จับตา ตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศมูลค่ากว่า 2.11 แสนล้านบาท กำลังเข้าสู่ภาวะปรับตัว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เผยครึ่งปีแรกไม่สวยหรู! หดตัว พีดีเฮ้าส์ ผู้นำตลาดรับสร้างบ้าน แจงผลกระทบยอดขายลดวูบ 1 ใน 4 เปรียบเทียบปีก่อน เร่งปรับโครงสร้างองค์กรพร้อมดัน "จิราภา สุวรรณสุต" ผู้บริหาร Gen Y นั่งแท่นซีอีโอ เผยวิสัยทัศน์เชื่อตลาดรับสร้างบ้านกลุ่มวัยเตรียมเกษียณ บ้านเพื่อสุขภาพ โอกาสเติบโตสูงต่อเนื่อง เล็งพัฒนาแบบบ้าน-วัสดุรองรับความต้องการผู้บริโภค
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน 2 ไตรมาสแรกปี 2568 แข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น ปัจจัยหลัก ๆ เกิดจาก 1) การรุกเข้ามาแข่งขันของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่และผู้รับเหมาโครงการจัดสรร 2) ความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว และ 3) พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยถือเป็นการปรับตัวของฟากผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจประเทศที่ซบเซาต่อเนื่อง ทั้งปัญหาตลาดอสังหาฯ ที่หดตัว ปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่สมดุลกับรายได้ ปัญหาหนี้ครัวเรือน และปัญหาสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ฯลฯ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายบ้านของบริษัท 6 เดือนแรกลดลง 24-25% หรือลดลง 1 ใน 4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
จากสถานการณ์ที่กล่าวมา หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บริษัทฯ จะต้องมีการปรับตัว เพื่อกระชับการบริหารและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการธุรกิจสมัยใหม่ บริษัทฯ จึงได้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารเจนเอ็กส์และเจนวาย (Gen X, Gen Y) ที่เกิดมาร่วมสมัยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร พร้อมทั้งมีการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้ง นาวสาวจิราภา สุวรรณสุต ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด และบริษัทในเครือ แทนผู้บริหารรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) รุ่นบุกเบิก โดยจะถอยไปเป็นทีมที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง
“สำหรับทิศทางในช่วงครึ่งปีหลัง ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านอาจต้องเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ อาจทำให้รัฐบาลเกิดสุญญากาศระยะหนึ่ง ซึ่งยิ่งเพิ่มความกดดันต่อทิศทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นนักลงทุน กอปรกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทย-กัมพูชาได้สร้างความไม่แน่นอน และผลกระทบทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคธุรกิจการค้าชายแดน และหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านงานก่อสร้างที่อาจเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน นอกจากนี้ปัญหาสงครามอิสราเอล-อิหร่าน อาจสร้างความผันผวนราคาน้ำมัน และทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนรับมือ”
ด้านผู้บริหารคนรุ่นใหม่ นางสาวจิราภา สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด และ กลุ่มบริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า แม้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยหลายด้าน แต่ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่าตลาดสร้างบ้านหรู และบ้านรองรับวัยเกษียณยังเป็นเซกเมนต์ที่น่าจับตา จึงทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายรุกเข้ามาในตลาดนี้ และคาดการณ์ว่าเซกเมนต์นี้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง
สำหรับศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด (มูลค่าตลาดสูงถึง 159,579 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 75.63% ของทั้งประเทศ 211,000 ล้านบาท) แต่จะเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และดีไซน์ใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อที่จะตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน หรือความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น บ้านสำหรับวัยเกษียณ บ้านประหยัดพลังงาน บ้านเพื่อสุขภาพ และบ้านปลอดฝุ่น PM 2.5 รวมถึงโซลูชันต่าง ๆ