แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนจากความไม่แน่นอน ทั้งด้านการเมือง เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่ “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงจากความต้องการแท้จริงผู้บริโภคที่มีความพร้อมทางการเงินและต้องการบ้านคุณภาพ เผยฐานสมาชิกต่างจังหวัดเติบโตต่อเนื่องจาก เดิมสัดส่วน 10% เป็น 45% ภายใน 5-6 ปี สะท้อนแนวโน้มที่แข็งแกร่งของธุรกิจนี้แม้ในท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน
นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association :HBA) กล่าวถึง สภาพการเมืองเศรษฐกิจการเมืองในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง แม้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชนบ้าง แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านมีความแตกต่างจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป
“คนที่สร้างบ้านเป็นเรียลดีมานด์ที่ต้องการมีบ้านจริงๆ มีความพร้อมด้านเงิน และพร้อมสร้างเพื่ออยู่อาศัย บางทีไม่ได้กู้แบงก์ด้วยซ้ำ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นแบบไหน ยังไงก็ต้องสร้างบ้านอยู่ดี” นายอนันต์กร กล่าว
สถิติยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ‘ทรงตัว’
ความต้องการสร้างบ้านยังไม่หายไปไหน แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยสถิติการยื่นขออนุญาตก่อสร้างทั่วประเทศ ยังคง “ทรงตัว” มูลค่าประมาณ 2 - 2.6 แสนล้านบาทต่อปี แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่มีแต่ไม่มาก
สำหรับปัจจัยในการตัดสินใจสร้างบ้านนั้น มีความแตกต่างกันตามเซกเมนต์ ได้แก่ บ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท มองด้านความคุ้มค่าเป็นหลัก, บ้าน 5-10 ล้านบาท เน้นคุณภาพก่อสร้าง, บ้าน 20 ล้านบาทขึ้นไปเน้นดีไซน์ที่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วนผลกระทบด้านความเชื่อมั่นในการสร้างบ้านเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มบ้านราคาสูง เนื่องจากไม่ใช่บ้านหลังแรก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลื่อนการตัดสินใจได้ ขณะที่บ้าน 3-10 ล้านบาท ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สมาชิกต่างจังหวัดขยายตัวก้าวกระโดด
แนวโน้มภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านที่เห็นได้ชัดคือ การขยายตัวของดีมานด์ในต่างจังหวัด ซึ่งกลายเป็นโอกาสใหม่ของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะสมาชิกของสมาคมฯ ที่มีเกือบ 80 บริษัททั่วประเทศ โดยมีสัดส่วนเพิ่มจากเดิม 10% เป็น 45% ในรอบ 5-6 ปี ส่งผลให้สามารถขยายฐานลูกค้าผ่านสมาชิกต่างจังหวัดได้มากขึ้น ขณะที่สมาชิกในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีสัดส่วนที่ 55% จาก 90%
"ต่างจังหวัดมีดีมานด์บ้าน 3-5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผู้รับเหมาแล้วราคาต่างแค่ 10-15% แต่ได้มาตรฐาน บริการ และคุณภาพที่ดีกว่า" นายอนันต์กร กล่าว
ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 10% เป็น 20% การแข่งขันเน้นดีไซน์ คุณภาพ และบริการมากกว่าราคา
7 เช็กลิสต์เลือกบริษัทรับสร้างบ้าน
สำหรับเหตุผลที่ผู้บริโภคควรเลือกบริษัทรับสร้างบ้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคุณภาพและบริการที่ครบวงจร ทำให้ลูกค้าได้รับการส่งมอบบ้านที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน
1. ความน่าเชื่อถือ - บริษัทมีที่ตั้งชัดเจนและประสบการณ์
2. ผลงานจริง - พิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา
3. รีวิวลูกค้า - เช็กอย่างน้อย 2-3 แหล่ง
4. สัญญาเป็นธรรม - ถูกต้องตามกฎหมายภายใต้ สคบ.
5. บริการครบวงจร - ตั้งแต่ออกแบบจนหลังการขาย
6. งบไม่บานปลาย - จัดการงบประมาณเป็นระบบ
7. สมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน - ผ่านการคัดกรองและมีตัวกลางไกล่เกลี่ย
ความร่วมมือสถาบันการเงิน
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม ด้วยการจับมือกับสถาบันการเงิน มอบสิทธิพิเศษด้านสินเชื่อให้กับสมาชิก ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงการสร้างบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องยื่นแบบก่อสร้างก่อน และได้รับการปล่อยสินเชื่อตามความคืบหน้างานจริง พร้อมเตรียมจัดงานใหญ่ประจำปีในวันที่ 10 – 14 กันยายน 2568 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวมบริษัทรับสร้างบ้านกว่า 40 ราย วัสดุก่อสร้างกว่า 20 แบรนด์ และธนาคารพันธมิตร ร่วมให้คำปรึกษาครบวงจร ตอกย้ำภาพธุรกิจที่ยังเดินหน้าและตอบโจทย์คนอยากมีบ้านได้ครบ จบในที่เดียว
นายอนันต์กร ยังกล่าวถึงงานอีเวนต์ประจำปี ซึ่งจัดขึ้นในไตรมาส 3 เพื่อกระตุ้นตลาดตรงกับช่วงไฮซีซั่น โดยปีนี้จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนที่เมืองทองธานี มีบริษัทรับสร้างบ้านร่วมออกบูทกว่า 40 บริษัท และวัสดุก่อสร้างอีกกว่า 20 ราย รวมถึงธนาคารที่มาให้คำปรึกษาและเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อแบบครบวงจร
“คนที่อยากมีบ้าน ถ้ามางานนี้จะสามารถเลือกบ้าน เลือกผู้รับสร้างบ้าน และได้โปรโมชั่นพิเศษครบจบในที่เดียว เราเชื่อว่ากิจกรรมแบบนี้จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดได้” นายอนันต์กร กล่าว.