xs
xsm
sm
md
lg

วอลล์สตรีทจับตาบิทคอยน์พุ่ง! JPMorgan-Citi-Standard Chartered ประสานเสียง เป้าราคาแตะ 2 แสนดอลลาร์ภายในสิ้นปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สงครามคาดการณ์บิทคอยน์เดือด! ธนาคารยักษ์ใหญ่ทั่วโลกประเมินราคาบิทคอยน์พุ่งแรงรับกระแส ETF ไหลเข้า-เงินทุนไหลออกจากทองคำ ดันเป้าราคาสูงสุดแตะ 200,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ขณะที่สัญญาณเทคนิคเริ่มบ่งชี้รอบขาขึ้นระยะใหม่

บิทคอยน์ (Bitcoin) ปรับตัวขึ้นกว่า 13% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับใกล้สถิติสูงสุดเดิมที่ 124,500 ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์จากสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ว่าราคากำลังเข้าสู่ช่วงเร่งตัวครั้งใหม่ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยแรงหนุนหลักมาจาก กระแสเงินทุนไหลเข้า Bitcoin ETF และการโยกย้ายทุนจากตลาดทองคำ

กราฟราคา BTC/USD รายวัน ที่มา: TradingView
Citi คาดบิทคอยน์แตะ 133,000 ดอลลาร์ ปิดปีทำจุดสูงสุดใหม่

ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ประเมินว่าบิทคอยน์จะปิดปี 2568 ที่ระดับ 133,000 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ แม้เป็นการปรับขึ้นเพียงราว 8.75% จากระดับปัจจุบันที่ 122,350 ดอลลาร์ แต่ถือเป็น “ฐานขาขึ้นอย่างมั่นคง” ที่ได้แรงหนุนจากการไหลเข้าของกองทุน ETF แบบสปอต (Spot ETF) และ การจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลในคลังทุนของบริษัทเอกชน ซึ่งถูกมองเป็นแรงขับเคลื่อนเชิงโครงสร้างระยะยาว

กราฟราคา BTC/USD รายวัน ที่มา: TradingView
ขณะนี้กองทุน Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 163.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าภายในสิ้นปีจะมีเงินทุนใหม่ไหลเข้าเพิ่มอีกกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ หากเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงขึ้น ซิตี้ยังเตือนว่าราคาบิทคอยน์อาจถอยลงได้ถึง 83,000 ดอลลาร์ ตามกรณีคาดการณ์เชิงลบ (Bear Case)

JPMorgan ชี้บิทคอยน์ยังต่ำมูลค่าเมื่อเทียบทองคำ คาดราคาทะลุ 165,000 ดอลลาร์

ทีมกลยุทธ์ของ เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) นำโดย นิโคลอส ปานิจิรตโซกลู (Nikolaos Panigirtzoglou) ประเมินว่า บิทคอยน์ยัง “ต่ำมูลค่า” เมื่อเทียบกับทองคำ หากปรับด้วยค่าความผันผวน (Volatility-adjusted)

ยอดคงเหลือ ETF จุด BTC สหรัฐฯ ที่มา: Glassnode
ในรายงานล่าสุดระบุว่า อัตราส่วนความผันผวนระหว่างบิตคอยน์ต่อทองคำลดลงต่ำกว่า 2.0 หมายความว่าปัจจุบัน บิทคอยน์ดูดซับเงินทุนเสี่ยงมากกว่าทองคำเพียง 1.85 เท่าเท่านั้น ซึ่งหากต้องการให้มูลค่าตลาดบิทคอยน์เทียบเท่าการถือครองทองคำเอกชนทั่วโลกในรูป ETF แท่งทอง และเหรียญทอง มูลค่ารวมราว 6 ล้านล้านดอลลาร์ ราคาบิทคอยน์จะต้องพุ่งขึ้นกว่า 42% แตะระดับราว 165,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

ขณะที่ราคาทองคำในปีนี้ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 48% ทำสถิติเติบโตดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522 แต่ดัชนี RSI รายปีของทองคำ (XAU/USD) ทะยานแตะ 89 จุด ซึ่งเป็นระดับ “ซื้อมากเกินไป” สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 โดยในอดีตระดับนี้มักนำไปสู่การปรับฐานลึก 40–60% ในระยะถัดมา

การเปรียบเทียบ Bitcoin และทองคำที่ปรับปริมาณแล้ว ที่มา: JPMorgan Chase
เจพีมอร์แกนจึงมองว่า หากราคาทองคำเริ่มอ่อนแรง เงินทุนอาจไหลเข้าสู่ตลาดบิทคอยน์ โดยเฉพาะในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ย และกระแสเงินทุนยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ ETF อย่างต่อเนื่อง

Standard Chartered ลั่นเป้า “2 แสนดอลลาร์” ภายในสิ้นปี

ด้านสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) ยังคงมีมุมมองเชิงบวกที่สุดในบรรดาธนาคารรายใหญ่ โดยคาดว่าบิทคอยน์อาจพุ่งแตะ 200,000 ดอลลาร์ ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ จากแรงหนุนของกระแสเงินทุน ETF เฉลี่ยกว่า 500 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์

กราฟแสดงผลการดำเนินงานรายปีของ XAU/USD ที่มา: TradingView
นักวิเคราะห์ของธนาคารระบุว่า ปัจจัยสำคัญคือ การยอมรับในระดับสถาบัน (Institutional Adoption) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และ สภาพคล่องทั่วโลกที่เริ่มผ่อนคลายซึ่งอาจสร้างเงื่อนไขให้บิตคอยน์เข้าสู่รอบกระทิงใหม่ ลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2563 - 2564

ทั้งนี้ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองกรณีราคาทะลุ 2 แสนดอลลาร์ไม่ใช่ “รอบเก็งกำไรระยะสั้น” แต่เป็น “แนวโน้มขาขึ้นเชิงโครงสร้าง” (Structural Uptrend) ที่มีรากฐานจากเงินทุนสถาบันและสภาพคล่องที่ฟื้นตัว

ที่มา: X
VanEck ชี้ปี 2568 บิทคอยน์มีสิทธิเข้าใกล้ 180,000 ดอลลาร์ รับอานิสงส์รอบ Halving

แวนเอค (VanEck) บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ ประเมินว่าบิทคอยน์อาจแตะ 180,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2568 จากแรงผลักดันของ “วงจรหลังการ Halving” ที่ลดอุปทานใหม่ลงครึ่งหนึ่ง

แผนภูมิการไหลสุทธิรายสัปดาห์ของ US Bitcoin ETF ที่มา: Glassnode
รายงานของแวนเอคชี้ว่า การ Halving เมื่อเดือนเมษายน 2567 เป็นจุดเริ่มต้นของ “ภาวะขาดแคลนซัพพลาย” ขณะที่กระแสความต้องการจาก ETF และการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลขององค์กร กำลังทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนรอบขาขึ้นถัดไป

หากพิจารณาตามสถิติย้อนหลัง บิทคอยน์มักทำจุดสูงสุดของรอบ (Cycle Peak) ภายในช่วง 365–550 วันหลัง Halving และในขณะนี้ได้ผ่านมาแล้ว 533 วัน ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่มักเกิดการเร่งตัวของราคาในอดีต

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับ BTC/USD: ตารางเปรียบเทียบผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ ที่มา: TradingView
ขณะที่ซาอัด อาห์เหม็ด (Saad Ahmed) หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ Gemini ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า วัฏจักรบิทคอยน์ในครั้งนี้อาจยาวนานกว่ารอบก่อน โดยระบุว่า “วงจรสี่ปีของบิทคอยน์ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยคณิตศาสตร์ล้วน ๆ หากแต่สะท้อนอารมณ์ของผู้คน” และมีแนวโน้มจะดำเนินต่อเนื่องไปถึงปี 2569

ประสิทธิภาพของราคาบิทคอยน์นับตั้งแต่การลดลงครึ่งหนึ่ง ที่มา: Glassnode
"บิทคอยน์" จากสินทรัพย์เก็งกำไรสู่สินทรัพย์เชิงโครงสร้าง

เมื่อมองภาพรวม แนวโน้มการประเมินของสถาบันการเงินระดับโลกสะท้อนความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นต่อบิทคอยน์ในฐานะ “สินทรัพย์โครงสร้างใหม่ของระบบการเงินโลก” ที่กำลังเปลี่ยนสถานะจากการเก็งกำไรระยะสั้น ไปสู่สินทรัพย์สำรองที่ได้รับการยอมรับในระดับสถาบันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากกระแสเงินทุนยังคงไหลเข้า ETF อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแรงกดดันต่อทองคำที่เริ่มอ่อนตัว ส่งผลให้บิทคอยน์อาจกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นของการปรับฐานสู่ระดับราคาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน