ธนาคารกรุงไทยออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อย และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มุ่งบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยลดภาระทางการเงิน ครอบคลุมการลดดอกเบี้ย และลดค่างวดชำระหนี้ พร้อมเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพและซ่อมแซมทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ประธานผู้บริหาร Retail Banking ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยได้ออกมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ครอบคลุมการลดภาระทางการเงิน ทั้งปรับลดค่างวดการผ่อนชำระ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการให้วงเงินฉุกเฉินเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพ รวมถึงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายได้แก่
มาตรการแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน
1.สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล (Term Loan) สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SSME (Term Loan) ปรับลดค่างวดการชำระหนี้ลง 50% นาน 6 เดือน และ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% ต่อปี นาน 6 เดือน
2.สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME ให้ความช่วยเหลือครอบคลุม ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ชำระเฉพาะดอกเบี้ย หรือพักชำระเงินต้น และ/หรือ พักชำระดอกเบี้ยบางส่วน ขยายระยะเวลาสัญญา/ปรับตารางผ่อนชำระหนี้ เป็นต้น โดยเงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งธนาคารจะพิจารณาให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เพื่อลดภาระทางการเงิน และสะท้อนภาวะเศรษฐกิจและรายได้ของลูกค้าที่น่าจะฟื้นตัวในอนาคต
มาตรการสินเชื่อเพื่อซ่อมบ้าน/ฟื้นฟูกิจการ สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ขอวงเงินเพิ่มเติม หรือลูกค้าใหม่
1.สินเชื่อบ้าน Top up หรือสินเชื่อบ้านแลกเงิน รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน เดือนที่ 4-12 อัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย 6.4% ต่อปี และปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MLR +0.5%ต่อปี หรือทางเลือก รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรก ปีถัดไปอัตราดอกเบี้ย MLR+0.5% ต่อปี ฟรีค่าประเมินราคาและค่าจดจำนอง
2.สินเชื่อบุคคล (Term Loan) และสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SSME (Term Loan, OD, PN) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% ต่อปี เป็นเวลา 12 เดือน
ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีความประสงค์เข้าร่วมมาตรการความช่วยเหลือของธนาคาร สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา สำนักงานธุรกิจทั่วประเทศ หรือสาขาที่มีบัญชีเงินกู้ของท่าน เพื่อแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการฯ ตั้งแต่ 27 สิงหาคม 2567-31 มีนาคม 2568
"ธนาคารกรุงไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลันในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคเหนือ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพของลูกค้า ประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งผู้บริหารและพนักงานได้ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมรับฟังปัญหาของลูกค้า เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด"