xs
xsm
sm
md
lg

บัตรกรุงศรียกระดับ4บัตรเรือธง-ตั้งเป้าดันยอดใช้จ่ายแตะ2.4แสนล.ในปี69

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บัตรเครดิต กรุงศรี ยกระดับสิทธิประโยชน์ 4 บัตรเรือธงภายใต้แนวคิด ‘Life Worth Living : คุณค่าในแบบคุณ’ จับมือพันธมิตรชั้นนำ ยกระดับสิทธิพิเศษเที่ยว ช้อป กิน เพิ่มคุณค่าทุกการใช้จ่าย พร้อมตั้งเป้ายอดบัตรใหม่ 215,000 บัญชี เติบโต 5% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 240,000 ล้านบาท เติบโต 6% ภายในปี 2569 และเพิ่มสัดส่วนผู้ถือ Gen Y-Gen Z เป็น 60%

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์
เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ประกอบกับสภาวะการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจซบเซา ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งปรับจุดขายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น ดังนั้น บัตรเครดิต กรุงศรี ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตเรือธงภายใต้การบริหารของบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด จึงได้มีการยกระดับสิทธิประโยชน์บัตรใหม่ โดยมุ่งยกระดับคุณค่าในการใช้จ่ายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างตามนิยามของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะหมวดใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งเที่ยว ช้อป กิน ซึ่งเป็นหมวดใช้จ่ายที่เป็นที่นิยมควบคู่ไปกับการสื่อสารจุดยืนของแบรนด์และจุดเด่นของบัตรเครดิต กรุงศรี ให้เป็นที่รับรู้และจดจำในวงกว้าง เพื่อเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นายสมหวัง โตรักตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า การยกระดับสิทธิประโยชน์บัตรเครดิต กรุงศรี ทั้ง 4 บัตร ที่ตอบโจทย์แต่ละกลุ่ม ได้แก่ บัตรเครดิต กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง และบัตรเครดิต กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ซิกเนเจอร์ สำหรับกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง, บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์ สำหรับกลุ่มลูกค้ารายได้สูง และบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ซึ่งบัตรทั้ง 4 ถือว่าเป็น Flagship Card หรือบัตรเรือธงของบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนผู้ถือ 40%ของยอดบัตรรวม และมียอดใช้จ่ายรวม 55%ของพอร์ตรวม โดยมุ่งเน้นในกลุ่มท่องเที่ยว, ช้อปปิ้ง และร้านอาหาร ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวมีมูลค่าการใช้จ่ายรวมกันมากกว่า 50,000 ล้านบาท หรือประมาณ 40%ของยอดรวม

"การยกระดับสิทธิประโยชน์ในครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด ‘Life Worth Living : คุณค่าในแบบคุณ’ ในครั้งนี้เป็นไปเพื่อวางจุดยืนของแบรนด์บัตรเครดิต กรุงศรี ในตลาดให้ชัดเจน โดยสิทธิประโยชน์บัตรใหม่จะเพิ่มคุณค่าที่ตอบไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั้งเที่ยว ช้อป กิน เช่น สายท่องเที่ยว รับพอยต์สะสมสูงสุด 5 เท่า เมื่อจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม และรับสิทธิพิเศษโรงแรมชั้นนำ, สายช้อป รับพอยต์สะสมสูงสุด 5 เท่า เมื่อซื้อสินค้าที่ห้างชั้นนำที่ร่วมรายการ, สายกิน รับส่วนลดสูงสุด 25% ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการ เป็นต้น และเพื่อเพิ่มสีสันดึงดูดลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ บัตรเครดิต กรุงศรี ยังได้ร่วมมือกับ ‘Benzilla’ ปริญญา ศิริสินสุข ศิลปินร่วมสมัย เจ้าของผลงาน ‘LOOOK’ คาแรกเตอร์เอเลียนสามตา ออกแบบสองหน้าบัตรโฉมใหม่ ได้แก่ บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์ และบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม"

“บริษัทคาดว่าสิทธิประโยชน์ใหม่ที่โดดเด่นของบัตรเครดิต กรุงศรี ช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรให้สมาชิกใช้บัตรเครดิต กรุงศรี ในฐานะบัตรเครดิตหลักที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าของเราให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดบัตรใหม่ 215,000 บัญชี เติบโต 5% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 240,000 ล้านบาท เติบโต 6% ภายในปี 2569 รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนผู้ถือบัตรกลุ่ม Gen Y และ Gen Z เป็น 60% จากปัจจุบันที่ 40%

*คงเป้าปี68ยอดใช้จ่าย2.2แสนล.**

สำหรับในปี 2568 บริษัทได้เป้าหมายยอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวม 220,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% ซึ่งยังมองว่ามีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่งมาจากการยกระดับสิทธิประโยชน์ยัตรใหม่ดังกล่าว รวมถึงเป็นช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสสุดท้ายของปี ขณะที่คุณภาพหนี้นั้น มีนอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 1.3%จากเดิมประมาณ 1%ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ทั้งนี้ ช่วง 8 เดือนแรกของปี มียอดใช้จ่ายรวม 145,000 ล้านบาท จากธุรกรรมรวมกว่า 70 ล้านรายการ และมีจำนวนบัตรรวม ณ สิ้นเดือนส.ค.68 ที่ระดับ 2.4 ล้านบัญชี

"ตัวเลขของเราทั้งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโต 2% และเอ็นพีแอลที่ 1.3%นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าอุตสาหกรรม โดยตัวเอ็นพีแอลน่าจะนิ่งแล้วหลังจากที่ปรับขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงการปรับยอดจ่ายบัตรขั้นต่ำจาก 5% เป็น 8% ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรนั้น เราหวังว่าจะได้แรงหนุนจากการยกระดับสิทธิประโยชน์ในครั้งนี้ รวมถึงช่วงไฮซีซันของการจับจ่ายในช่วงปลายปี แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคโดยรวมจะค่อนข้างมีความระมัดระวังในการใข้จ่ายอยู่จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าไรนัก"
กำลังโหลดความคิดเห็น