“ปลูกผักเพราะรักแม่” เดินหน้าเข้าเทรดใน SET 4 ต.ค.นี้ หลังเคาะราคาขายหุ้นไอพีโอที่หุ้นละ 6.70 บาท และเปิดจองซื้อระหว่าง 23-25 กันยายนนี้ เผยนักลงทุนสถาบันจองล้นเกิน 11 เท่า
น ส.อาทิตยา ปัญจทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ กล่าวว่า OKJ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 ตุลาคมนี้ หลังจากกำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 6.70 บาท และเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ระหว่าง 23-25 กันยายนนี้ ซึ่งช่วงที่ทำ Book Building พบว่ามีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองหุ้นเข้ามาถึง 11 เท่า
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ กล่าวว่า การมี OR เข้ามาร่วมถือหุ้นถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีข้อมูลในการขยายสาขาและวางกลยุทธ์ธุรกิจได้ดีมากขึ้น โดย OR จะคงสัดส่วนถือหุ้นที่ 20% แม้ว่าในความเป็นจริง OR อยากจะถือหุ้นถึง 30% อย่างไรก็ดีภายหลัง IPO บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จะซื้อหุ้นสามัญเดิมจากผู้ร่วมก่อตั้งรวม 31.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.2% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้น IPO ในวันแรกที่หุ้น OKJ เข้าเทรดเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้นสัดส่วน 20%
“สำหรับการเข้ามาถือหุ้นของ OR คาดว่าจะได้เห็นความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมและตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางจำหน่ายในร้าน Cafe Amazon” นายชลากร กล่าว
สำหรับเงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้จะแบ่งสัดส่วน 75% มาใช้ในการขยายร้านอาหารแบรนด์โอ้กะจู๋, Oh! Juice และ Ohkajhu Wrap & Roll และตั้งเป้าภายในปี 2571 จะขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ ไปอยู่ที่ระดับ 67-70 สาขา หรือปีละ 6-8 สาขา สำหรับร้าน Oh! Juice ภายใน 4-5 ปี ตั้งเป้าจะขยายสาขาแตะระดับ 70 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 สาขา หรือปีละ 20-25 สาขา
นอกจากนี้ OKJ ยังมีแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศ จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ก่อน โดยช่วงที่ผ่านมามีคนสนใจติดต่อลงทุนเข้ามาค่อนข้างมาก ทั้งแบรนด์ร้านโอ้กะจู๋ และ Oh! Juice เบื้องต้นคาดยร้าน Oh! Juice น่าจะขยายได้ก่อน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา คาดสรุปได้ปี 2568
ปัจจุบัน OKJ มีทุนจดทะเบียน 304.5 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 609 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.5 บาท ซึ่งออกและเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 450 ล้านหุ้น