xs
xsm
sm
md
lg

หัวหินไม่สิ้นมนต์หอย/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
ทิวทัศน์เมืองหัวหิน
"หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอย จนหอยติดหิน"

ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าตำรับเพลงนี้ รู้แต่ว่าหากพูดถึงบทเพลงแห่งหัวหิน เพลงนี้มีคนนิยมร้องกันมาก เรียกว่าดังกว่าบทเพลงคลาสสิคอย่าง“หัวหินสิ้นมนต์รัก” ของ สุเทพ วงศ์กำแหง เสียอีก

นั่นคงเป็นเพราะเพลงหัวหินเป็นถิ่นมีหอยนั้นร้องง่าย มีเนื้อหาโดน แถมติดเรทอาร์นิดๆ หลายๆคนจึงร้องเล่นกันได้อย่างติดปาก

ไม่เพียงเท่านั้น วลี“หัวหินเป็นถิ่นมีหอย”ก็ดูจะกลายเป็นวลียอดฮิต ที่ร้านอาหารเจ้าดังร้านหนึ่งในหัวหินถึงกับสกรีนเป็นคำกลอนติดไว้ที่ด้านหลังของเสื้อพนักงานเสิร์ฟว่า

      “หัวหินเป็นถิ่นมีหอย
มีบรมกุ้งฝอยหินหอยปะการัง
หัวหินเป็นถิ่นมีสตังค์
มีฝรั่งนั่งคอยจนหอยติดหิน”


พูดก็พูดเหอะ ณ ปัจจุบันนี้ที่หัวหิน คงไม่มีฝรั่งคนไหนมานั่งคอยหอยให้ติดหินอีกแล้ว จะมีก็แต่พวกที่นั่งคอยเมนูหอยตามร้านอาหารต่างๆ
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
ส่วนวลีที่ว่า“หัวหินเป็นถิ่นมีสตังค์”นั้น อันนี้ผมไม่ปฏิเสธด้วยประการทั้งปวง เพราะหัวหินถือเป็นสถานตากอากาศยุคแรกๆของเมืองไทย เป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงและผู้มีฐานะในสังคม นับจากอดีตถึงปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่คุ้นกันดี

นอกจากนี้จากการไปประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง ผมเห็นได้ชัดว่าของซื้อ ของขาย อาหารการกินจำนวนมากที่หัวหินนี่มีราคาค่อนข้างแพงสมดัง“หัวหินเป็นถิ่นมีสตังค์” หลายๆร้าน หลายๆเจ้า ขายของแพงในระดับไม่ธรรมดา หากแต่เป็นความแพงในระดับแพงระยับถึงแพงบรรลัย บางร้านดูเป็นร้านอาหารริมทะเลธรรมด๊า ธรรมดา แต่ประทานโทษเมื่อเข้าไปนั่งกินแล้วเช็คบิลล์ออกมา ลมแทบจับ

ส่วนในตลาดกลางคืนหรือตลาดโต้รุ่งนี่ก็ใช่ย่อย หลายๆร้านหากไม่ไถ่ถามราคาก่อนซื้อก่อนกินแล้ว เผลอสั่งไปอาจจะกระเป๋าเบาได้ ดังกรณีของเพื่อนผมคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านไปแถวร้านทอดมันเจ้าหนึ่งในตลาดโต้รุ่ง ที่แม้จะขายทอดมันในขนาดปกติธรรมดาวางขายในกล่องโฟมเหมือนร้านทั่วๆไป แต่ไม่รู้ว่าแม่ค้าร้านนี้ทอด-ทอดมันอีท่าไหน จึงส่งกลิ่นหอมลอยยั่วยวนโชยไปเตะจมูกของไอ้เพื่อนผมคนนี้จนแทบเลือดกลบจมูก
หาดหัวหิน
และด้วยความหิวบวกกับความเป็นคนตะกละโดยสันดาน ไอ้เพื่อนคนนี้จึงเดินรี่ปร๊าดเข้าไปสั่งทอดมันมากินโดยไม่ไถ่ถามราคาก่อน

“กล่องนึง มีทอดมันอยู่ 4 ชิ้น กูคิดว่าเต็มที่ก็กล่องละ 20 บาทล่ะว้า แต่ที่ไหนได้ พอสั่งซื้อ แม่ค้าเขาบอกกูว่า“กล่องละ 100 ค่ะพี่” อู้!?! แม่ม...โคตรแพงเลย ทอดมัน 4 ชิ้นร้อย แต่จะไม่ซื้อก็ไม่ได้หยิบของเขามาแล้ว” เพื่อนผมมันมักเล่าประสบการณ์สุดระทมให้ใครต่อใครฟังเสมอเวลาพูดถึงหัวหิน

นั่นเป็นอดีตที่ผ่านมาหลายปีดีดักแล้ว หากเป็น ในยุคนี้ พ.ศ.ที่ข้าวของขึ้นราคา น้ำมันแพงระยับ ผมไม่รู้ว่าทอดมันเจ้านั้นจะเป็นยังไงบ้าง จะขายดีหรือเจ๊งไปแล้วก็ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้ก็คือเวลาจะซื้อของกินของใช้หรือสั่งอาหารต่างๆในหัวหิน ควรสอบถามราคาก่อนเป็นดีที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อความสบายใจและเพื่อความปลอดภัยต่อเงินในกระเป๋าของตัวลูกค้าเอง

กลับมาที่เรื่องหอยๆในหัวหินกันต่อ นอกจากหอยแครง หอยแมลงภู่ หอยลาย หอยตลับ หอยนางรม ที่ผมชอบไปสั่งนั่งกินตามร้านอาหารริมทะเลแล้ว หัวหินยังมี“เปลือกหอย”เป็นอีกหนึ่งของที่ระลึกขึ้นชื่อ
สารพัดของประดิษฐ์จากเปลือกหอย
สำหรับเปลือกหอยที่หัวหินนี่ไม่ใช่เปลือกหอยธรรมดา หากแต่เป็นเปลือกหอยประดิษฐ์ งานหัตถกรรมที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของภูมิปัญญาชาวบ้าน ประดิษฐ์เปลือกหอยเป็นตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา อาทิ ไก่ กระต่าย แมว หงส์ นก นกยูงรำแพน ดอกไม้ ต้นไม้ โมบาย กรอบรูป และอื่นๆ ซึ่งแต่ละตัวล้วนมีลวดลายสีสันสดใสทั้งสีดั้งเดิมแท้ๆจากเปลือกหอย และสีที่ผู้ทำแต่งแต้มขึ้น ทั้งฟ้า แดง เขียว เหลือง ชมพู ดูน่ารักน่าเอ็นดู

อนึ่งในหนังสือ หัวหิน : “170 ปี มีเรื่องเล่า” ของชมรมเรารักหัวหิน ตอน“หัวหินเป็นถิ่นมีหอย” ได้เขียนเล่าความเป็นมาของตุ๊กตาหอยแห่งหัวหินเอาไว้ว่า

...ผู้คิดค้นเป็นคนแรกได้แก่ นายธูป ศรีสวัสดิ์ ชาวหัวหินขนานแท้ดั้งเดิมที่ไปบวชเป็นมหาเปรียญถึงวัดจักรวรรดิ หรือวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯโน่น หลังจากลาสิกขาบทกับมาหัวหินก็ยังมีอาชีพประมงหาเลี้ยงครอบครัวเรื่อยมาจากการที่ได้ไปบวชที่กรุงเทพฯ ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้พบได้เห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ที่ไม่มีในบ้านนอกนั่นเองทำให้ นายธูป หรือมหาธูปจับเอาเปลือกหอยมาดัดแปลงให้สวยงามได้ นับว่ามหาธูปเป็นคนแรกของหัวหินที่คิดทำขึ้นมาในปี 2487-2488 โดยครั้งแรกนำไปวางขายในร้านของหมอทองสุข บุตรยิ่ง ที่นอกจากจะเป็นร้านขายยาแล้วยังเหมือนร้านขายของชำด้วย เพราะสมัยนั้นยังไม่มีร้านขายของที่ระลึกดังเช่นสมัยนี้

ต่อมาตุ๊กตาหอยได้พัฒนาขึ้น เพราะมีการเรียนรู้ต่อๆกันไป มีการเดินเร่ขายตุ๊กตาหอยตามบ้านพักตากอากาศด้วยการใส่กระจาดทาบเอาบ้างหรือเอากระจาดที่มีตุ๊กตาหอยวางแล้วทูนหัวเดินขายของตามรถทัศนาจร อาจจะเป็นเพราะตุ๊กตาหอยเป็นสิ่งแปลกใหม่ในขณะนั้นทำเท่าไรก็ขายหมดเกลี้ยงจนทำแทบไม่ทัน...

ร้านขายผลิตภัณฑ์เปลือกหอยริมถนนสู่ชายหาด
นอกจากนี้บทความดังกล่าวยังเล่าว่าตุ๊กตาหอยในยุคนั้นเป็นดังของคู่เมืองหัวหิน โดยชาวบ้านจะให้บรรดาหอยต่างๆ อาทิ หอย เจดีย์ หอยตลับ หอยพัด หอยกระทู้ ติดกาวหนังควายทำเป็นรูปแบบต่างๆแล้วระบายสีอย่างสวยงาม

แต่อย่างว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนตาม ตุ๊กตาหอยแห่งหัวหิน ณ ปัจจุบัน จึงมีสภาพเหมือนสินค้าของที่ระลึกทั่วๆไป โดยจะมีจำหน่ายเป็นจำนวนมากแถวถนนทางเดินลงชายหาด ที่นอกจากจะมีวางขายในร้านขายของที่ระลึกแล้ว ผมยังเห็นคุณป้าแม่ค้าเดินเร่หาบตุ๊กตาหอยขายอีกด้วย

“มันก็พอขายได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับดีไม่เหมือนแต่ก่อน”

คุณป้าแม่ค้าบอกยังงั้น ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจหรือเพราะค่านิยมของคนยุคนี้ที่ค่อนข้างตื่นตัวในกระแสอนุรักษ์ธรรมชาติ คนส่วนหนึ่งจึงมองว่าการซื้อตุ๊กตาหอยเป็นการส่งเสริมการทำลายธรรมชาติทางอ้อม เพราะในอนาคตอีกร้อยปีอีกพันปีข้างหน้า(หรือมากกว่านั้น)เปลือกหอยเหล่านี้จะถูกคลื่นซัดกัดกร่อนย่อยสลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นทราย-ชายหาด
คุณป้าเก็บเปลือกหอยไปทำตุ๊กตา
สำหรับผมแต่เดิมก็เคยมีความคิดตามสมัยนิยมออกไปในทำนองนั้นบ้าง แต่ว่าไม่กับสุดโต่งเหมือน NGO บางคนที่ตั้งธง คัดค้าน ต่อต้าน ผลิตภัณฑ์จากท้องทะเล แถมยังกล่าวเชิงตำหนิต่อชาวบ้านที่ทำมาหากินอย่างบริสุทธิ์ด้วยการเก็บเปลือกหอยมาประดิษฐ์เป็นตุ๊กตาว่า เป็นพวกร่วมทำลายธรรมชาติ โดยที่พวกเขาไม่พยายามทำความเข้าใจหรือคำนึงถึงความเป็นจริงใดๆ

จนเมื่อขากลับจากหัวหินผมเปลี่ยนบรรยากาศๆไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารริมทะเลแถวชะอำ หลังกินข้าวบ่ายเสร็จ ผมถือโอกาสไปเดินยืดเส้นยืดสายริมชายหาดที่แดดร้อนเปรี้ยง ระหว่างนั้นเห็นคุณป้าในชุดคลุมตัวมิดชิดเดินถือถังพลาสติก ก้มๆเงยๆ อยู่แถวชายหาด ด้วยความอยากรู้ผมจึงเดินเข้าไปถามคุณป้าว่าทำอะไร

“เก็บเปลือกหอยน่ะลูก เอาไปทำตุ๊กตาขาย”

คุณป้าตอบผมสั้นๆก่อนก้มลงเก็บเปลือกหอยบนชายหาด ซึ่งผมเห็นคุณป้าแกเลือกเก็บเฉพาะเปลือกหอยที่มีสภาพสมบูรณ์ ค่อนข้างดี ส่วนเปลือกหอยหักๆผุๆ แกก็ปล่อยให้มันถูกคลื่นซัดสาดรอวันกลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนทรายต่อไปในอนาคตอันไกลโพ้น

เมื่อเจอกับสภาพความเป็นจริงเช่นนี้ ดูเหมือนว่าความคิดผมจะเปลี่ยนไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น เพราะตุ๊กตาเปลือกหอยนั้นไม่เพียงให้ความเพลิดเพลิน สวยงาม แก่ผู้ที่ซื้อไปครอบครองเท่านั้น แต่ตุ๊กตาเปลือกหอยยังให้โอกาสแก่ชาวบ้านหลายๆคนในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตของตนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น