xs
xsm
sm
md
lg

แรงซื้อหุ้นใหญ่หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง +20.38 จุด หวังการเมืองคลี่คลายปลุกความเชื่อมั่นการลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดพุ่งแรง +20.38 จุด นักวิเคราะห์เผย แรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play นำโดยกลุ่มแบงก์ และ CPALL หนุนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้น หลังจากช่วงเช้าสภาพัฒน์รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/67 ขยายตัว 2.3% ดีกว่าคาด เป็นปัจจัยหนุน sentiment อีกทั้งสถานการณ์การเมืองคลี่คลายเมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มองภาพกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,330 จุด ส่วนแนวรับ 1,310 จุด แนะจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ อาจส่งผลให้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 19 ส.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +20.38 จุด หรือ +1.56% โดยปิดตลาดที่ 1,323.38 จุด มูลค่าซื้อขาย 62,385.85 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นและอยู่ในแดนบวกตลอดวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,323.38 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,302.97 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 416 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 130 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 112 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -10,486.55 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -118.43 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +7,679.24 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,925.74 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,788.67 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,708.47 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,853.48 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,573.64 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
5.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,509.00 ล้านบาท ปิดที่ 4.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.68 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น8.00บาท หรือ7.27%
2.KBANK ปิดที่ 138.50 บาท เพิ่มขึ้น5.00บาท หรือ3.75%
3.BBL ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น3.50บาท หรือ2.68%
4.SCB ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น3.00บาท หรือ2.90%
5.SCC ปิดที่ 208.00 บาท เพิ่มขึ้น3.00บาท หรือ1.46%
 
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAPPE ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 14.50บาท หรือ15.93%
2.SISB ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ3.13%
3.DELTA ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ0.96%
4.PTTEP ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ0.35%
5.ITC (XD) ปิดที่ 21.90 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ2.23%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,820.23 จุด เพิ่มขึ้น 27.18 จุด หรือ 1.52% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 837.25 จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด หรือ 1.44% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 321.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.25 จุด หรือ 1.66%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play นำโดยกลุ่มแบงก์ และ CPALL หนุนดัชนี หลังจากช่วงเช้าสภาพัฒน์รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/67 ขยายตัว 2.3% ดีกว่าคาด เป็นปัจจัยหนุน sentiment

ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีแรงซื้อจากต่างชาติเข้ามาช่วยหนุนด้วย ประกอบกับ นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายความตึงเครียดเมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์รอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ็คสัน โฮล กลางสัปดาห์นี้ โดยตลาดคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเฟดเดือน ก.ย.นี้ และยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 21 ส.ค.นี้ด้วย ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ มองแนวต้าน 1,330 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,310 จุด" นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น