คาซัคสถานเดินเกมใหญ่ยกระดับ Astana International Financial Centre (AIFC) สู่ศูนย์กลางการเงินดิจิทัล ด้วยการเปิดโครงการชำระค่าธรรมเนียมกำกับดูแลผ่าน Stablecoin ผูกดอลลาร์สหรัฐฯ โดย Bybit กลายเป็น Exchange รายแรกที่เข้าร่วม โครงการนี้สะท้อนความต้องการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลของรัฐบาล ในการสร้างกรอบกำกับดูแลยุคใหม่ ลดข้อจำกัดการชำระเงินแบบดั้งเดิม และเปิดประตูสู่การพัฒนาตลาดการเงินดิจิทัลในเอเชียกลาง
คาซัคสถานก้าวนำ-ปลดล็อกการชำระค่าธรรมเนียมด้วย Stablecoin
สำนักงานกำกับดูแลการเงิน Astana Financial Services Authority (AFSA) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของ AIFC ได้ประกาศเปิดตัวโครงการนำร่องอย่างเป็นทางการในงาน Astana Finance Days 2025 โดยลงนามบันทึกความเข้าใจพหุภาคี (MMoU) ร่วมกับ Bybit เพื่อเปิดทางให้สมาชิก AIFC สามารถชำระค่าธรรมเนียมกำกับดูแลด้วย Stablecoin ที่ผูกค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น USDT และ USDC
เยฟเกนียา บ็อกดาโนวา ซีอีโอของ AFSA ระบุว่า นี่คือ “กรอบกำกับดูแลครั้งแรกของภูมิภาคที่เปิดรับการชำระเงินด้วย Stablecoin” พร้อมเน้นว่านโยบายนี้จะปักหมุด AIFC ให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินดิจิทัลที่สำคัญของโลก
ข้อจำกัดเดิม-จาก Fiat สู่การเงินดิจิทัล
ก่อนหน้านี้ บริษัทที่ดำเนินงานใน AIFC จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีดั้งเดิม เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารหรือการชำระด้วยสกุลเงิน Fiat อย่างดอลลาร์สหรัฐฯ และเทงเกะของคาซัคสถาน ซึ่งมักเผชิญปัญหาความล่าช้า ค่าใช้จ่ายสูง และความไม่ยืดหยุ่น โดยเฉพาะบริษัทที่ถือสินทรัพย์หลักเป็นดิจิทัล การเปิดรับ Stablecoin จึงเป็นการตอบโจทย์ตรงจุด ทั้งด้านความรวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และความโปร่งใส
Bybit ประเดิมรายแรก-สู่บทพิสูจน์ความจริงจัง
Bybit กลายเป็น Exchange รายแรกที่เข้าร่วมโครงการ โดย มาซูร์กา เซ็ง ซีอีโอของ Bybit ร่วมลงนามกับ AFSA ในงาน Astana Finance Days 2025 ทั้งนี้ AFSA ระบุว่า ผู้ให้บริการรายอื่นที่จะเข้าร่วมต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่เข้มงวด และรายชื่อทั้งหมดจะถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ทางการของ AFSA หลังลงนาม MMoU
ขณะที่ในมุมมองของ เจสซี่ นัตสัน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Bitfinex Securities ซึ่งทำธุรกิจในคาซัคสถานตั้งแต่ปี 2021 การริเริ่มนี้แสดงให้เห็นว่า Stablecoin โดยเฉพาะ USDT ได้กลายเป็น “หัวใจของการพัฒนาตลาดการเงินแบบโทเคนไนซ์” เขาย้ำว่า AFSA เคยเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการออกกรอบกำกับดูแลด้านสินทรัพย์โทเคน และครั้งนี้ยังเป็นผู้นำอีกครั้งในการยอมรับ Stablecoin เพื่อการชำระค่าธรรมเนียมกำกับดูแล
บริบทตลาดการเงินใหม่-คาซัคสถานตั้งเป้ายึดบทผู้นำคริปโตเอเชียกลาง
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่คาซัคสถานเร่งขยายอิทธิพลในตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัท Fonte Capital ได้ร่วมมือกับ BitGo ผู้ให้บริการ Custodian ที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ในการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์ตัวแรกของเอเชียกลาง ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังศึกษาความเป็นไปได้ของ “ทุนสำรองคริปโตแห่งรัฐ” ที่อาจจัดตั้งจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้จากการขุดหรือการยึดจากการบังคับใช้กฎหมาย
สงครามเศรษฐกิจดิจิทัลเชิงกลยุทธ-ภูมิรัฐศาสตร์
โครงการนำร่องของ AFSA ไม่เพียงเป็นการยกระดับกลไกกำกับดูแลเท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณถึงทิศทางเศรษฐกิจใหม่ที่คาซัคสถานต้องการเป็นผู้นำ การเปิดรับ Stablecoin ชี้ให้เห็นการยอมรับในบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในโครงสร้างทางการเงินระดับประเทศ และเสริมพลังให้ AIFC เป็นศูนย์กลางสำคัญของเอเชียกลางในระยะยาว ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้อาจผลักดันให้ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดินตามรอย และสร้างแรงกดดันต่อระบบการเงินดั้งเดิมที่ยังไม่ปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ