xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมตลาดหุ้นไทยจึงไร้เสน่ห์ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ผนึกกำลังอย่างแข็งขัน เพื่อฟื้นฟูบรรยากาศการลงทุนให้กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ตกต่ำมายืดเยื้อยาวนานหลายปี แต่ความพยายามปลุกตลาดหุ้น ที่ผ่านมายังไม่เคยประสบความสำเร็จแต่อย่างใด

ล่าสุด 4 หน่วยงานประกอบด้วยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้ร่วมกันผลักดัน “ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย” ประกอบด้วย 4 มาตรการหลักคือ

การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุนระยะยาว และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมถึงสร้างศูนย์รวมข้อมูลพอร์ตผู้ลงทุน และการส่งเสริมบทบาทผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุนไทย

การดึงดูดกิจการที่มีศักยภาพและคุณภาพเข้าสู่ตลาดทุนไทย การยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบัน ผ่านโครงการ Jump+ และการปรับขั้นตอนการออกและเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงเกณฑ์การเข้าถึงแหล่งระดมทุนของ SMEs และ New Economy และการเปิดเผยข้อมูล ESG ที่เน้นดึงดูดผู้ลงทุนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบด้าน ESG ในมาตรฐานสากล

การสร้างความเข้มแข็งในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนและการบังคับใช้กฎหมาย การยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน (gatekeepers) เพื่อป้องปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสม และ การใช้เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัทขนาดกลางและเล็ก

การเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนในการสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยและเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล การทบทวนหลักเกณฑ์การซื้อขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ลงทุน และการให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสามารถใช้สิทธิ e-proxy ได้สะดวกยิ่งขึ้น

มาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยทั้ง 4 ข้อ เป็นสิ่งที่ดี แต่อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทย กลับมามีเสน่ห์เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่เพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

ความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการคิดคนหามาตรการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น เป็นเจตนาที่ดี แต่ปัญหารากฐานแห่งความตกต่ำของตลาดหุ้น และการไร้เสน่ห์ของตลาดหุ้นไทย อยู่เกินกว่าอำนาจและบทบาทของ 4 หน่วยงานที่จะเข้าไปแก้ไข

ต้นเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่นอกจอเรดาร์ของนักลงทุนต่างชาติ และเกิดการเทขายหุ้นทิ้งมาหลายปีติดต่อ โดยปี 2568 ต่างชาติขายหุ้นทิ้งแล้วกว่า 9.6 หมื่นล้านบาท เกิดจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา สถานการณ์การเมืองมีความไม่แน่นอน ยังไม่รวมปัญหาธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน โดยการทำธุรกรรมเพื่อผ่องถ่ายเงินโกงผู้ถือหุ้น การปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายในเอาเปรียบนักลงทุน

สถิติอาชญากรรมในตลาดหุ้นไทย น่าจะสูงที่สุดในโลก เพราะพฤติกรรมโกงในรูปแบบต่าง ๆ เกิดขึ้นแทบจะเป็นรายวัน และยังไม่มีหน่วยงานใดกำราบปราบปรามได้ บริษัทจดทะเบียนเน่า ๆ มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส สร้างความเสียหายให้นักลงทุนก็มีไม่น้อยกว่าครึ่งในตลาดหุ้นไทย

4 มาตรการสร้างเสน่ห์ของ 4 หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน จึงหวังผลเพียงแค่การสร้างภาพให้ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนดีขึ้น แต่ไม่อาจพลิกฟื้นบรรยากาศการลงทุนให้กลับมาสดใส และไม่อาจจูงมือนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้

การปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้น การเรียกนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้ เป็นงานใหญ่ในระดับชาติ และต้องมีรัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการกำหนดนโยบายและผลักดันมาตรการ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตตาม ตลาดหุ้นไทยจะมีเสน่ห์ขึ้นมาทันตาเห็น

นักลงทุนต่างชาติ เมื่อเห็นโอกาสทำกำไร จะหลั่งไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเอง โดยไม่ต้องออกแรงฉุดกระชาก

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ภารกิจที่สำคัญ มีเพียงไม่กี่ประการคือ การเฟ้นคุณภาพบริษัทจดทะเบียนที่จะรับเข้ามาใหม่ การพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนที่มีอยู่ ควบคุมกำกับบริษัทจดทะเบียน ให้ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ไม่ก่อพฤติกรรมที่เข้าข่ายการผ่องถ่าย ไซ่ฟ่อนเงิน ปล้นผู้ถือหุ้น

และกำกับการซื้อขายหุ้นให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิยุติธรรม ไม่มีการปั่นหุ้น ไม่มีการใช้ข้อมูลภายในเอาเปรียบนักลงทุน

ภารกิจหลักการสร้างบริษัทจดทะเบียนจำนานรวมประมาณ 860 บริษัท ให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ไม่มีพฤติกรรมโกง

ภารกิจหลักในการปราบปรามอาชญากรรมในตลาดหุ้น ถ้าทั้ง4หน่วยงานทำได้ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกเยอะ

แต่ภารกิจหลักการปราบบริษัทจดทะเบียนขี้โกงและการกวาดล้างอาชญากรในตลาดหุ้นให้สิ้นซาก ทั้ง4 หน่วยงานยังทำไม่ได้

ตลาดหุ้นไทยจึงไร้เสน่ห์อย่างสิ้นเชิงมาหลายปีแล้ว

ดัชนี ฯ ที่ถอยลงมายืนระดับ 1300จุด มูลค่าการซื้อขายหุ้นที่เคยพุ่งขึ้นเฉลี่ยวันละ 9.4 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2564 และลดลงกว่าครึ่ง เหลือเฉลี่ยวันละประมาณ 4 หมื่นล้านบาทในปี 2568 เป็นภาพสะท้อนความสิ้นเสน่ห์ของตลาดหุ้นไทย








กำลังโหลดความคิดเห็น