวนึ่งกันร้อนๆ สภากาแฟ และ ฯลฯ ที่ช่วยแต่งเติมสีสันของตลาดแห่งนี้ให้มีชีวิตชีวาอยู่มิรู้เบื่อ

นับเป็นภาพชีวิตจริงที่ยืนยันถึงวิถีอันเรียบง่ายแต่ไม่ไร้รากของชาวเชียงคานได้เป็นอย่างดี
วัดศรีคุณเมือง
3...

เนื่องจากยามเช้าทำตัวชิลล์ไปนิดเลยตื่นสายไม่ทันพระบิณฑบาต หลังจิบกาแฟแกล้มข้าวเหนียวไก่ย่างร้อนๆคลายหนาว(หากเอาอารมณ์ฝรั่งมาจับ กาแฟ ข้าวเหนียวไก่ย่างอาจดูไม่เข้ากันเหมือนกาแฟ-ขนมปัง-ไข่ดาว แต่หากใครได้ลองจะรู้ว่าอร่อยไม่ใช่ย่อย) ผมเลยถือโอกาสเอาฤกษ์เอาชัยรับยามเช้าด้วยการไปไหว้พระที่“วัดศรีคุณเมือง” วัดเก่าแก่สำคัญของของเชียงคานที่น่ายลไปด้วยศิลปะล้านนาผสมล้านช้าง

เสร็จสรรพจากนั้นก็ได้เวลาทอดน่องชมชุมชนริมโขงบนถนนชายโขง หนึ่งในเอกลักษณ์สุดคลาสสิคแห่งเชียงคาน

ในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยรุ่งโรจน์ในฐานะย่านเศรษฐกิจสำคัญริมโขงที่มีคนไทย ลาว จีน เข้ามาทำมาหากินกันอย่างคึกคัก แต่หลังการตัดถนนศรีเชียงคานจากเมืองเลยลงมา ความคึกคักที่นี่ก็หายไปกลายเป็นความเงียบเหงา

กระทั่งราวสิบปีที่ผ่านมามีนักเดินทางหลายคนพบว่าในความเงียบเหงาของเชียงคาน กลับอัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ซ่อนเร้น นับจากนั้นมาเชียงคานก็เริ่มเป็นที่รู้จัก ดึงดูดให้ผู้รักในวิถีสงบงามเดินทางไปค้นหา

มาวันนี้บ้านเรือนหลายหลังแปรสภาพเป็น โรงแรม เกสต์เฮาส์ และที่พักราคาเยา ทำให้ฝรั่งหลายๆคนเลือกมาพักนอนตามเกสต์เฮาส์ริมโขงกันเป็นเดือนๆ

สำหรับบ้านเรือนริมโขงที่นี่ ด้านหนึ่งหน้าหันออกประชิดริมฝั่งน้ำโขงที่มีทางเดินตัวหนอนทอดยาว เหมาะแก่การเดินทอดน่องหรือขี่จักรยานชมวิวทิวทัศน์วิถีชีวิตริมโขงและฝั่งลาว ในช่วงแดดอ่อนๆยามเช้าหรือยามแดดร่มลมตกไปจนถึงตะวันลับฟ้า

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งติดกับถนนชายโขงที่พาดผ่านดูสุดคลาสสิคไปด้วยบ้านเรือนไม้ประตูบานเฟี้ยม 2 ชั้นสร้างอยู่ติดๆกันเป็นจำนวนมาก(ชาวบ้านเรียกบ้านเรือนแบบนี้ว่า“เรือนแรม”)

บางช่วงบางตอนของเรือนแรมถูกแซมด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สลับด้วยบ้านเรือนที่สร้างขึ้นใหม่ตามยุคสมัย โดยมีอาคารที่ดูแปลกกว่าใครเพื่อนแต่ไม่แปลกแยก ก็คือ “ตึกขาว” หรือที่พัก“เรือนแรมลูกไม้” ที่โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปสีขาวเด่น

ณ วันนี้เรือนแรมเชียงคานยังไม่มีทัศนอุจาดปรากฏให้เห็น แต่ในอนาคต“ไม่แน่”

เพราะวันนี้เชียงคานเริ่มเป็นที่สนใจของทุนต่างถิ่นบางกลุ่ม ซึ่งหากคนในพื้นที่ คนนอกพื้นที่(ที่ไปทำกินที่เชียงคาน)และนักท่องเที่ยว ไม่ช่วยกันดูแลรักษาเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ภายภาคหน้าเชียงคานอาจ“ย่ำแย่”ก็เป็นได้

ฉะนั้นการเติบโตทางการท่องเที่ยวของเชียงคานจึงควรขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป

ค่อยๆคลานไปอย่างช้าๆเนิบนาบแต่มั่นคง ดีกว่ารีบก้าวกระโดดแต่เสียศูนย์เป็นไหนๆ
ทิวทัศน์บ้านเรือนฝั่งริมแม่น้ำโขง
4...

โลกยังคงหมุนไป เวลายังคงผันผ่าน

วันเวลาแม้ยังคงทำหน้าที่เคลื่อนผ่านไปอย่างซื่อสัตย์ เที่ยงตรง แต่ยามที่อยู่เชียงคาน(แม้เพียงเวลาไม่นาน) ผมกลับรู้สึกว่าวันเวลาที่นี่เดินช้าเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีหลายๆเมืองเล็กๆในเมืองไทยมีบรรยากาศทางการท่องเที่ยวพักผ่อนที่เนิบนาบเรียบง่ายแต่สงบงามเช่นนี้ แต่ด้วยผลพวงจากการแผ่สยายอิทธิพลของภาคธุรกิจท่องเที่ยวในยุคนี้ พ.ศ.นี้ โดยเฉพาะการแผ่อิทธิผลของทุนท่องเที่ยวสามานย์ ทำให้เมืองเล็กๆบางเมือง ทั้งจากเหนือ กลาง ใต้ อีสาน รวมถึงเกาะเล็กๆบางเกาะ ไปจนถึงบางเมืองในสปป.ลาว ได้ถูกทำลายเสน่ห์และบรรยากาศอันสงบงามลงอย่างสิ้นเชิง จนผมรู้สึกว่าวันเวลาที่เคยเดินช้าของบางเมืองเหล่านั้น ปัจจุบันมันเดินเร็วแทบไม่ต่างจากเมืองใหญ่

แถมเมืองเล็กบางเมืองในยามค่ำคืนมันยังเดินเร็วใกล้เคียงกับพัทยาหรือถนนข้าวสารอย่างไม่น่าเชื่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น