xs
xsm
sm
md
lg

“อินทนนท์” หนาวน้ำตก หนาวยกกำลังสอง / ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
น้ำตกแม่ยะ
“ยิ่งสูง ยิ่งหนาว”

นี่คือเรื่องธรรมดาของธรรมชาติ เพราะอากาศและอุณหภูมิบนที่สูงย่อมหนาวเย็นกว่าที่ต่ำอยู่แล้ว

ทั้งนี้หากอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ มีอยู่หลายองค์ประกอบด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือกฎอุณหภูมิเฉลี่ย ที่ 12 กิโลเมตรแรกจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิจะลดลงโดยเฉลี่ย 6.5 องศาเซลเซียส ต่อความสูงทุกๆ 1 กิโลเมตร แต่ถ้าเลย 12 กิโลเมตรขึ้นไป อุณหภูมิจะลดลงถึงประมาณ -60 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

หันมาที่บ้านเราอากาศปีนี้ถือว่าหนาวเอาเรื่อง โดยเฉพาะบนที่สูงตามยอดเขายอดดอยนี่หนาวถึงขนาดเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งเป็นเกร็ดบนยอดหญ้า(เหมยขาบหรือแม่คะนิ๊ง)อยู่บ่อยครั้ง แต่ประทานโทษ ยิ่งหนาว ขาเที่ยวยิ่งชอบ แถมยังชอบขึ้นไปเที่ยวบนที่สูงตามดอย ตามภู ตามเขา เติมอารมณ์ความหนาวที่นานๆจะได้ประสบพบเจอให้เข้มข้นขึ้น

งานนี้ใครใคร่ไปเที่ยวสัมผัสความหนาวที่ไหนก็เชิญกันตามสะดวก ส่วนผมงานนี้ขอมาแนวฮาร์ดคอร์นิดๆ เพราะเล่นไปสัมผัสความหนาวแบบหนาวยกกำลังสองกันเลยทีเดียว

หนาวยกกำลังหนึ่ง : ผมขึ้นไปแอ่วดอยอินทนนท์(อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) จ.เชียงใหม่ เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ยิ่งสูงยิ่งหนาว เพราะดอยอินทนนท์มีจุดสูงสุดแห่งสยามอยู่ที่ระดับความสูงถึง 2,565.3341 เมตร ซึ่งนี่นับเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปคู่กับป้ายยอดฮิตอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยทีเดียว
ยามแสงแดดสาดส่องน้ำตกวชิรธารจะเห็นเป็นสายรุ้ง
สำหรับจุดนี้และที่ระดับความสูงใกล้เคียงบนดอยอินทนนท์ มันไม่ได้หนาวแค่คนเท่านั้นแต่กับต้นไม้ใหญ่-น้อยมันก็พลอยหนาวไปกับเขาด้วย ต้นไม้หลายๆต้น หนาวถึงขนาดต้องสวมเสื้อผ้ากันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าเมดอินไทยแลนด์ หรือไม่ใช่เสื้อผ้าที่ใครบริจาคให้ หากแต่เป็นเสื้อผ้าธรรมชาติจำพวกมอส เฟิร์นที่ขึ้นปกคลุมต้นไม้ใหญ่น้อยจนแน่นเอี๊ยดจนบางคนเรียกต้นไม้สวมเสื้อผ้าบนดอยอินทนนท์ว่า“ป่าดึกดำบรรพ์”

ใครที่อยากชมต้นไม้ใส่เสื้อผ้าหรือป่าดึกดำบรรพ์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็ให้ไปที่ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง” และ”เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน” ซึ่งทางอุทยานฯเขาจัดทำเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติไว้อย่างดีทีเดียว

หนาวยกกำลังสอง : ผมไปดอยอินทนนท์หน้าหนาว แต่ผ่าดันไปเที่ยว 3 น้ำตกใหญ่บนดอย โดยไม่มีข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ พกไปแกล้มกับบรรยากาศน้ำตกแต่อย่างใด

งานนี้ผมเริ่มด้วย น้ำตกวชิรธาร บนทางขึ้นดอยอินทนนท์ ริมทางหลวงหมายเลข 1009 ประมาณ กม.ที่ 20

น้ำตกวชิรธาร เดิมชื่อน้ำตกตาดฆ้องโยง ภายหลังเปลี่ยนชื่อตามพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเป็นน้ำตกวชิรธาร การเที่ยวชมน้ำตกวชิรธารสามารถไปได้ 2 ทาง คือหนึ่งเดินลงจากทางเดินป่าไปตามธารน้ำด้านบนตัวน้ำตกลงมา และสองเดินขึ้นไปจากลานจอดรถที่ทางอุทยานฯจัดทำทางไว้ค่อนข้างดี

งานนี้ไม่ว่าใครจะเดินขึ้นหรือเดินลงเส้นทางก็จะพาไปยังน้ำตกชั้นไฮไลท์นั้น ที่มีความสูงประมาณ 80 เมตร มองเห็นสายน้ำตกไหลแรงรี่ตกจากโตรกผากว้างลงสู่แอ่งเบื้องล่างเป็นสายขาวฟูฟ่อง โดยเฉพาะช่วงตัวน้ำตกหลักนั้นไหลรุนแรงแต่ก็แฝงไว้ด้วยความสง่างามอยู่ในตัว

ขณะที่ช่วงธารน้ำตกด้านล่างหากไปถูกจังหวะเวลา ในวันที่แสงแดดจ้าสาดส่องทำมุมเหมาะเหม็งกับละอองน้ำที่ลอยเป็นฝอยฟุ้งกระจาย เราจะเห็นปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำตกทอดตัวโค้งอย่างงดงามเหนือธารน้ำตก ซึ่งบางครั้งมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำตกให้เห็นถึง 2 ตัวเลยทีเดียว

จากน้ำตกวชิรธารเดินทางต่อลงมาจากดอยอินทนนท์ เลยด่านตรวจของทางอุทยานฯมาไม่ไกลบริเวณ กม.31 ของทางหลวงสาย 1009 ก็จะพบกับ“น้ำตกแม่กลาง” ที่เป็นดังประตูเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
น้ำตกแม่กลาง
น้ำตกแม่กลาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีสายน้ำไหลแรงเชี่ยวกรากโจนทะยานจากโตรกผาลงมา ในหน้าฝนน้ำจะมากและขุ่นแดง ส่วนหน้าหนาวมวลสายน้ำจะไหลบ่าขาวฟูฟ่อง ดูเข้ากันกับองค์ประกอบรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้แวดล้อม สะพานไม้ชมน้ำตก และก้อนหินขนาด ยักษ์ ใหญ่ กลาง เล็ก ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น

ในขณะที่ด้านล่างตัวน้ำตกมีแอ่งน้ำน้อย-ใหญ่ ให้เล่นน้ำกันอยู่หลายจุด โดยใกล้ๆกันนั้นมีร้านอาหาร ร้านค้า เปิดบริการอยู่หลายร้าน เนื่องจากน้ำตกแม่กลางมีน้ำไหลตลอดปี มีบรรยากาศร่มรื่นเขียวครึ้มเหมาะแก่การพักผ่อน จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชม สัมผัส และเล่นน้ำตกแม่กลางอยู่ไม่ได้ขาด

สำหรับน้ำตกใหญ่เป้าหมายสุดท้ายคือ“น้ำตกแม่ยะ” ที่อยู่กระโดดไกลออกไปหน่อย คือจากทางหลวง 1009 ไปอีกประมาณ 1 กม.จะมีทางแยกซ้ายสู่น้ำตกแม่ยะไปอีกประมาณ 14 กม. จากนั้นเดินเท้าจากลานจอดรถไปอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงยังตัวน้ำตกแม่ยะ ที่ความยิ่งใหญ่สวยงามงามชื่อชั้นของน้ำตกแห่งนี้จัดอยู่ในขั้นไม่ธรรมดาเอาเลยทีเดียว

บางคนบอกว่าน้ำตกแม่ยะคือหนึ่งในน้ำตกชั้นเทพที่จะเป็นรองก็แต่น้ำตกทีลอซูเท่านั้น เพราะเมื่อครั้งกระโน้นสมัยที่ยังไม่มีการค้นพบน้ำตกทีลอซู น้ำตกแม่ยะถูกจัดให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย

มาวันนี้แม้อันดับจะลดลงไปนิดส์นึงกลายเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเชียงใหม่ และน้ำตกที่สวยที่สุด 1 ใน 10 ของเมืองไทย แต่ความงามของน้ำตกแม่ยะยังคงอยู่

เมื่อไปถึงยังตัวน้ำตกก็จะพบกับสายน้ำขาวโพลนที่ไหลลงมาตามหน้าผาสูงราว 280 เมตร กว้างหลายสิบเมตร มองเห็นเป็นชั้นๆ(มีคนบอกว่ามีถึง 30 ชั้น) ดูประหนึ่งม่านน้ำตกอันสวยงามยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางบรรยากาศรอบข้างที่ร่มรื่น

ช่วงหน้าฝนน้ำตกแม่ยะน้ำจะเยอะมาก สายน้ำติดขุ่นนิดๆจะไหลหลั่งพรูพรั่งแผ่กว้างเต็มหน้าผาส่วนช่วงหน้าแล้งน้ำจะลดน้อยลงแต่ใสสะอาด ก่อนไหลรวมกันไปยังธารน้ำเบื้องล่าง ในขณะที่บริเวณรอบข้างเป็นป่าเขาร่มรื่นน่าพักผ่อนยิ่งนัก
น้ำตกวชิรธาร
และนั่นก็เป็นเรื่องราวความน่ายลของน้ำตกใหญ่ 3 แห่งในดินแดนหนาว อุทยานฯดอยอินทนน์ ที่สามารถเที่ยวชมน้ำตกทั้งสามภายใน 1 วันได้สบายๆ ซึ่งหนาวๆอย่างนี้ กับ 3 น้ำตกใหญ่ผมขอแค่ยืนมอง ถ่ายรูป หรือเอามือ-เท้าไปแค่เฉียดๆ แตะๆน้ำก็พอแล้ว ส่วนจะให้ลงไปเล่น ลงไปแช่น้ำ งานนี้ขอบาย เพราะไม่อยากปอดบวมเหมือนดาราสาวบางคน

ส่วนใครจะทำตัวเป็นจอมยุทธ์สยามถอดเสื้อเล่นน้ำก็เชิญตามสะดวก เพราะยังไงๆอาการหนาวน้ำตก หนาวอากาศ หนาวตามธรรมชาติ ย่อมดีกว่าอาการ“หนาวชีวิต”อันเนื่องมาจากความทะยานอยากมักใหญ่ใฝ่สูง พยายามปีนป่ายบันไดกิเลสก้าวเดินขึ้นสู่จุดหมายสูงสุดเพื่อให้เหนือคนอื่น(แม้หลายครั้งจะไม่ชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง)

ครั้นเมื่อขึ้นไปถึงจุดนั้นหรือตำแหน่งใกล้เคียง กลับยิ่งรู้สึกยิ่งโดดเดี่ยว ยิ่งอ้างว้าง...

...เปรียบคนเราคล้ายดังขึ้นภูเขา
ฝ่าไปเอาหมายตัวเราก้าวไกล
สูงๆขึ้นไปใครจะอยู่ข้างเรา
กิเลสยุเย้าให้ปีนป่าย

ไร้มิตรแท้ถึงแม้ยิ่งใหญ่
ใหญ่เกินไปไม่มีใครเอา
ยิ่งสูงยิ่งหนาวยิ่งเหงายิ่งห่าง
อยู่บนทางนึกหวั่นนึกพรั่นความหนาว...

ยิ่งสูงยิ่งหนาว : เรวัต พุทธินันทน์

กำลังโหลดความคิดเห็น