TikTok Shop ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าโครงการ TikTok for OTOP เฟส 2 จัดงานการประชุมเชิงปฏิบัติการติดอาวุธกลยุทธ์ออนไลน์ ผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่น เพิ่มยอดขายด้วยคอนเทนต์เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและเศรษฐกิจใหม่ๆ ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง TikTok Shop ตั้งเป้าอัพสกิลครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ กลาง ใต้ อีสาน และเหนือ โดยครั้งนี้ปักหมุดไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อพัฒนาต้นแบบผู้ประกอบการ OTOP ยุค Shoppertainment รุ่นใหม่เพิ่ม 9 รุ่นให้ครบ 1,000 รายตามเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้
นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกันกับทาง TikTok ในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ OTOP มาตั้งแต่ปี 2565 และได้มีการจัดโครงการส่งเสริมและเพิ่มทักษะการทำคอนเทนต์ให้แก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากในยุคปัจจุบันการซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชนรับผิดชอบในเรื่องของการประสานงานกับผู้ประกอบการ OTOP เพื่อเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการจะเน้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีความพร้อมสำหรับการซื้อขายออนไลน์
แพลตฟอร์ม TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถดูวิดีโอคอนเทนต์แล้วตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดายและทันท่วงที เนื่องจากวิดีโอคอนเทนต์ที่ร้านค้าผู้ขายนำเสนอมออกมาจะสามารถดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการซื้อได้เป็นอย่างดี เช่น การทำคอนเทนต์วิดีโอที่เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายและอาหาร ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม TikTok จะเข้าถึงได้เป็นอย่างดีเนื่องจากได้เห็นการนำเสนอสินค้าที่เป็นสินค้าจริงจากร้านค้า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลุ่มอาหารก็มีการทำวิดีโอโชว์รับประทานให้ผู้ใช้งานได้ดู ทำให้เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ สินค้า OTOP มีกว่า 220,000 ผลิตภัณฑ์และสินค้าที่สามารถเข้าเข้าร่วมโครงการได้มีอยู่ประมาณ 15,000-16,000 ผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ภาพรวมของยอดจำหน่ายสินค้า OTOP ใน 1 ปี กรมการพัฒนาชุมชนเปิดเผยว่าสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 370,000 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมยอดการซื้อขายในออนไลน์ที่เริ่มต้นในช่วงโควิด-19 สร้างมูลค่าได้หลักพันล้านบาท ปัจจุบันสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 40,000 ล้านบาท
ด้าน นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy - Thailand, TikTok กล่าวว่า การจัดเวิร์กช็อปจะจัดขึ้นทั้งหมด 9 รุ่น โดย 3 รุ่นแรกถูกจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยนครศรีธรรมราช ขอนแก่น เชียงใหม่และกลับไปที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง ซึ่งในปี 2565 เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการและได้มีการประกาศความร่วมมือที่ประเทศอินโดนีเซียว่ามีการลงทุนกว่า 400 ล้านบาทเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งเป้าการเป็นผู้พัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเข้าถึงระบบการซื้อขายสินค้าและบริการออนไลน์ใน TikTok เป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายเปิดโอกาสทางการตลาด เนื่องจาก TikTok มีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นที่นอกจากจะเป็นอีคอมเมิร์ซแล้วยังเป็นคอนเทนต์และวิดีโอแพลตฟอร์ม ซึ่งมีความสำคัญและเหมาะสำหรับการซื้อขายสินค้า OTOP ได้เป็นอย่างดี
ในเฟส 2 TikTok Shop และ กรมการพัฒนาชุมชนจะร่วมกันจัดเวิร์กช้อปทั่วประเทศ รวม 9 ครั้งได้แก่
- รุ่น 1 ที่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนายน 2567
- รุ่น 2 ที่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 24-25 มิถุนายน 2567
- รุ่น 3 ที่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน 2567
- รุ่น 4 ที่ ภาคใต้ จังหวัด นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2567
- รุ่น 5 ที่ ภาคอีสาน จังหวัด ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2567
- รุ่น 6 ที่ ภาคเหนือ จังหวัด เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายสินค้าออนไลน์แล้วยังสามารถเป็นส่วนที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและเหล่าครีเอเตอร์อีกด้วย ซึ่งผู้ประกอบการ OTOP บางรายอาจจะไม่เก่งเรื่องการขายเพราะเน้นเรื่องการผลิตเป็นหลัก ทำให้ครีเอเตอร์ของ TikTok เป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้และได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้านั้นๆ รวมถึงทางโครงการได้มีการจัดสอนการยิงแอด (Ads) โฆษณาให้ด้วย ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่ครบวงจร
นอกจากนี้ในประเทศไทยทาง TikTok จะเน้นนโยบาย Smart Economy และ Smart People โดยจะเน้นในเรื่องของการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับอาวุธติดตัวไปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ประโยชน์สูงสุดของโครงการคือการเพิ่มช่องทางในการซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคเข้าถึงกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถจับจ่ายซื้อขายได้ทั่วประเทศไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดใด โดยที่โครงการดังกล่าวจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ OTOP เข้าถึงการทำคอนเทนต์และช่องทางการขายสินค้า เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและสร้างคอนเทนต์มาเพื่อดึงดูดและกระตุ้นความสนใจในการตัดสินใจซื้อสินค้าของกลุ่มผู้บริโภค
ทั้งนี้ TikTok Shop จะมีการจัดแข่งขันการนำเสนอสินค้าในรูปแบบวิดีโอคอนเทนต์ให้น่าสนใจหลังจากนั้นจะมีการนำครีเอเตอร์เข้ามาโปรโมตช่วยและทำการไลฟ์สตรีมขายของ โดยที่ผู้ชนะการแข่งขันนำเสนอสินค้า 1-50 ราย จะถูกนำเข้ามาร่วมไลฟ์กับครีเอเตอร์พร้อมติดตะกร้าขายสินค้า นอกจากนี้เกณฑ์การตัดสินผู้ชนะการแข่งขันทางโครงการเปิดเผยว่าจะมีกรรมการเข้ามาตัดสิน ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ OTOP ที่เข้าร่วมแข่งขันจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้า เครื่องแต่งกาย อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้และของตกแต่ง โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย 100%
เป้าหมายสูงสุดในเฟส 2 ของ TikTok Shop คือ การสร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซที่มีความหลากหลาย และช่วยให้ผู้ประกอบการ OTOP มีความมั่นคงทางรายได้ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ในเฟส 2 นี้ TikTok Shop ตั้งเป้านำประสบการณ์ Shoppertainment มาส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP ให้ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์และค้าขายมีรายได้มากขึ้น จากเฟสแรกที่อบรมไปแล้ว 532 ราย โดยมั่นใจว่าแคมเปญ #ช้อปได้ทุกถิ่น จะเป็นปัจจัยกระตุ้นการรับรู้โครงการ TikTok for OTOP ที่สำคัญแก่ผู้ประกอบการและสร้างการรับรู้แก่ผู้ซื้อหลายล้านรายที่ใช้ TikTok Shop เป็นประจำ ให้เข้าถึงและสนับสนุนสินค้า OTOP ไทย ได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ร้านค้า OTOP หลายรายที่เข้าร่วมโครงการยังได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ผ่านโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop ที่ช่วยส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะฟรีค่าธรรมเนียม การใช้ฟีเจอร์สร้างสรรค์คอนเทนต์หรือไลฟ์ขายของได้แบบเต็มที่ และยังมีคูปองส่วนลดพิเศษแจกให้กับลูกค้า รวมถึงการโปรโมตสินค้า OTOP ผ่านแคมเปญฯ บนแอปพลิเคชั่น เพื่อให้นักช้อปค้นหาและเข้าถึงสินค้า OTOP ได้ง่ายยิ่งขึ้น
TikTok มุ่งมั่นเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับผู้คน ธุรกิจ และคอมมูนิตี้ให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันและพร้อมเดินหน้าส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการ OTOP ของไทย ที่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญทางเศรษฐกิจและชุมชนของประเทศ ซึ่ง TikTok พร้อมเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างแบรนด์และขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จในวันนี้และอนาคต สำหรับความสำเร็จในการร่วมมือทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้มีพันธะสัญญาไว้ทั้งหมด 3 ปี และคาดว่าในปีถัดไปก็อาจจะเกิดความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องและมีการประเมินผลโครงการ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปทางโครงการมีความต้องการร่วมมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ของแต่ละจังหวัดเข้ามาร่วมพัฒนาและโปรโมตผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการในโครงการ
นอกจากนี้ในเฟสแรกในปีที่แล้วที่มีผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วม 532 รายสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 8.5 ล้านบาทภายใน 3 เดือน ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 1,000 รายและคาดว่ายอดมูลค่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ OTOP ยอดนิยมใน TikTok Shop จากแคมเปญ #ช้อปได้ทุกถิ่น ได้แก่ 1.อาหารและเครื่องดื่ม มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 63% 2.ผ้าและเครื่องแต่งกาย มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 27% และ 3.ของใช้ ของตกแต่งและของที่ระลึก มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 23%
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
