จีเอเบิล ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ "Amazon Web Services " มุ่งยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทยด้วย Cloud ขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มองค์กรไทยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก พร้อมเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ด้วย AWS
บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชันและการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีครบวงจรของไทย ประกาศลงนามใน Strategic Collaboration Agreement (SCA) กับ Amazon Web Services (AWS) ผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์จาก “พาร์ทเนอร์” สู่ “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ นำเสนอโซลูชันนวัตกรรม และส่งเสริมความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับองค์กรไทย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แตกต่างจากความเป็นพันธมิตรทั่วไป โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนากลยุทธ์ระยะยาว และลงทุนในทรัพยากรต่างๆ ไม่ใช่เพียงการให้บริการเทคโนโลยี แต่คือการจับมือในทุกมิติ ทั้งด้านการตลาด การพัฒนาโซลูชัน และการส่งเสริมศักยภาพของลูกค้าองค์กร
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ข้อตกลง SCA กับ AWS ในครั้งนี้เป็นมากกว่าความร่วมมือเชิงธุรกิจ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจระดับสูงสุดที่ AWS มีต่อเรา เรามีเป้าหมายร่วมกันในการผลักดันการทรานส์ฟอร์มองค์กรไทย ให้สามารถนำเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ไปใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยความเข้าใจบริบทของธุรกิจไทยอย่างแท้จริง”
ภายใต้ข้อตกลง SCA จีเอเบิลและ AWS จะร่วมกันผลักดันโซลูชันที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ :
• Cloud Migration: สนับสนุนองค์กรในการย้ายระบบจากเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรไปยัง AWS Cloud อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมลดปัญหาระบบหยุดชะงัก (Downtime) และต้นทุน
• AI & Machine Learning: นำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล พฤติกรรมลูกค้า คาดการณ์ตลาด และออกแบบบริการเฉพาะทาง
• Data Analytics: พัฒนา Data Platform ที่สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์
• Generative AI: เปิดโอกาสให้องค์กรสร้างเนื้อหา โมเดล หรือบริการใหม่ ด้วยเครื่องมืออย่าง Amazon Bedrock และ Amazon Q โดยจีเอเบิลได้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI ของตนเองชื่อ Allyx บน AWS เพื่อรองรับ Use Case หลากหลาย เช่น Chatbot, Document Summarization, Search และ AI Automation (Agentic AI) ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น สาธารณสุข การผลิต และการศึกษา พร้อมเสริมด้วย Amazon QuickSight Q เพื่อให้ Business User เข้าถึงข้อมูลและสร้าง Dashboard ได้สะดวกยิ่งขึ้น
จีเอเบิลยังมีแผนเดินหน้าพัฒนาบริการเฉพาะทางเพิ่มเติมในด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) และ ระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อเสริมศักยภาพในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงเริ่มต้นของความร่วมมือ จีเอเบิลได้ดำเนินโครงการร่วมกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการย้าย Application Workloads ขึ้นสู่ AWS ได้สำเร็จ พร้อมทั้งเริ่มพัฒนา Use Case ใหม่ ๆ ในหลากหลายมิติ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมต่อไป
Kirsten Gilbertson, Head of Partner Management, ASEAN, AWS กล่าวว่า “จีเอเบิลมีทั้งความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง ทำให้จีเอเบิลเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของ AWS ในภูมิภาคอาเซียน ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเร่งให้องค์กรไทยสามารถเข้าถึงการใช้งานคลาวด์ และต่อยอดศักยภาพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นคง”
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอเบิล กล่าวทิ้งท้ายว่า “จากมุมมองของจีเอเบิล เทคโนโลยีคลาวด์และ AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมืออีกต่อไป แต่จะกลายเป็น ‘พลังงาน’ สำคัญที่ขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ช่วยอัจฉริยะ’ และ Generative AI ก้าวขึ้นมาเป็น ‘แรงผลักดัน’ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์โลกอนาคต
และเชื่อว่า AWS ไม่ใช่เพียงผู้ให้บริการคลาวด์ แต่คือหัวใจของนวัตกรรม และเป็นรากฐานของความเชื่อมั่น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรไทยสามารถเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน