อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป กำไรงวดนี้แตะ 142.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.78% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 490.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% เดินหน้ารับรู้รายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์และโซลาร์รูฟท็อป ผู้บริหารเตรียมยื่นประมูลในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดของไทย ขนาด 100 เมกะวัตต์ พร้อมจะ COD วินด์ฟาร์มในเวียดนาม 160 เมกะวัตต์ภายใน Q1/2566 และจะรุกขยายโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในกลุ่ม CLMV
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2565 มีรายได้รวม 490.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.17 ล้านบาท คิดเป็น 6.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 142.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.49 ล้านบาท คิดเป็น 19.78% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนงวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,119.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.3 ล้านบาท คิดเป็น 13.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น10.65 ล้านบาท คิดเป็น 6.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการรับรู้รายได้จากการรับติดตั้ง Solar Roof ให้โรงงานเอกชน
"โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ได้สร้างเสร็จเกือบจะสมบูรณ์ทุกโครงการแล้ว โดยโครงการในจังหวัด Gia Lai รวม 100 เมกะวัตต์ เสร็จสมบูรณ์ 100% สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทันทีที่ได้รับการอนุมัติการเชื่อมต่อจากทาง EVN ส่วนโครงการในจังหวัด Huong Linh รวม 60 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าไปมากกว่า 95% ซึ่งหลังจากนั้นพร้อมที่จะทำการเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ"
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้ นอกจากนี้ การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ออกระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 หรือไฟฟ้าพลังงานสะอาดจำนวน 5.2 พันเมกะวัตต์ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และจะยื่นเข้าประมูลในโครงการนี้ประมาณ 100 เมกะวัตต์
ขณะที่ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้มีการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ในกลุ่มธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ได้ในระดับ Double Digit