ราคาบิทคอยน์พุ่งแตะ All-Time High ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังถึงขาขึ้นอันร้อนแรง แต่นักวิเคราะห์ออกโรงเตือนระวังให้ดี! ไตรมาส 3 นี้คือบททดสอบสำคัญ เพราะจากสถิติย้อนหลัง 11 ปีช่วง Q3 คือช่วงเวลาที่บิทคอยน์ทำผลงานย่ำแย่ที่สุด Bitfinex แนะจับตาช่วงสัปดาห์นี้จะชี้ชะตาว่านี่คือแค่ "ยอดดอยชั่วคราว" หรือ "จุดเริ่มต้นของขาขึ้นที่แท้จริง" เตรียมรับมือความผันผวนครั้งใหญ่
ตลาดคริปโตกำลังระอุ หลังจากราคาบิทคอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 111,970 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้คนในวงการต่างเฝ้าจับตาว่าพุ่งขึ้นของราคาอย่างร้อนแรงครั้งนี้ จะสามารถคงโมเมนตัมไปจนถึงไตรมาสที่สามของปีได้หรือไม่ เพราะนี่คือบททดสอบสำคัญที่แท้จริง!
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ออกโรงเตือนในบันทึกตลาดวันที่ 28 พฤษภาคมว่า "สัปดาห์ต่อจากนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าการทะลุราคาครั้งล่าสุดของบิทคอยน์จะเป็นจุดสูงสุดในท้องถิ่นหรือเป็นจุดเริ่มต้นของการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมากขึ้นในไตรมาสที่ 3"
ปรับฐานคือเรื่องดี? Bitfinex ชี้ "รวมตัวหรือย้อนกลับเล็กน้อย" คือรากฐานที่ยั่งยืน
แม้ราคาบิทคอยน์ จะสร้างสถิติ All-Time High แต่การปรับราคาอย่างต่อเนื่องเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถยืนยันถึงแนวโน้มขาขึ้นที่จะดำเนินต่อไปในไตรมาสหน้าได้อย่างแน่นอน นักวิเคราะห์ของ Bitfinex มองว่า "ช่วงเวลาของการรวมตัวหรือการย้อนกลับเล็กน้อยไม่เพียงแต่จะดีต่อความยั่งยืนระบบเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับขาที่สูงขึ้นในครั้งต่อไปด้วย" ซึ่งหมายความว่าการพักตัวคือสัญญาณที่ดี ไม่ใช่หายนะอย่างที่หลายคนกังวล
ต้องย้อนดูอดีตที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาบิทคอยน์จะมีการปรับฐานเป็นระยะเวลานานหลังจากที่แตะระดับสูงสุดตลอดกาล เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นหลังจากบิทคอยน์ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 73,679 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2567 ราคาแกว่งตัวอยู่ในช่วงประมาณ 20,000 ดอลลาร์อยู่นาน จนกระทั่ง Donald Trump ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น
สถิติช็อกโลก! Q3 คือ "ไตรมาสแห่งหายนะ" ของบิทคอยน์
ข้อมูลจาก CoinGlass ตอกย้ำความน่ากังวล เมื่อเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ของปีถือเป็นไตรมาสที่บิทคอยน์ทำผลงานได้ "ย่ำแย่ที่สุด" นับตั้งแต่ปี 2556 โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 6.03% ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสที่ 2 ซึ่งในอดีตเคยมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่แข็งแกร่งกว่าถึง 27.25% นี่คือสถิติที่นักลงทุนไม่อาจมองข้าม!
นักวิเคราะห์เผยว่าบิทคอยน์ได้เข้าสู่ “ช่วงระยะสั้นที่มีความผันผวน” โดยผู้ถือบิทคอยน์ระยะสั้นจำนวนมาก (ผู้ที่ถือครองบิทคอยน์เป็นเวลาต่ำกว่า 155 วัน) ได้เทขายสถานะของตนออกไปอย่างหนักในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ด้วยผลกำไรของผู้ถือระยะสั้นที่ทำได้กว่า 11.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมา จึงคาดว่าจะมี "อุปทานล้นตลาด" ในระยะใกล้ แต่ก็มี "อุปสงค์เชิงโครงสร้าง" ที่แข็งแกร่งรองรับเช่นกัน ณ เวลาที่เผยแพร่ ผู้ถือระยะสั้นทำกำไรเฉลี่ยถึง 13.72% โดยมีราคาที่ผู้ถือระยะสั้นทำกำไรอยู่ที่ 95,781 ดอลลาร์ เทียบกับราคาบิทคอยน์ที่ 108,929 ดอลลาร์
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์? ETF Bitcoin และความผันผวนต่ำ คือสัญญาณของตลาดที่ "พร้อมระเบิด"
แม้จะมีปัจจัยน่ากังวล แต่ Bitfinex ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยระบุว่า "ความแข็งแกร่งของการเสนอราคา" ของ ETF Bitcoin ความผันผวนที่ต่ำ และค่าพรีเมียมของบิทคอยน์ล้วนส่งสัญญาณถึงตลาดที่เติบโตเต็มที่ "ซึ่งพร้อมสำหรับการดำเนินต่อไปในที่สุดเมื่อความชัดเจนของมหภาคดีขึ้น" นี่อาจเป็นสัญญาณของพายุลูกใหม่ที่กำลังก่อตัว!
ในช่วงสัปดาห์การซื้อขายที่สิ้นสุดในวันที่ 23 พฤษภาคม มีเงินไหลเข้าสู่ Bitcoin ETF สูงถึงประมาณ 2.75 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นักลงทุนคริปโตทั่วโลกกำลังเฝ้าจับตาการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 18 มิถุนายนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% ในเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 มีนาคมการที่บิทคอยน์พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่เมื่อต้นเดือนนี้ ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตหลายคน
ทั้งนี้ คอรี คลิปป์สเตน ซีอีโอของ Swan Bitcoin เคยคาดการณ์ว่ามีโอกาส 50% ที่บิทคอยน์จะพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ก่อนเดือนมิถุนายน เช่นเดียวกับ เจมี่ เคาท์ส หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านคริปโตของ Real Vision ที่เคยให้ความเห็นว่าบิทคอยน์อาจแตะระดับสูงสุดตลอดกาลใหม่ก่อนที่ไตรมาสที่ 2 จะสิ้นสุดลง