xs
xsm
sm
md
lg

หมอบุญ “หมดบุญ” ใน THG / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นบริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เงียบสงบไปพักใหญ่แล้ว แต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับเป็นข่าวที่สร้างความสนใจอีกครั้ง หลังบริษัทรายงานตลาดหลักทรัพย์ ถึงพฤติกรรมทางการเงินอันควรสงสัยของบริษัทลูก โดยการปล่อยเงินกู้ให้บริษัทที่ "ครอบครัวของหมอบุญ วนาสิน" ถือหุ้นใหญ่

น ส.ณัฐธกานต์ จิตติณพัฒน์ เลขานุการ THG แจ้งว่า บริษัทได้ตรวจพบบริษัทย่อย 2 แห่งคือ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 83.03 ของทุนจดทะเบียน และบริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 51.22 ของทุนจดทะเบียน

การทำรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อยประกอบด้วย การให้กู้ยืมเงินแก่ บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด หรือ RTD ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกลุ่มครอบครัววนาสินเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2565 ถึงปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 6 รายการ คิดเป็นยอดเงินรวมทั้งสิ้น 145 ล้านบาท

และการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ RTD เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เมื่อปี 2566 จำนวนเงินรวม 10 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัท ที เอชเฮลท์ยังสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้มีการรับมอบสินค้าจริง ในปี 2566 จำนวนเงินรวม 55 ล้านบาท

การเข้าทำรายการอันควรสงสัยทั้งหมด เป็นการดำเนินการโดยฝ่ายบริหารบางส่วนของบริษัทย่อย ซึ่งเป็นการกระทำนอกอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกันของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันมียอดหนี้คงค้างของรายการอันควรสงสัยประมาณ 105 ล้านบาท

หมอบุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานกรรมการ THG ร่อนหนังสือชี้แจงถึงสื่อมวลชนทันที โดยระบุว่า ธุรกรรมทางการเงินที่ควรสังสัยที่ THG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ เป็นเพียงเรื่องการเข้าใจผิดภายในองค์กร

เพราะไม่มีการทุจริต และเงินไม่ได้หาย แต่ยอมรับว่ามีการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศเยอรมนีจริง แต่บริษัทไม่ได้รับมอบสินค้า และมีบริษัทเข้ามารับผิดชอบค่าเสียหายแล้ว คิดเป็นจำนวนเงินเสียหาย 110 ล้านบาท โดย THG ไม่ต้องแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางตลาดหลักทรัพย์ เพราะมีการคุยกันภายในเรียบร้อยแล้ว

แต่คำชี้แจงขอหมอบุญ ถูกหักล้าง ไม่มีน้ำหนักรับฟัง หลังจาก THG ชี้แจงข้อสอบถามของตลาดหลักทรัพย์ถึงข่าวที่อดีตประธานกรรมการบริษัทแสดงความเห็นต่อถึงการเผยแพร่ธุรกรรมอันควรสงสัยของบริษัท โดยยืนยันตามข้อมูลและข้อเท็จจริงที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อนหน้า

และอดีตประธานกรรมการบริษัท หรือบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมาย การให้ความเห็นจึงไม่ใช่การดำเนินงานของบริษัท และขอให้ทุกฝ่ายติดตามข้อมูล ข่าวสาร และการประกาศต่างๆ ของบริษัทเท่านั้น

ทำไมหมอบุญ ต้องออกมาแก้ข่าวปมฉาวเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินในบริษัทลูก THG เป็นคำถามที่ชวนให้คิดว่า หมอบุญเข้าไปเกี่ยวพันกับข้อชวนสงสัยที่ฝ่ายบริหาร THG ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า จะเป็นเบาะแสในการตรวจสอบและสอบสวนการกระทำความผิดของธุรกรรมการปล่อยเงินกู้กลุ่มวนาสิน และคำสั่งซื้อสินค้าที่ชำระเงินแล้ว แต่ไม่มีสินค้าส่งมอบ

หมอบุญมีคดีค้างอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในความผิดการเผยแพร่ข้อมูลอันก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับผลดำเนินงาน หรือข้อมูลอื่นของ THG โดยให้ข่าวจะเซ็นสัญญาซื้อขายและนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด และถูก ก.ล.ต.ลงโทษปรับ 2.34 ล้านบาท

แต่หมอบุญไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ก.ล.ต.จึงส่งเรื่องให้อัยการฟ้องบังคับคดีในทางแพ่ง และผลแห่งการลงโทษ ทำให้หมอบุญต้องพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท และปัจจุบันไม่มีฐานะใดๆ ใน THG

ผลประกอบการ THG ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 49.20 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 339.41 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่เคยขึ้นไปสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ราคา 67.50 บาท โดยวันศุกร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาปิดที่ 23.25 บาท

แม้มีอายุ 86 แล้ว หมอบุญยังตื่นตัวในธุรกรรมทางธุรกิจและการเงินอยู่ แต่การออกมาแก้ข่าวปมธุรกรรมทางการเงินที่ชวนสงสัยความไม่โปร่งใส ทั้งที่ไม่มีหน้าที่ใดโดยตรงกับ THG

ทำให้หมอบุญตกเป็นบุคคลชวนสงสัยในปมร้อนของ THG








กำลังโหลดความคิดเห็น