หุ้นไทยปิดตลาด +12.09 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีฯฟื้นตัวรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ บอนด์ยีลด์ ปรับตัวลดลง อีกทั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง สะท้อนภาพการฟื้นตัวของตลาด มองแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้ายังอยู่ในเทรนฟื้นตัว ประเมินกรอบดัชนีแนวต้านที่ 1,420-1,430 จุด และแนวรับ 1,360 จุด แนะจับตาการประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้า-ออกจากดัชนี SET50 และ SET100
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 ธ.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +12.09 จุด หรือ +0.88% โดยปิดตลาดที่ 1,391.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,137.63 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,398.65 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,382.13 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 328 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 173 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 146 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,193.43 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +889.26 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า-3,363.58 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -719.11 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,327.45 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,301.30 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,854.28 ล้านบาท ปิดที่ 61.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,267.74 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,214.01 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.44%
2.SCC ปิดที่295.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.03%
3.EA ปิดที่45.50บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.60%
4.KBANK ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.56%
5.BH ปิดที่218.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.93%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTAปิดที่ 83.25 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.92%
2.THG ปิดที่55.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.62%
3.TCAP ปิดที่48.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.03%
4.KCE ปิดที่54.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.35%
5.BTG ปิดที่22.90 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 2.97%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,910.38 จุด เพิ่มขึ้น 18.38 จุด หรือ 0.97% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 863.64 จุด เพิ่มขึ้น 8.83 จุด หรือ 1.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 395.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด หรือ 0.69%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(บอนด์ยีลด์) ปรับลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับเงินดอลลารอ่อนค่า หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนปรับลดดอกเบี้ยในปี 67 เข้าสู่ขาลง อีกทั้งได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีสัญญาณของการฟื้นตัวรวมถึงธนาคารกลางของจีนมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามา 8 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องรายเดือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีภาพของการฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากร่วงลงไปค่อนขางมากแล้ว โดยกลุ่มที่มีแรงซื้อกลับเข้ามามาก อาทิ AOT รวมทั้งกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า และปิโตรเคมี ซึ่งได้อานิสงส์จากบอนด์ยีลด์ปรับลง-ดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
"แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว โดยติดตามการประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้า-ออกจากดัชนี SET50 และ SET100 แต่เข้าสู่ช่วงใกล้วันหยุดคริสต์มาส ทำให้ภาพของการซื้อขายโดยรวมน่าจะเบาบางลงโดยมองกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,420-1,430 จุด และแนวรับที่ 1,360 จุด" นายกรภัทร กล่าวทิ้งท้าย