กระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ มอบ ธ.ก.ส. นำทัพสถาบันการเงินของรัฐลงพื้นที่ภาคอีสาน เร่งคลายปัญหาภาระหนี้ ให้คำปรึกษาทางการเงินผ่านมาตรการดูแลแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนแบบครบวงจร ควบคู่กับการเติมความรู้ เติมทุนในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ส่งมอบแคมเปญโปรโมชันพิเศษกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินมากมาย ในงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น (KICE) ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายนนี้
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน กระทรวงการคลัง จึงร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) ผนึกกำลังจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ ทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภัยธรรมชาติ และปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอย ให้สามารถกลับมามีกำลังในการประกอบอาชีพ มีรายได้และศักยภาพในการชำระหนี้ โดยกำหนดแนวทางช่วยเหลือลูกค้าในทุกมิติผ่านการให้ความรู้ทางการเงิน การวางแผนและการสร้างวินัยทางการเงิน การช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ ของแต่ละสถาบันการเงิน รวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินโดยตรง อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจะสัญจรไปใน 5 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี และสงขลา ซึ่งในครั้งที่ 1 จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ณ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมมหกรรมกว่า 15,000 ราย
สำหรับงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ธ.ก.ส. ได้รับมอบหมายในการเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น (KICE) โดย ธ.ก.ส. พร้อมด้วยสถาบันการเงินของรัฐ (SFIs) ทุกแห่ง ธนาคารกรุงไทย รวมถึงส่วนงานต่างๆ หลายภาคส่วนจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระการผ่อนชำระ การลดอัตราดอกเบี้ย การขยายเวลาการชำระหนี้ ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ การตัดเงินต้นเพิ่มเติม โดยครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อประเภทต่างๆ เช่น นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจ สินเชื่อภาคการเกษตร ลูกหนี้บัตรเครดิต ควบคู่กับการให้คำปรึกษาทางการเงิน การเติมองค์ความรู้ในการฟื้นฟูอาชีพเดิม การสร้างอาชีพเสริม อาชีพใหม่ และการเติมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยพิเศษและเงื่อนไขที่ผ่อนปรน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอแก้ไขหนี้ออนไลน์ผ่าน https://www.bot.or.th/DebtFair/ หรือเข้าร่วมปรึกษาภายในงานได้ตลอดทั้ง 3 วัน
กิจกรรมครั้งนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งยังพร้อมใจขนแคมเปญและโปรโมชันมากมายทั้งทางด้านสินเชื่อและเงินฝาก เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าและผู้ประกอบการสามารถสานฝันธุรกิจไปสู่เป้าหมาย ควบคู่ไปกับการสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการออมและการประกันภัย เช่น สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน โดยไม่ต้องมีหลักประกัน สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำจาก ธ.ก.ส มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.9 ต่อปี นาน 6 เดือนจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อผู้ส่งออกป้ายแดงจาก EXIM Bank สินเชื่อ Krungthai SME Money จากธนาคารกรุงไทย สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงินจากธนาคารออมสิน สลากดิจิทัลจากธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. รวมไปถึงการ เลือกซื้อบ้านมือสอง (NPA) คุณภาพดี กู้ได้เต็มวงเงิน การจัดกิจกรรมเสวนาพบกับผู้ประกอบการและเกษตรกร ที่ผ่านการแก้ไขปัญหาหนี้สินและกลับมาสร้างความสำเร็จในธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยพิธีกรชื่อดังจากรายการไอเดียเกษตร คุณนิลาวัณย์ พาณิชย์รุ่งเรือง เรียนรู้เทคนิคการบริหารเงิน การจัดการหนี้ และส่งเสริมการออม โดยกูรูทางการเงินชื่อดัง พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกและรับของที่ระลึกมากมาย
ขอเชิญชวนลูกหนี้ที่ประสงค์รับความช่วยเหลือและประชาชนทั่วไปที่สนใจร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น (KICE)