ตลาดหุ้นกลับเข้าสู่ยุคกระทิงเต็มตัว โดยการจัดพลุไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ปัจจัยพื้นฐานดี จนราคาพุ่งทะยานกันยกแผง รวมทั้งหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 10 ปี
ADVANC เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ของประเทศ และเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยราคาหุ้นแกว่งตัวปรับขึ้นมาต่อเนื่อง และร้อนแรงสุดขีดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนปิดที่ 267 บาท เพิ่มขึ้น 19 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 4,677.79 ล้านบาท
และวันศุกร์ส่งท้ายสัปดาห์ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาปิดที่ 269 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,996.6 ล้านบาท
GULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการควบรวมกิจการ อยู่ระหว่างยื่นจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นหรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ADVANC จำนวน 36% เศษของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 216.30 บาท
การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น ADVANC คงไม่มีความหมาย เพราะคงไม่มีนักลงทุนรายใดขายหุ้นให้ GULF และ INTUCH เพราะราคาหุ้นบนกระดานสูงกว่าราคาเทนเดอร์กว่า 25% แล้ว
แรงซื้อที่ไหลบ่าเข้ามาในหุ้น ADVANC รอบนี้ น่าจะเกิดจากนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งยกทัพใหญ่กลับตลาดหุ้นไทยเพื่อไล่เก็บกวาดหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเป็นการซื้อเก็บดักหน้ากองทุนวายุภักดิ์ที่จะเริ่มขายหน่วยลงทุน วงเงินประมาณ1.5 แสนล้านบาทในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
หุ้นขนาดใหญ่ปัจจัยพื้นฐานดียกโขยงวิ่งกันหมด จนกระดานหุ้นเขียวขจี รวมทั้ง ADVANC ซึ่งปกติจะแกว่งตัวขึ้นในกรอบแคบๆ
แต่เนื่องจากต่างชาติต้องการชิงจังหวะเก็บหุ้น จึงไล่ราคาจนดีดตัวขึ้นอย่างโดดเด่น
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เพิ่งออกบทวิเคราะห์ แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มมือถือ โดยเฉพาะ ADVANC เนื่องจากคาดการณ์ผลประกอบการเติบโต และได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่การแข่งขันในธุรกิจมือถือลดลง รวมทั้งจะไม่มีการลงทุนที่ใช้เงินจำนวนมาก หลังจากซื้อธุรกิจทริปเปิ้ลบี บรอดแบรนด์มาแล้ว
ค่าพี/อี เรโชอยู่ที่ประมาณ 24 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.22% ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2565 มีกำไรสุทธิ 26,011.28 ล้านบาท ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 29,086.11 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 17,028.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13,937.15 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ADVANC มีจำนวน 42,377 ราย ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักลงทุนระยะยาว โดยมีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศถือหุ้นอยู่จำนวนมาก
ADVANC เป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่หลายสิบบริษัทที่อยู่ในเป้าหมายการลงทุนของกองทุนวายุภักดิ์ ซึ่งจะเริ่มลงทุนหรือซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 ตุลาคมนี้ นักเก็งกำไรระยะสั้นจึงชิงจังหวะซื้อหุ้นเก็บตุน ดักทำกำไรหลังจากกองทุนวายุภักดิ์
ส่วนกองทุนทั้งในและต่างประเทศก็ไม่มีเวลาในการตัดสินใจมากนัก เพราะถ้ารอช้าเกินไปอาจต้องซื้อหุ้น ADVANC ในราคาต้นทุนที่สูงขึ้น จึงเข้ามาลุยเก็บหุ้นในช่วงนี้
แต่ราคาที่ขยับขึ้นมาแรงจนทะลุจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี อาจทำให้เพดานขาขึ้นในระยะสั้นแคบลง และนักเก็งกำไรที่ไม่ได้ขึ้นรถเมล์เที่ยวแรกอาจสายไปสำหรับการเข้ามาเก็งกำไร
เพราะราคา ADVANC ที่ระดับ 69 บาท เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวมากกว่า
