xs
xsm
sm
md
lg

BDMSนำAI- ROBOT จับมือพันธมิตรร่วมวิจัยด้านการแพทย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ กรุงเทพดุสิตเวชการ” ชู เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์มาใช้ในทางการแพทย์ หวังย่นระยะเวลาการนรักษา ลดปริมาณขยะทางการแพทย์ หนุนนโยบายรัฐ สู่ Net Zeroในปี 2050 เดินหน้าจับมือกับ รพ.และบริษัทเอกชน ร่วมพัฒนาและวิจัยทางการแพทย์เพิ่มศักยภาพ




นายพนาสันต์ สุจริตพานิช ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลาง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ที่ทำธุรกิจการแพทย์ หรือโรงพยาบาล ซึ่งธุรกิจนี้ก็มีความท้าทายตลอด ภาพที่เห็นขณะนี้คือ เรื่องของสังคมผู้สูงอายุ (aging society) เป็นตัวบนสุดในห่วงโซ่ของ Mega Trend in Healthcare

ขณะที่ระหว่างทางก็มีการพัฒนาเอไอด้วย ดังนั้นในปัจจุบันการนำเอไออีกทั้งเทคโนโลยีที่ท้นสมัย เข้ามาช่วยในการรักษาจะตอบโจทย์สิ่งต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในโลก เพราะจากตัวเลขการตายในแต่ละปี ที่เกิดจากโรคภัยและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งโรคที่เกิดขึ้นมาใหม่ ๆ อย่างถ้าเกิดคนเราอ้วนขึ้นมา สิ่งที่ตามมาจะมีมากมาย และปัจจุบันที่เป็นสังคมผู้สูงอายุ เพราะยุคที่มี่คนเกิดน้อยนั้น การที่จะพยายามดูแลรักษาให้ชีวิตยืดยาวนับว่าสำคัญ ทำให้่มีความคาดหวังมากขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากเกิดโรคระบาดโควิดมานี้ ทำให้เกิดวิธีการป้องกัน เพราะผู้ประกอบการออกไปจากธุรกิจนี้ มีการออกไปของคนที่อยู่ในธุรกิจนี้่ล้มหายตายจากไป ค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ความสามารถในการแข่งขัน จำนวนของคนที่อยู่ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจก็มีปีญหามากขึ้น เหล่านี้จะทำให้เกิดขึ้นในสังคมทำให้เกิดความเครียด

“ภาพรวมทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งที่ BDMS ต้องทำ พร้อมกับการวางแผนด้าน esg เรื่องสิ่งแวดล้อมก็สำคัญและในธุรกิจ Healthcare ทำได้แค่ส่วนหนึ่ง เพราะเราใช้เท่าที่มีอยู่ ส่วนเรื่องของสังคม ถือเป็นเรื่องหลักที่ธุรกิจHealthcare ต้องใส่ใจทั้งภายในและภายนอก ทั้งบุคลากรที่อยู่กับและเรื่องของสิ่งแวดล้อม ” นายพนาสันต์กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับสังคมผู้สูงอายุ การนำเทคโนโลยีและ การใช้หุ่นยนต์หรือ ROBOT และมาใช้ในด้านการแพทย์ จะทำให้เวลาในการรักษาสั้นลง และผู้ป่วยฟื้นตัวได้ง่ายและไม่ต้องเจ็บตัวมาก ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ เป็นการตอบโจทย์ทางสังคมได้ดี และอีกอย่างคือ มะเร็งลำไส้ที่พบบ่อยมาก

สำหรับ เรื่องอายุของสุขภาพ และอายุขัยของแต่ละคน คือการบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติรวมทั้งเด็กเกิดน้อย ที่เราต้องหาวิธีเพื่อป้องกันการสูญเสียจากการเจ็บป่วย เพราะปัจจุบันอัตราเกิดเกิดของคนไทยต่ำ ดังนั้น การดูแลรักษาให้มีสุขภาพดี จึงสำคัญ รวมทั้ง มะเร็ง

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องยา เพราะเมื่อมีการใช้เทคโนโลยี เข้ามาใช้ในการการจ่ายยา ซึ่งการทานยาของคนเรา ในยุคใหม่คือการตรวจยีน ว่ายาทานไปแล้วรักษาได้ผลมากน้อยเพียงใด เพราะยีนแต่ละคนต่างกัน ดังนั้น การมีเทคโนโลยีใหม่ ๆที่ทันสมัย จะทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายยากทาเกินความจำเป็น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เริ่มใช้แล้วแพทย์ก็สามารถวินิจฉัยคำนวนการจ่ายยาได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายพนาสันต์ กล่าวอีกว่า “BDMS ได้นำ AI มาใช้ รวมถึงการขนส่งด้วยการนำรถ EV รวมทั้งเ กรีน เฮลแคร์ เรื่องของการออกแบบ ที่ต้องบริหารจัดการการ ต้องเรียกว่า ธุรกิจ Healthcare เป็นธุรกิจหลักของเรา ธุรกิจรีไซเคิลนั่นไม่ใช่ Healthcare ก็หวังว่าที่เราทำมานั้น ทำให้เราบริหารจัดการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นการลดต้นทุนไปในตัวด้วย ”

อย่างไรก็ดี "การรีสกิลและอัพสกิล ของ ประชากรวัยทำงาน และการคาดหวังของการรักษาพยาบาลและการให้บริหาร การใช้พลังงานต่าง ๆ รวมทั้งการเปลี่ยนถ่าย เรื่อง Net Zeroในปี 2050 ทั้่งหมดนี้ ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการทำกับภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการพัฒนาฐานข้อมูลพันธุกรรมของคนไทย จะนำไปสู่การวิเคราะห์ยีนของคนไทย ซึ่งทำให้เรามีข้อมูลของคนไทยเราเอง ”

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเก่งในเรื่องของการนำเอา AI มารักษามะเร็ง ซึ่ง BDMS ร่วมมือกับ รพ.ศิริราช และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งอีกไม่นานจะเห็นผลงานที่ออกมาว่า การรักษาพยาบาล VALUE BASE ของไทยเองที่เราได้จากความร่วมมือครั้งนี้

อีกสิ่งสำคัญคือนวัตกรรมต่าง ๆที่ร่วมกับบริษัทเอกชน การจัดการ การอ่านผล การสกรีมมิ่ง กับโรงพยาบาลในเครือที่มีอยู่กว่า 50 แห่ง ซึ่งทุกแห่งมีปัญหาและมีการให้บริษัทต่างชาติมาทำ การทำ start up project ทั้งหมดที่BDMS ดำเนินการอยู่ ซึ่งการเข้าไปช่วยคนข้างนอก เนื่องจาก BDMS ทำธุรกิจ Healthcare คือเรื่องของสังคมที่ต้องทำต่อเนื่องถือว่าทำได้ดีมาก ในเรื่องการช่วยเหลือต่างๆ ปีที่ผ่านมา ทำได้ 2 แสนกว่าราย และการให้สวัสดิการ ตลอดจนการให้ผู้ป่วยเข้าถึงในการบริการให้ได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายคือการบริการทางการแพทย์ที่เน้น การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รักษาผู้ป่วยให้หายเป็นปกติได้เร็วขึ้น กลับไปใช้ชีวิตปกติได้ดังเดิม ถือว่านั่นคือการบริหารที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่ต้องสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม อีกทั้งการใช้ หุ่นยนต์มาใช้ และในส่วนของแพทย์ที่ชำนาญการ ปัจจุบัน หลายโรงพยาบาลได้ร่วมือกันเพื่อพัฒนาและใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ เป็นการร่วมมือกันกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งผลดีต่อภาพรวม

อย่างเช่นการเปลี่ยนข้อสะโพกที่ผ่าจากด้านหน้าผ่านกล้ามเนื้อน้อยที่สุด แค่ 24 ชั่วโมงก็ออกไปได้ เพราะการรักษาที่ใช้เวลาไม่นาน ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่ต้องนอนในโรงพยาบาลนาน และสามารถกลับไปทำงานปกติ นั่นทำให้ไม่ต้องสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม และไม่ต้องสื้นเปลืองเรื่องของขยะทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบัน โรงพยาบาลรัฐมีแพทย์มากกว่า 50 คนแล้ว และจะมีการร่วมมือพัฒนาต่อยอดในการรักษามากขึ้น

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีการใช้ AI มากขึ้น อย่าง start up ได้รับความสนใจมากทั้งสหรัฐและไทย ซึ่งมีนักเรียนแพทย์ไปทำงานวิจัยจำนวนมาก ในส่วนของ BDMS นั้น นำ AI มาใช้ในการรักษา 10 ปีแล้ว ขณะที่ส่วนของการจัดการภายใน ได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมด้วยเพื่อลดการใช้พลังงาน ลดการขยะ กระดาษน้อยลง และเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการรักษาด้วย
"สำหรับขยะที่เกิดจากการรักษามี 2 ส่วนของติดเชื้อเราควบคุมไม่ได้ แต่อีกส่วนขนะบางอย่างของการใช้วัสดุในห้องผ่าตัดที่้ใข้ไม่หมดเราต้องพิจารณาแก้ไขเพื่อควบคุม ส่วนที่พึ่งคนอื่นอย่าง ไฟฟ้า น้ำมันและแหล่งพลังงาน เราควบคุมไม่ได้ แต่อีกส่วนที่คนค้าขายและส่งหรือซัพพลายเออร์ของให้ BDMS ที่ต้องใช้เวลาอีกพอควร มีสัดส่วนเกือบ 70% ส่วนก๊าซเรือนกระจกหรือ green House gas ที่ปล่อยมาจากส่วนนี้ ซึ่งต้องอาศัยภาครัฐและหลายๆ ส่วนเข้ามาช่วย และทำให้ BDMS ต้องเลือกมใช้ ถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง

เนื่องจากปัจจุบัน ธุรกิจโรงพยาบาลยังได้รับความสนใจต่อเนื่อง เพราะคนต้องการการรักษาที่ดี บวกกับโรคใหม่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศและฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดโรคแปลกๆ ขึ้นมาก ดังนั้น การแพทย์ที่เน้น การใช้เทคโนโลยี ที่ทันสมัย รักษาผู้ป่วยให้หายเป็นปกติได้ในเร็ววัน และการทำให้โรงพยาบาลที่มีอยู่สามารถให้บริการและรักษาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วคือประสิทธิภาพที่ทำให้ไม่ต้องสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม ขณะที่ในส่วนของแพทย์ที่ชำนาญการ ปัจจุบัน หลายโรงพยาบาลได้ร่วมือกันเพื่อพัฒนาและใช้นวตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ เป็นการร่วมมือกันกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งผลดีต่อภาพรวม


กำลังโหลดความคิดเห็น