หากคุณเคยคิดว่า Facebook กำลังดักฟังบทสนทนาของคุณเพื่อโฆษณาแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย คุณอาจจะคิดถูกก็ได้
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่อุตสาหกรรมโฆษณาพยายามปรับปรุงวิธีการกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้ใช้ โดยมักจะใช้การขุดข้อมูลเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยล่าสุด พบว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอาจช่วยได้เพราะคอยตรวจสอบการสนทนาในชีวิตประจำวันของคุณ
ล่าสุด สไลด์เด็คจาก Cox Media Group และ 404 Media ได้พูดถึงบริการที่บริษัทเสนอให้ซึ่งสามารถติดตามผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเอกสารที่รั่วไหลออกมานั้นเรียกว่า "การตั้งใจฟังอย่างกระตือรือร้น" โดยระบุว่าบริษัทสามารถใช้ไมโครโฟนของอุปกรณ์ที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น เพื่อฟังคำพูดของผู้ใช้ เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้อยู่ในระยะที่ได้ยิน
แนวคิดคือซอฟต์แวร์เฉพาะทาง จะรวบรวมข้อมูลเสียงจากสภาพแวดล้อมเพื่อกำหนดว่าจะมีการพูดคุยหรือกล่าวถึงสิ่งใด จากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะจับคู่กับข้อมูลพฤติกรรมที่มีอยู่ซึ่งจัดเก็บอยู่ในโปรไฟล์ของผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์ ประมวลผู้ข้อมูลเชิงลึก ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต การงาน อาชีพ ช่วงอายุ สิ่งที่ผู้กด LIKE & SHARE หรือแม้กระทั้งโลเคชั่นที่เคยเช็คอินในการโพสต์สเตตัส เพื่อแสดงโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้นได้
โดย Pitch Deck เรียกสิ่งนี้ว่า "การรวบรวมข้อมูลอย่างตั้งใจแบบเรียลไทม์โดยการฟัง" ซึ่งในบทสนทนาจะมีการใช้ Ai มาวิเคราะห์ร่วมกับแหล่งข้อมูลอื่นๆที่เชื่อมโยงแบบโครงข่ายในทุกระดับกว่า 470 แห่ง ซึ่งมีบริษัทต่างๆ ยอมเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 100 ดอลลาร์ต่อวัน ในการรวบรวมชุดข้อมูลรายสัปดาห์สำหรับผู้ใช้ในรัศมี 10 ไมล์โดยใช้ฟีเจอร์นี้
รายงานฉบับก่อนหน้านี้ของ appleinsider ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ "การตั้งใจฟังอย่างกระตือรือร้น" ซึ่งส่งผลให้บริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ซึ่งรวมถึง CMG ที่ลบหลักฐานของโปรแกรมดังกล่าวออกจากเว็บไซต์
และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในโพสต์จากเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่พูดถึงว่าโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่างๆ สามารถฟังเสียงของผู้ใช้ได้อย่างไร โดยยังกล่าวถึง "เมื่อมีการดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปใหม่ ผู้บริโภคจะต้องกรอกข้อตกลงเงื่อนไขการใช้งานหลายหน้า โดยในข้อความย่อย มักจะระบุว่า Active Listening รวมอยู่ในนั้นด้วย"
CMG ยังอวดอีกว่าได้ร่วมมือกับ Amazon, Facebook และ Google ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลและเป็นลูกค้าของบริการอีกด้วย
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนถึงรูปแบบการทำงานดังกล่าว และมีการรายงานไปยัง Google ซึ่งต่อมา Google ได้ทำการลบ CMG ออกจาก "โปรแกรม Parters" ซึ่งทำให้ Meta ต้องตรวจสอบการดำเนินการของ CMG เพื่อพิจารณาว่ามีการละเมิดเงื่อนไขในการให้บริการใดๆ หรือไม่
ขณะที่ทาง Amazon ยืนกรานกับรายงานว่าธุรกิจโฆษณาของตนไม่ได้ทำงานร่วมกับ CMG ในโครงการดังกล่าว และก็ไม่ได้มีแผนจะทำเช่นนั้นด้วย
Apple ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ปัญหา
แม้ว่าโอกาสที่อุปกรณ์พกพาจะถูกดักฟัง อาจเป็นฝันร้ายเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Apple
นอกเหนือจาก จุดยืนปกติของ Apple ในการรับรองว่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้รับการรักษาไว้ทุกที่ที่เป็นไปได้แล้ว Apple ยังมีระบบต่างๆ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวเกิดขึ้นอีกด้วย
เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้งานไมโครโฟน อุปกรณ์ของ Apple จะแสดงตัวบ่งชี้เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงจุดสีส้มบน หน้าจอ iPhone เมื่อมีการใช้งานไมโครโฟน หรือตัวบ่งชี้สีเขียวสำหรับกล้อง
แม้ว่าฮาร์ดแวร์ของ Apple จะปลอดภัยดี แต่แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์อื่นๆ อาจยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ดังกล่าวอยู่ ด้วยอุปกรณ์ Android หลายพันล้านเครื่องทั่วโลก บทสนทนาของผู้ใช้จึงอาจยังถูกผู้โฆษณาแอบดูอยู่
