xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ เผยสินเชื่อ Q1 ยังฝืด รายใหญ่ชะลอ-หนุนแก้เกณฑ์ซื้อหุ้นคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกของปี 68 นี้ คาดการณ์สินเชื่อของธนาคารจะยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วยเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ช้า หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง โดยสินเชื่อที่ยังมีสัดส่วนเติบโตจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เป็นต้นไป เนื่องจากลูกค้ามีการลงทุนไปในช่วงไตรมาส 4 ปี 67 และ ไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการชำระคืนสูง รวมถึงโครงการลงทุนจากต่างชาติยังรอดูความชัดเจนของนโยบายโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Data Center ซึ่งถือเป็นแผนระยะยาว เนื่องจากดิจิทัลวอลเล็ตเป็นมาตรการกระตุ้นระยะสั้นเท่านั้น

"ณ ระดับสินเชื่อที่ทรงตัวในไตรมาสแรกนั้น ถือว่าน่าพอใจแล้วในสภาวะที่เป็นอยู่ ซึ่งธนาคารยังคงมีความระมัดระวังในการให้สินเชื่อในลูกค้าทุกๆ กลุ่มเช่นเดิม โดยยังคงให้น้ำหนักอยู่กับกลุ่มลูกค้าเดิมที่เรารู้จักอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังเป็นปีที่ธนาคารพยายามช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เราเห็นลูกค้าเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้น ทั้งที่ในโครงการคุณสู้ เราช่วย และเข้ามาเอง ซึ่งธนาคารพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผ่านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังสู้ที่จะไปต่อให้ได้ ส่วนเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะมีการคุยกับธนาคารในเรื่องการลดความเข้มงวดในการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงระบบสถาบันการเงินนั้น ธนาคารพยายามให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้อยู่แล้ว" 
**ปันผลพิเศษหุ้นละ 2.50 ลุ้นดัน ROE ตามเป้า**
ล่าสุด คณะกรรมการธนาคารได้มีมติเห็นชอบการจ่ายเงินบันผลกรณีพิเศษ ดังนี้ จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท ทั้งนี้ ธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท และได้เสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 9 เมษายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 8.00 บาท  ซึ่งเมื่อรวมกับการเสนอขอจ่ายเงินปันผลเป็นกรณีพิเศษครั้งนี้ ในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็น 12.00 บาท โดยกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ถือหุ้นในวันที่ 6 มิถุนายน 2568

น ส.ขัตติยา กล่าวอีกว่า การจ่ายปันผลพิเศษในครั้งนี้ ธนาคารมีการพิจารณาหลังจากเดินทางไปให้ข้อมูลกับผู้ถือหุ้น-นักลงทุนในต่างประเทศช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความสนใจถึงประเด็นเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูงเกินไป เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไทยที่ไม่เติบโต ดังนั้น จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารจะเก็บเงินทุนไว้ในระดับสูงมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นไม่ได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับแผนการเติบโตของสินเชื่อ หรือเป้าหมายอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ตั้งไว้มากกว่า 2 หลักภายในปี 69 แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นทุกภาคส่วนเป็นหลัก

"การจ่ายปันผลพิเศษนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของธนาคาร นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการกำหนด Dividend payout ที่เหมาะสม จากอดีตอยู่ที่ 25% และ ในปี 2567 อยู่ที่ 37% รวมถึงจะมีการกำหนดจำนวนครั้งในการจ่ายปันผลในแต่ละปีด้วย อย่างในต่างประเทศกำหนดจ่ายปันผลทุกๆ ไตรมาส เป็นต้น"

**หนุนแก้เกณฑ์ซื้อหุ้นคืน**
สำหรับแนวคิดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในเรื่องของ 
Share Buyback (ซื้อหุ้นคืน) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการเสนอแก้ข้อกฎหมายในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อยกเลิกข้อจำกัดให้บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้นนั้น ธนาคารมองเป็นเรื่องที่ดีและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ซึ่งหากมีการแก้ไขกฎเกณฑ์ดังกล่าว จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดีขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทยก็จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน 

"เรื่องของการการซื้อหุ้นคืนของไทยเกณฑ์เดิมทำได้อย่างมากปีละ 2 ครั้ง ขณะที่ต่างประเทศ price per book ต่ำกว่า 1 เท่า Share Buyback ก็สามารถทำได้ ทำกันเป็นเรื่องปกติ จึงเชียร์เรื่องแก้เกณฑ์ซื้อหุ้นคืนของตลาดอย่างเต็มที่ ถือเป็นเรื่องที่ทำให้มันมีประสิทธิภาพ ทั้งในรื่องของการนำทุนไปออกดอกออกผล ไปลงทุนทำธุรกิจ เช่น ปล่อยสินเชื่อแล้วได้หนี้กลับมาก็จะกลายเป็นรีเทิร์น อันนั้นอันนึง แล้วก็จ่ายเป็นปันผลหรือจะมีปีนผลพิเศษก็ได้ อีกประเด็นคือ Share Buyback ที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเวลา price per book ราคาหุ้นต่ำกว่า 1 เท่า
Share Buyback จะเกิดขึ้น ซึ่งในต่างประเทศจะทำกันเป็นเรื่องปกติ แต่ของประเทศไทยมีกฎระเบียบทำได้อย่างมากปีละ 2 ครั้ง หากกฎเกณฑ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไข ธนาคารกสิกรไทยก็พร้อมพิจารณาเช่น
กัน"
กำลังโหลดความคิดเห็น