“พัทยา” จ.ชลบุรี ชื่อนี้โด่งดังไปไกลในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
วันนี้ชื่อเสียงและศักยภาพทางการท่องเที่ยวของพัทยายังคงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
แต่หลังการเมืองส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย ทางทีมผู้บริหารเมืองพัทยาจึงได้พยายามหาแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ทั้งการโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอยู่แล้วให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การชูกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่เป็นจุดขาย ควบคู่ไปกับแผนปรับโฉมเมืองพัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยวให้น่าอยู่มากขึ้น
เปิดวิสัยทัศน์ เมืองท่องเที่ยวน่าอยู่
อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวในแนวหน้าของไทย ประกอบกับเป็นเมืองที่มีการปกครองรูปแบบพิเศษเทียบเท่ากับกรุงเทพฯ พัทยาจึงมีความคล่องตัวและประสิทธิภาพสูงในการกำหนดแผนและโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาเมืองโดยตรง
ทั้งนี้นายกเมืองพัทยาได้ตั้งเป้าหมายว่าในอนาคตจะพัฒนาพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ที่สุดในระดับภูมิภาคและในระดับโลก โดยจะมุ่งเน้นที่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำ เน้นการบริหารโปร่งใส ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล
สำหรับแผนปรับโฉมเมืองพัทยาสู่เมืองท่องเที่ยวน่าอยู่ที่ทีมงานบริหารเมืองพัทยาได้ลงมือปฏิบัติและมีแผนจะปฏิบัติในอนาคตก็อย่างเช่น ด้านความสะอาดที่รณรงค์ให้คนทิ้งขยะน้อยลง แต่ เพิ่มคนทำความสะอาด เพิ่มรถขยะ และถังขยะให้มากขึ้น การปรับภูมิทัศน์ของเมืองทั้งตามถนนหนทางและบริเวณชายหาด ดูแลด้านความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยา 2310 ขึ้นมาเป็นอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว การปรับปรุงการจราจรทั้งทางบกและทางทะเล เป็นต้น
จัดกิจกรรมกระตุ้นทั้งปี
“ที่ผ่านมาเราเราประสานกับททท.ออกโร้ดโชว์ในตลาดสำคัญต่างๆอาทิ WTM ลอนดอน, ITB เบอร์ลิน, ATM สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้เรายังหาตลาดใหม่ๆ อาทิ อินเดีย รัฐเซีย เพราะที่ผ่านมาตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียถือว่ามาแรงมากในพัทยา”
นอกจากนี้นายกเมืองพัทยายังกล่าวว่า เดิมทีพัทยาทำยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวเพียงลำพังในพื้นที่ แต่ต่อไปจะมีการทำตลาดเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงด้วย และมีการปรับแผนนักท่องเที่ยวหลังเกิดวิกฤตท่องเที่ยว จากเดิมที่ทำตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 70 นักท่องเที่ยวไทยร้อยละ 50 อาจปรับเป็น 50 : 50 หรือ 60 : 40 เป็นต้น
นายกเมืองพัทยา เล่าเพิ่มเติมว่า จุดขายอีกอย่างหนึ่งของพัทยาคือจะเน้นการจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของกีฬา ไม่ว่าจะเป็น แข่งขันวินเซิร์ฟชิงแชมป์เอเชีย ช่วง 28 พ.ย.-14 ธ.ค. 51 เป็นเจ้าภาพจัดเจ็ตสกี ต้นปี 52 ส่วนกิจกรรมเดิมๆก็ยังคงส่งเสริมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเทนนิสพัทยาโอเพ่น การแข่งขันกอล์ฟ พัทยามาราธอน พัทยามิวสิคเฟสติวัล
ชูเกาะล้านดึงนักท่องเที่ยว
นายกเมืองพัทยา กล่าวต่อว่า พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาด ความเป็นเมืองบันเทิง และมากด้วยสถานที่ท่องเที่ยว เราจึงคงไว้ให้เป็นจุดขายเดิมเพราะเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป แต่เราจะเพิ่มจุดขายใหม่ๆทางการท่องเที่ยวเข้าไป โดยจะเน้นโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวเดิมอย่างเกาะล้าน ที่มีอยู่แล้วให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สำหรับเกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสารประมาณ 45 นาที เรือเร็วประมาณ 15 นาที มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีหาดทรายขาวนวลเม็ดทรายละเอียด มีชายหาดน่าสนใจอย่าง หาดแสม หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน เกาะล้าน คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์
ในขณะที่ข้างๆเกาะล้านมี เกาะครก และเกาะสาก เป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น เป็นแหล่งซีวอล์คเกอร์เดินชมโลกใต้ทะเล และมีเรือท้องกระจกดูปะการังให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจได้มาสัมผัสกัน
นอกจากเกาะล้านแล้ว นายกเมืองพัทยาเปิดเผยว่ามีโครงการที่จะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยววิถีชีวิต ชุมชน ให้เป็นจุดขายใหม่ของเมือง
“ผมไม่ลืมในเรื่องของวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิมของเมืองพัทยา ในอนาคตจะผลักดันให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่เน้นในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นหมู่บ้านคล้ายหมู่บ้านโอทอปขายผลิตภัณฑ์ชุมชน อย่างเช่น อาหารทะเลแห้ง เครื่องแกง ซอส ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว และผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่น ตลอดจนให้เป็นเขตพัทยาเมืองเก่า เป็นถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวมากินมาเที่ยว และซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน” นายกเมืองพัทยากล่าว
จุดขายใหม่ ตลาดน้ำ 4 ภาค
พัทยานอกจากจะมีทรัพยากรท่องเที่ยวอันโดดเด่นอย่างชายทะเล และความเป็นเมืองบันเทิงแล้ว พัทยายังมีสิ่งน่าสนใจที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวมากมาย อาทิ อันเดอร์ วอเตอร์ เวิลด์,ปราสาทสัจธรรม,พัทยาปาร์ค, เมืองจำลอง,พิพิธภัณฑ์ของริบลีย์ believe it or not,พิพิธภัณฑ์ขวด และอื่นๆอีกมากมาย
แต่กระนั้นพัทยาก็ยังคงมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ อย่างล่าสุดพัทยามีตลาดน้ำ 4 ภาค เป็นจุดดึงนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ ซึ่ง รัตนาวดี ศรีเสน่ห์ กรรมการผู้จัดการบริษัทตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา)จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพัทยาไม่มีตลาดน้ำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย ทางบริษัทจึงสร้างตลาดน้ำ 4 ภาคขึ้นมา เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทย
“ตลาดน้ำ 4 ภาค มีแนวคิดในการนำเสนอเน้นวิถีชาวน้ำ เน้นขายสินค้าไทย สินค้าพื้นบ้านคุณภาพ โดยเน้นที่การสร้างความต่างจากที่อื่นเนื่องจากที่อื่นไม่มีตลาดน้ำ 4 ภาคในสถานที่เดียวกันแบบนี้” รัตนาวดี กล่าว
สำหรับ ตลาดน้ำ 4 ภาค คือ ตลาดน้ำภาคเหนือ กลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ มีการวางผังเป็นรูปประเทศไทย และจัดวางตลาดแต่ละภาคตามตำแหน่งทิศจริง โดยจุดเด่นของแต่ละภาคจะอยู่ที่สถาปัตยกรรม หลังคา และศิลปะการแสดงประจำภาคนั้นๆ
ตลาดน้ำ 4 ภาค ตั้งอยู่บนบึงน้ำจืด ถ.สุขุมวิท-พัทยา(ใกล้สุดเขตเมืองพัทยาฝั่งขาเข้าสัตหีบ) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีเนื้อที่เกือบ 70 ไร่ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จประมาณ 75 % เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเปิดให้เข้าฟรี ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-23.00 น. ภายในแบ่งเป็นจุดชมย่อย อาทิ ทุ่งทานตะวัน(เสียค่าเข้าชม 20 บาท) พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก(เสียค่าเข้าชม 100 บาท) มีร้านค้า 114 ร้าน มีการแสดงประเพณี วัฒนธรรมไทย มีการล่องเรือพายชมทัศนียภาพตลาดน้ำ
และนี่ถือเป็นจุดขายใหม่ที่จะมาช่วยเสริมทัพการท่องเที่ยวเมืองพัทยาให้น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งในอนาคตพัทยาจะเดินทางไปถึงจุดหมายแห่งเมืองท่องเที่ยวน่าอยู่ในอันดับต้นๆของโลก ดังที่ทีมงานบริหารเมืองพัทยาตั้งเป้าไว้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
