ธนาคารกสิกรไทยปิดรับสมัครลูกค้าใหม่ K PAY LATER สแกนก่อนจ่ายทีหลัง หลังเปิดตัวเมื่อปี 2565 ระบุยังไม่รู้จักลูกค้ากลุ่มนี้มากพอ กระบวนการคาดการณ์รายได้ไม่แม่นยำ แถมชะลอรับลูกค้าใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันทั้งหมด
วันนี้ (28 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปิดการรับสมัครบริการ K เปย์ให้ก่อน หรือ K PAY LATER สำหรับลูกค้าใหม่ ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเว็บไซต์ของธนาคารระบุคำว่า "K PAY LATER ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (ปิดรับสมัครลูกค้าใหม่)"
อย่างไรก็ตาม น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ชี้แจงผ่าน เว็บไซต์นิตยสารการเงินธนาคาร เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ระบุว่า ที่หยุดรับลูกค้าใหม่ เพราะพบว่าธนาคารยังไม่รู้จักลูกค้ากลุ่มนี้มากพอ กระบวนการคาดการณ์รายได้ของลูกค้ายังไม่สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำ จึงยังไม่ถนัดลูกค้ากลุ่มนี้มากพอ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันทั้งหมด ธนาคารได้เริ่มชะลอการรับลูกค้าใหม่มาตั้งแต่ปี 2565 โดยเห็นได้จากสินเชื่อที่ไม่เติบโตมากนัก เหตุผลหนึ่งคือสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่สูง ทำให้ธนาคารต้องระมัดระวังความเสี่ยงมากขึ้น โดยชะลอการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันให้ลูกค้าใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว และในปีนี้ก็จะยังชะลออยู่
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเดิมที่มีธุรกรรมกับธนาคารและเห็นพฤติกรรมมาระยะหนึ่ง ธนาคารยังคงให้สินเชื่ออยู่ต่อไป ส่วนสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้าน ก็จะให้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยจะทำงานร่วมกับโครงการที่เชื่อถือได้ และมีราคาระดับบน เน้นกลุ่มลูกค้าเงินเดือนมากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป หรือราคาบ้านเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับบริการ K เปย์ให้ก่อน หรือ K Pay Later ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 สำหรับลูกค้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย และใช้แอปพลิเคชัน K PLUS เป็นวงเงินสำรองในการซื้อสินค้าและอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีวิต โดยการสแกนจ่ายกับร้านค้าที่รองรับแล้วเลือก K PAY LATER โดยไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีวิต แบบซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later) และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ถูกกฎหมายและเป็นธรรม โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ ค้าขายรายย่อย หรืออาชีพรับจ้าง ที่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย
สำหรับการชำระคืน หากทำธุรกรรมซื้อสินค้าและบริการในช่วงวันที่ 16 เดือนที่แล้ว ถึงวันที่ 15 เดือนนี้ จะชำระคืนทุกสิ้นเดือน ส่วนวันที่ 16 เดือนนี้ ถึงวันที่ 15 เดือนถัดไป จะชำระคืนทุกสิ้นเดือนถัดไป โดยจะมีใบแจ้งยอดส่งมาที่อีเมล และหักบัญชีเงินฝากโดยอัตโนมัติทุกสิ้นเดือน หรือชำระก่อนกำหนดก็ได้ สามารถเลือกผ่อนชำระได้ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน และสูงสุด 5 เดือน