ตลาดคริปโตไทยร้อนระอุหลังเอกสารปริศนาแพร่สะพัด อ้างมีการโจมตีไซเบอร์ Exchange รายใหญ่ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนทันที ล่าสุด Binance TH, Bitkub และ Bitazza ออกแถลงการณ์พร้อมเพรียง ยืนยันระบบยังปลอดภัย มั่นคง และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง หวังสกัดข่าวลือและฟื้นความเชื่อมั่นผู้ใช้งานท่ามกลางตลาดที่เปราะบาง
วงการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยเผชิญความปั่นป่วน เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารไม่ทราบที่มาบนโลกออนไลน์ผ่านทางเพจ The BIG Secret อ้างถึงความเป็นไปได้ที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ในไทยอาจถูกโจมตีทางไซเบอร์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดทันที ก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุนจำนวนมาก
ล่าสุด Binance TH by Gulf Binance ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าระบบยังคงดำเนินการได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันขั้นสูง บริษัทระบุว่าได้ลงทุนต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อปกป้องทั้งทรัพย์สินดิจิทัลและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยไม่มีช่องโหว่
ไม่เพียง Binance TH เท่านั้น แต่ Exchange ไทยรายใหญ่อื่น ๆ อย่าง Bitkub และ Bitazza Thailand ก็รีบออกแถลงการณ์เชิงรุก เพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกในตลาด
โดยทาง Bitkub ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า “เรามุ่งมั่นสร้างความโปร่งใส ผู้ใช้งานทุกคนสามารถตรวจสอบ Proof of Reserve on Chain ได้ผ่าน CoinMarketCap เราขอยืนยันว่า สินทรัพย์ของลูกค้ายังคงปลอดภัยครบถ้วน ความปลอดภัยและความโปร่งใส คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุดเสมอ”
ขณะที่ทาง Bitazza Thailand โพสต์ข้อความยืนยันว่า “สินทรัพย์ของลูกค้ายังคงปลอดภัย 100% เราดำเนินงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก พร้อมทีมงานเฝ้าระวังตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกการซื้อขายและการลงทุนอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใสสูงสุด”
การเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงของ Exchange ชั้นนำของไทยในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการปฏิเสธข่าวลือเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามในการ “บริหารความเชื่อมั่น” ของตลาด ท่ามกลางความผันผวนที่ครอบงำอุตสาหกรรมคริปโตไทยอยู่ในขณะนี้
ขณะที่ฟากนักวิเคราะห์และชุมชนคริปโตไทยมองว่า ความร่วมมือในการออกมาแถลงอย่างฉับพลันของผู้เล่นรายใหญ่ทั้งสาม เป็นสัญญาณว่าตลาดคริปโตไทยยังมีความเปราะบางต่อแรงกระทบจากข่าวลือและความไม่โปร่งใสในข้อมูล ขณะที่การสื่อสารตรงไปตรงมาควรเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น หากผู้ประกอบการสามารถรักษามาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ได้จริง ก็จะเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมรากฐานของอุตสาหกรรมคริปโตไทยให้แข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว