สื่อญี่ปุ่นเผย คุณปู่วัยเก๋า สร้างเงินระดับร้อยล้านจากการลงทุน แม้วัยจะล่วงเลยเป็นไม้ใกล้ฝั่งก็ยังคงถือปรัชญาการเรียนรู้ไม่มีข้อจำกัด ซึ่งสะท้อนภาพพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นที่ไม่หยุดนิ่ง และพัฒนาตนเองอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวอาซาฮี รายงานถึงยอดคุณปู่นักลงทุน "ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ" อายุ 88 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวงของจังหวัดเฮียวโงะ โดยคุณปู่ชิเงรุ ยึดถืออาชีพพ่อค้า และไม่เคยหยุดพักในการทำงาน โดยชีวิตหลังเกษียณ แต่ยังเป็น "วันทำงาน" ของปู่ จะเริ่มต้นในเวลา 02.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่กำลังนอนหลับอยู่
โดยในช่วงที่คนส่วนใหญ่กำลังหลับ คุณปู่จะเริ่มต้นการลงทุนในแต่ละวันด้วยการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อผ่อนคลายร่างกาย ก่อนที่จะชงกาแฟและเปิดจอคอมพิวเตอร์ 3 จอ เพื่อดูข้อมูลการซื้อขายในตลาด ทั้งตลาดหุ้นยุโรป อเมริกา นอกจากนี้ คุณปู่ชิเงรุ ยังได้อ่านหนังสือพิมพ์และเอกสารเกี่ยวกับผลประกอบการ หรืองบการเงินของบริษัทที่ตนเองสนใจการลงทุนอีกด้วย โดยคุณปู่ชิเงรุ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ทิศทางโดยรวมของตลาดญี่ปุ่นและจำกัดขอบเขตว่าเขาจะซื้อขายหุ้นที่คาดว่าจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน
“วันนี้ตลาดจะเป็นตลาดหมี” คุณปู่ชิเงรุกล่าวหลังจากที่ดูข้อมูลภาพรวมตลาดทั้งหมด
เมื่อตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเปิดทำการในเวลา 9.00 น. ได้มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นติดต่อกัน เพื่อแจ้งว่าได้ปิดการซื้อขายหุ้นที่บริษัท Fujimoto ได้ส่งคำสั่งขายไว้เพื่อคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น
จอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นว่า แต่ละข้อตกลงมีกำไรเป็นตัวเลขหกหลักเป็นเงินเยน (สี่หลักเป็นเงินดอลลาร์)
“ฉันยุ่งที่สุดระหว่าง 9.00 ถึง 10.00 น.” คุณปู่ฟูจิโมโตะบ่นขณะที่เขาใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวพิมพ์แป้นพิมพ์เพื่อสั่งงาน ซึ่งมีหลายครั้งที่คุณปู่ชิเงรุพิมพ์ผิด และบนหน้าจอปรากฏตัวอักษรคำว่า “Error”
“คงจะแย่มากหากผมสับสนระหว่างคำสั่งซื้อกับการขาย” เขากล่าวขณะเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์และแป้นพิมพ์ “อันที่จริง ผมทำอย่างนั้นบ้างเป็นครั้งคราว”
"วอร์เรน บัฟเฟตต์" ไอดอลการลงทุนของปู่ชิเงรุ
แม้ว่าในแต่ละวัน คุณปู่ฟูจิโมโตะจะมีการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นมากมาย แต่ยังไม่ลืมที่จะจดบันทึกรายการธุรกรรมของเขาไว้ในสมุดบันทึกที่ถืออยู่
“เห็นไหมว่าหลายอย่างน้อยก็ทำให้มีปริมาณมากได้” เขากล่าว
จำนวนทรัพย์สินที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณปู่ ซึ่งได้สะสมไว้สูงถึง 2 พันล้านเยน (12.6 ล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 425,124,000 บาท ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่แตะ 2 พันล้านเยน และยังคงสร้างสถิติใหม่เพิ่มขึ้นต่อไป
ฟูจิโมโตะกล่าวว่า “ผมหวังว่าจะเพิ่มตัวเลขอีกหลักหนึ่งเข้าไปได้ เป้าหมายของผมคือ (นักลงทุนชื่อดังของสหรัฐฯ) วอร์เรน บัฟเฟตต์” คุณปู่ชิเงรุ กล่าวถึงไอดอลในดวงใจของการลงทุน
นอกจากนี้ คุณปู่ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าเขาจะมีเป้าหมายเป็นตัวเลข แต่เขาไม่มีความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างหรูหราด้วยรายได้ที่เขาได้รับ
ซึ่งอาจฟังดูแล้วสินทรัพย์ที่มี ตรงกันข้ามกับการใช้ชีวิตของคุณปู่ฟูจิโมโตะอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากคุณปู่ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือกระทั่งรถยนต์ โดยเสื้อผ้าที่ใส่ยังคงเป็นเสื้อผ้าเดิมๆ เก่าสีซีดตามสภาพ มีรอยยับบนเสื้อบ้างเล็กน้อย ไม่ได้เป็นเสื้อผ้ายี่ห้อหรูหราราคาแพง หรือเป็นสินค้าแบรนด์เนมแต่อย่างใด
ซึ่งล่าสุดที่คุณปู่ใช้เงินไป คือการซื้อหมวกใบโปรดซึ่งมีมูลค่าหลายพันเยนเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว และคุณปู่ก็ยังคงสวมหมวกใบนั้นต่อไป โดยภรรยาของเขาเป็นคนซ่อมมันตรงส่วนที่ชำรุด
ความชรา และสุขภาพที่เสื่อมโทรมลง
คุณปู่ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ มักจะออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดินเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังมีสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ คือความชรา โดยคุณปู่มักมีอาการปวดหลังส่วนก้นกบ ซึ่งกำเริบขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้คุณปู่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการเดิน แม้เพียงระยะทางสั้น เพียงเพื่อไปห้องน้ำ
แต่ความเสื่อมของสังขารที่เกิดขึ้นกับคุณปู่ยังไม่จบลงที่เเพียงแค่อาการปวดหลัง เพราะ ภาวะสมองขาดเลือดเป็นครั้งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบการใช้ชีวิตของคุณปู่มากกว่า ทำให้ไม่สามารถจดบันทึกรายการธุรกรรมในสมุดบันทึกได้รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
และยิ่งแย่กว่านั้น คือปัญหาการมองเห็นเมื่อประสาทตาเสื่อม ทำให้คุณปู่ต้องใช้แว่นขยายในการดูจอคอมพิวเตอร์ เมื่อตาของคุณปู่เมื่อยล้าเกินกว่าจะมองเห็นตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม คุณปู่ฟูจิโมโตะ ยอมรับว่าการเสื่อมถอยทางร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเป็นไปตามวัย แต่ถึงกระนั้น คุณปู่ก็ยังคงมองโลกในแง่บวก
“ผมคงทำธุรกรรมได้มากขึ้น หากเรียนรู้วิธีเขียนชวเลขเพื่อจะได้จดบันทึกได้เร็วขึ้น และสไตล์การซื้อขายของผมยังคงพัฒนาต่อไป แม้ว่าผมจะอ่อนแอลงก็ตาม ผมให้คะแนนตัวเองเพียง 75 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 100) ” คุณปู่ชิเงรุ กล่าวอย่างอารมณ์ดี
การลงทุน เส้นบางๆ คั่นกลางระหว่างการเสี่ยงโชค กับแรงบันดาลใจ
คุณปู่ฟูจิโมโตะใช้ชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาว่า “คุณควรเสี่ยง แม้จะเสี่ยงต่อความล้มเหลวก็ตาม เมื่อบางสิ่งบางอย่างทำให้คุณคิดว่า ‘นี่แหละใช่แล้ว’ ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม”
คุณปู่ฟูจิโมโตะ เล่าให้ฟังว่าเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 19 ปีหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย โดยคุณปู่เรียนรู้การลงทุนจากลูกค้าของร้านขายสัตว์เลี้ยง ที่เขาเริ่มทำงาน โดยแนะนำและให้คำปรึกษาในการเริ่มลงทุน
ต่อมาเมื่อมีเงินเพิ่มมากขึ้น คุณปู่ได้ลงทุนเปิดกิจการร้านเล่นไพ่นกกระจอก หลังจากที่เกิดแรงบันดาลใจขึ้นว่า “นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ” และต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการและความบันเทิง โดยได้ลงทุนเปิดร้านเหล้า เมื่อร้านเหล้าเจริญรุ่งเรือง โดยขยายสาขาร้านเหล้าได้ถึงสามแห่ง และสามารถทำกำไรได้ดี คุณปู่จึงขายธุรกิจให้ผู้รับช่วงต่อในราคา 65 ล้านเยน
คุณปู่ชิเงรุ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ทั้งหมด หลังจากขายกิจการออกไป โดยมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวในปี 2529 โดยสร้างผลตอบแทนการลงทุนอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเฟื่องฟูในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ทำให้สินทรัพย์ของคุณปู่ชิเงรุเพิ่มมากขึ้นถึง 1 พันล้านเยน
แม้ว่าต่อมา จะเกิดวิกฤต “ฟองสบู่” ทางเศรษฐกิจแตก ทำให้ทรัพย์สินของคุณปู่ชิเงรุ ลดลงเหลือ 200 ล้านเยน แต่การจำกัดความเสี่ยงของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ทำให้ไม่ล้มละลายจากการลงทุน
ชีวิตของคุณปู่ชิเงรุ ยังคงเจอวิบากกรรมอื่นๆเข้ามาซ้ำเติมอีก โดยได้รับผลกระทบเพิ่มเติม จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชินเมื่อปี พ.ศ.2538 ซึ่งทำให้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์ของคุณปู่พังเสียหาย โดยคุณปู่หนีจากแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งในขณะนั้นมีเพียงเสื้อผ้าที่พาดอยู่บนไหล่ และเดินเท้าเปล่าบนถนนที่เต็มไปด้วยเศษแก้ว ซึ่งภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทำให้คุณปู่เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง และห่างเหินจากการลงทุนเพราะการใช้ชีวิตในตอนนั้น เหมือนผู้อพยพไร้ที่พึ่งที่ต้องซุกตัวอยู่ในอาคารเรียนประถมศึกษา
เรียนรู้การลงทุนแบบอนไลน์ในวัยเกษียณ
จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อคุณปู่ฟูจิโมโตะ ได้รู้จักกับโลกของการซื้อขายหุ้นออนไลน์ในปี 2002
ก่อนหน้านี้ คุณปู่ใช้วิธีส่งคำสั่งซื้อและขายได้เฉพาะทางโทรศัพท์บ้านหรือการซื้อขายผ่านเคาน์เตอร์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา บริษัทได้แจ้งกับคุณปู่ว่า บริษัทนายหน้าซื้อขายหุ้นแห่งหนึ่งซึ่งคุณปู่ชิเงรุคุ้นเคยมานาน กำลังเริ่มให้บริการซื้อขายออนไลน์
ซึ่งคุณปู่ฟูจิโมโตะ ในขณะนั้นอายุ 66 ปี และไม่เคยจับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ แต่ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และไม่หวั่นไหวกับรูปแบบการลงทุนที่เปลี่ยนไป
“วิธีนี้จะสะดวกมาก และค่าคอมมิชชันก็ต่ำมาก ซึ่งผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลองวิธีนี้ดู” คุณปู่กล่าว
หลังจากที่รูปแบบการลงทุนเปลี่ยนไป คุณปู่ฟูจิโมโตะ ไม่รีรอที่จะไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และค่อยๆ เรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งนำเขาไปสู่การลงทุนในยุคปัจจุบันนี้
“การระมัดระวังและคิดกับตัวเองว่า ‘โอ้ ดูดีจังเลย’ เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เพราะอะไรนะเหรอ ศูนย์คูณศูนย์ก็เท่ากับศูนย์ โลกของคุณช่างเล็กเหลือเกิน มีสิ่งต่างๆ มากมายที่คุณไม่รู้ อายุไม่สำคัญเมื่อคุณเริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ๆ” คุณปู่ชิเงรุ กล่าวอย่างกระตือรือร้น
แน่นอนว่าวิธีการของคุณปู่ในตอนนั้น ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดและล้มเหลวในที่สุดหลังสูญเสียเงินลงทุนครั้งใหญ่ในการซื้อขายหุ้น
คุณปู่ฟูจิโมโตะเล่าว่า โดยยกสำนวนภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “ผมสะดุดไม่ใช่แค่เจ็ดครั้ง แต่ประมาณ 50 ครั้ง” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “สะดุดเจ็ดครั้ง แต่สามารถฟื้นตัวได้แปดครั้ง.....แต่ผมมักจะสาปแช่งตัวเองอยู่เสมอ โดยเชื่อว่าผมไม่ควรตำหนิผู้อื่น การครุ่นคิดมากเกินไปนั้นไม่ดี เพราะการทำเช่นนี้จะทำเหมือนการตอกย้ำความผิดพลาด และทำให้เสียโอกาสที่จะลงทุนครั้งต่อไป”
มาถึงจุดนี้ คุณปู่ฟูจิโมโตะ ยืนยันว่า "การซื้อขายหุ้นไม่เหมาะสำหรับผู้ที่หวังจะหาเงินง่ายๆ"
“เมื่อคุณซื้อหุ้นแล้ว หุ้นเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเพื่อนของคุณ ดังนั้นคุณต้องคอยดูแลหุ้นเหล่านั้นเหมือนดูแลเพื่อนคุณตลอดเวลา คุณต้องค้นหาหุ้นเหล่านั้นทุกวัน ศึกษาหุ้นเหล่านั้น และเป็นพี่น้องกับหุ้นเหล่านั้น” คุณปู่กล่าว
แต่ก็ใช่ว่าความจริงจะสามารถทำได้ เพราะคำพูดมันง่าย แต่ทำจริงมันยาก
ความมุ่งมั่นของคุณปู่ มีมากกว่าอาการเจ็บป่วยและความชราจะเข้ามาบั่นทอนได้ แม้ว่าต้องทนเจ็บปวดจากกระดูกสันหลังส่วนล่าง แต่คุณปู่ฟูจิโมโตะ ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน เพื่ออ่านและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อใดก็ตามที่มีข่าวสำคัญ เขาจะคาดการณ์ปฏิกิริยาของนักลงทุนรายอื่นต่อปัจจัยดังกล่าว และพยายามคาดเดาปฏิกิริยาเหล่านั้น
จากประสบการณ์และความคิดของเขาถูกสะสมขึ้นทุกวัน แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่คุณปู่ชิเงรุคาดการณ์จะถูกต้องเสมอไป ความผิดพลาดยังเกิดขึ้นอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่คุณปู่ฟูจิโมโตะยังคงยิ้มรับสิ่งที่เกิดขึ้น และกล่าวว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น นั่นแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากและเสน่ห์ของการซื้อขายรายวัน"
นักข่าวของ อาซาฮี ชิมบุน ที่ยังคงรู้สึกประทับใจกับความกระตือรือร้นของคุณปู่ฟูจิโมโตะ ตลอดการให้สัมภาษณ์เพื่อเผยแพร่บทความนี้ ซึ่งนักข่าวได้ถามคำถาม 2-3 คำถามในตอนท้ายของการสัมภาษณ์
ข้อความบางส่วนจากการแลกเปลี่ยนได้แก่
นักข่าว : เงินหมายถึงอะไรสำหรับคุณ?
ฟูจิโมโตะ : เงินไม่ใช่สิ่งน่ารำคาญ แต่ผมไม่ได้ต้องการมันมากนัก อย่างไรก็ตาม เงินทำให้คุณต้องใส่ใจกับมันอย่างจริงจัง
กว่าจะเลือกลงทุนได้ ผมไม่เชื่อคำพูดของนักวิเคราะห์ที่บอกว่า “หุ้นของรุ่นนี้จะขึ้น” ทางทีวีและในหนังสือพิมพ์ เพราะพวกเขาเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนที่พูดแบบนั้น โดยไม่ได้ใช้เงินของตัวเอง
ผมต้องรวบรวมความกล้า แม้กระทั่งตอนนี้ เมื่อผมควักเงินของตัวเองออกมาใช้ เมื่อผมแพ้เกม ผมจะพูดกับตัวเองว่า “ช่างหัวมันเถอะ” และตั้งใจเรียนอย่างหนักด้วยความสำนึกผิด
มันสนุกมากเมื่อเศรษฐกิจและราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปตามที่คาดไว้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงหยุดทำแบบนี้ไม่ได้
นักข่าว : คุณกำลังคิดเรื่องการเกษียณหรือไม่?
ฟูจิโมโตะ : ผมจะเกษียณจากการลงทุนก็ต่อเมื่อผมตาย
ตอนนี้ผมให้คะแนนชีวิตตัวเองอยู่ที่ 75 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 100) ผมพยายามสงบสติอารมณ์และฝึกฝนทักษะการซื้อขายทุกวัน ผมจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาจิตวิญญาณ เทคนิค และสมรรถภาพทางกายให้สมบูรณ์แบบต่อไป และชีวิตของผมอาจดีขึ้นถึง 90 หรือ 100 คะแนน ซึ่งนั่นคงเป็นเวลาที่ผมกำลังจะจากโลกนี้ไป (หัวเราะ)
"โอ้ ดวงวิญญาณที่ทุกข์ระทม จงมองดูฉัน ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นสิ่งใดๆ การเดินทางไกลนับพันไมล์เริ่มต้นด้วยไมล์เดียว คุณควรใช้ชีวิตโดยไม่ต้องครุ่นคิด!"
ทั้งนี้ คุณปู่ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ เกิดเมื่อปี ค.ศ.1936 เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องสี่คนของครอบครัวเกษตรกรในจังหวัดเฮียวโงะ โดยเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 19 ปี โดยเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาแนวโน้มราคาหุ้นในอดีตเพื่อคาดการณ์ความเคลื่อนไหวในอนาคต จนมีความเชี่ยวชาญในการอ่านภาพบริษัทและทิศทางการลงทุน ขณะที่งานอดิเรกของคุณปู่คือการปีนเขา และมีงานอดิเรกคือการได้พูดคุย และเล่นกับนกแก้วตัวโปรดที่คุณปู่เลี้ยงไว้
นอกจากนี้ คุณปู่ฟูจิโมโตะ ยังได้ตีพิมพ์หนังสือภาษาญี่ปุ่นเรื่อง “คำสอนของชิเงรุซัง เทรดเดอร์วัย 87 ปี” จากบริษัท Diamond Inc. ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2566