หุ้นไทยร้อนแรงปิด +23.36 จุด โบรกฯ ชี้วอลุ่มเทรดทะลุแสนล้าน รับการเตรียมเปิดตัวกองทุนวายุภักษ์ เม็ดเงินกระฉูดไหลเข้าซื้อกลุ่มแบงก์ โยกจากหุ้นเทคฯ มาดักเก็บหุ้น Value Stock ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,460 จุด และแนวรับที่ 1,410 จุด แนะจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งจะชี้ชะตาการลงทุนในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ก.ย.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +23.36 จุด หรือ +1.66% โดยปิดตลาดที่ 1,427.64 จุด มูลค่าซื้อขายราว 107,404.75 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นร้อนแรงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,431.24 จุด ในทิศทางขาลงที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,412.76 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 355 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 135 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 183 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +10,756.62 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +714.53 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -11,200.74 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -270.41 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BBL มูลค่าการซื้อขาย 6,380.44 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 5,975.51 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,297.32 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,984.10 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 4,975.39 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 249.00บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท หรือ 4.18%
2.BBL ปิดที่ 150.50บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 5.61%
3.BH ปิดที่ 272.00บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 3.03%
4.SCB(XD) ปิดที่ 113.50บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 5.58%
5.KBANK ปิดที่ 152.50บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 4.10%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 5.61%
2.HANA ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.80%
3.AEONTS ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.09%
4.CPFปิดที่ 24.5 0บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 2.00%
5.KCE ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.32%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,971.34 จุด เพิ่มขึ้น 35.92 จุด หรือ 1.86% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 905.34 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด หรือ 1.87% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 344.66 จุด เพิ่มขึ้น 7.29 จุด หรือ 2.16%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้แรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงบ่ายเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์เต็มๆ ทั้ง BBL KBANK KTB SCB หลังจากที่ราคาลงไปมากแล้วจากปัญหาหนี้ NPL จนเทรดต่ำกว่า Book Value
อย่างไรก็ตาม มองหุ้น KBANK KTB ยังมี upside เพราะเทรดที่ 0.68 เท่า มีโอกาสขึ้นไป 0.8 เท่าได้ ขณะที่ SCB, TTB เทรด 0.8 เท่าแล้วขึ้นจากก่อนหน้า 0.6 เท่า
สำหรับ Fund Flow วันนี้ไหลเข้ามาในภูมิภาค ทั้งตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงไทย โดยมาจากการขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็น Growth Stock โยกเข้ามาเล่นกลุ่ม Value Stock ที่ส่วนใหญ่อยู่ในไทยและอินโดนีเซีย
"เราปรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ขึ้นมาที่ 1,560 จุด P/E 16 เท่า จากเป้าเดิม 1,430 จุด หลังจากจะมีเม็ดเงินใหม่ของกองทุนวายุภักษ์จ่อเข้ามาลงทุนราว 1-1.5 แสนล้านบาท และ Fund Flow ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย"
แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.และอัตราว่างงานของสหรัฐฯ ในคืนนี้ หากตัวเลขว่างงานเท่าเดิมที่ 4.3% อาจมีโอกาสได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในเดือน ก.ย. มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวต้านที่ 1,460 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,410 จุด" นายศราวุธ กล่าว