รมช.คลัง เผยเดินหน้ามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง พร้อมรับฟังความเห็นทุกมาตราการเพื่อเข้าบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเคาะเงินดิจิทัลเฟส 2 ด้านธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank: VB) คลังไม่จำกัดจำนวนใบอนุญาต หากเกณฑ์คุณสมบัติตัดสินครบ พร้อมเป็นหน่วยงานกลางส่งเสริมให้ใช้ฐานข้อมูลด้านสาธารณูปโภคและออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยสินเชื่อ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเงินดิจิทัลก็เป็นหนึ่งมาตราการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะด้านเช่น ท่องเที่ยว ที่จะใช้มาตราการเดิม คนละครึ่ง หรือไทยเที่ยวไทย คณะกรรมการชุดใหญ่พร้อมนำเข้ามาหารือพิจารณาทั้งหมด ไม่มีการปิดกั้น ส่วนการแจกเงิน 1 หมื่นบาทเฟสที่ 2 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทางรัฐนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะแจก 5,000 บาท หรือจำนวนเท่าใด การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่จะจัดประชุมเร็วๆ นี้ แต่ทุกฝ่ายติดปัญหาอุทกภัย จึงให้ความเร่งด่วนเรื่องน้ำท่วมก่อน แต่จะทำให้เร็วที่สุด ดังนั้น ตัวเลขที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้จึงไม่ใช่ผลการตัดสินใจของรัฐบาลแต่อย่างใด
“ขณะนี้ยังไม่ได้หารือ การลดจำนวนจ่ายเงินหมื่นให้เหลือ 5,000 บาทต่อราย จึงเป็นเพียงข้อเสนอแนะ ตอนนี้ยังไม่ได้หารือ ยังไม่ได้ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ตัวเลขที่พูดกันจึงยังไม่มีนัยสำคัญ”
ภาพรวมการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับแจกเงินไปล่าสุด ทำให้เห็นภาพว่า คนไม่ได้ดองเงินไว้ในบัญชี มีเท่าไหร่ก็เอาออกมาใช้ ก็เป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่มเปราะบาง มีเท่าไหร่ใช้หมด แต่สุดท้ายรัฐบาลก็จะดำเนินการสรุปผลการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ ว่ามีความเหมาะสมอย่างไร เพื่อประเมินการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบถัดไป
ส่วนประเด็นการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ทางกระทรวงคลังไม่ได้จำกัดจำนวนรายของผู้ที่จะได้รับการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank โดยมองว่าควรใช้การพิจารณาจากคุณสมบัติ มาเป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณาให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจมากกว่า ส่วนที่มีรายชื่อผู้ประกอบการ 5 ราย ที่ยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank กับธปท.นั้น นายเผ่าภูมิ มองว่า ถ้าทั้ง 5 ราย คุณสมบัติผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ก็สมควรได้รับใบอนุญาตทั้งหมด ไม่ควรไปจำกัดจำนวนราย
"กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาของแบงก์ชาติ ซึ่งในขั้นตอนของแบงก์ชาติ คาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และหลังจากนั้นจะส่งรายละเอียดให้กระทรวงคลังพิจารณาในรอบสุดท้ายต่อไป คนที่อนุญาตคือกระทรวงการคลัง โดยมีแบงก์ชาติเป็นผู้ชงเรื่องเข้ามาซึ่งจริงๆ สามารถพิจารณาได้เร็วกว่าเวลาที่แบงก์ชาติกำหนด 6 เดือนหากมีความพร้อมตามข้อกำหนดที่วางไว้"
ซึ่งเมื่อผ่านการรับอนุญาตจากกระทรวงการคลังแล้ว จะมีการส่งเสริมการใช้ข้อมูลทางเลือกเพื่อประกอบการให้สินเชื่อ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์มือถือ สาธารณูปโภคต่างๆ การใช้จ่ายในออนไลน์และอีคอมเมิร์ซเป็นข้อมูลที่กระทรวงการคลังให้ความสำคัญ ทางกระทรวงการคลังจะรับเป็นผู้ประสานให้ธนาคารไร้สาขาสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อให้นำฐานข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ตรงที่สุด