xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพุ่งแรง +10.51 จุด รับข่าว Digital Wallet คืบหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดพุ่งแรง +10.51 จุด นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีพุ่งรับข่าวความคืบหน้ามาตรการ Digital Wallet ซึ่งวันที่ 24 ก.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะแถลงรายละเอียดความชัดเจน โดยเฉพาะวันเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวรับที่ 1,300 จุดและแนวต้าน 1,330 จุด แนะติดตามประเด็นต่างๆ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดี 40 ส.ว.ยื่นถอดถอนนายกฯ ที่จะเลื่อนออกไป และการแถลงของประธานเฟด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ก.ค.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.51 จุด หรือ +0.80% โดยปิดตลาดที่ 1,322.50 จุด มูลค่าซื้อขาย 31,377.74 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวพุ่งขึ้นร้อนแรงในช่วงท้ายตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,322.50 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,311.05 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 311 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 166 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 178 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +383.68 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +853.39 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -670.38 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -566.69 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,640.01 ล้านบาท ปิดที่ 13.20 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,372.65 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,259.73 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,089.91 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 853.77 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 232.00บาท เพิ่มขี้น 5.00บาท หรือ 2.20%
2.ADVANC ปิดที่ 213.00บาท เพิ่มขี้น 3.00บาท หรือ 1.43%
3.EGCO ปิดที่ 105.50บาท เพิ่มขี้น 2.50บาท หรือ 2.43%
4.CPALL ปิดที่ 56.50บาท เพิ่มขี้น 1.00บาท หรือ 1.80%
5.CPN ปิดที่ 57.00บาท เพิ่มขี้น 1.00บาท หรือ 1.79%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 124.50บาท ลดลง 5.50บาท หรือ 4.23%
2.SISBปิดที่ 33.50บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 8.22%
3.SAPPEปิดที่ 100.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.96%
4.EAปิดที่ 13.20 บาท ลดลง0.50 บาท หรือ 3.65%
5.MINT ปิดที่ 29.75บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.65%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,800.61 จุด เพิ่มขึ้น 12.28 จุด หรือ 0.69% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 819.63 จุด เพิ่มขึ้น 5.59 จุด หรือ 0.69% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 354.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.54 จุด หรือ 0.72%

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู่ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว โดยมีกลุ่มนำตลาด ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม มีแรงซื้อเข้ามาก่อนที่หุ้น บมจ.เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี (CHAO) จะเข้าเทรดวันแรกพรุ่งนี้ และ Domestic Play จากความคืบหน้ามาตรการ Digital Wallet ซึ่งวันที่ 24 ก.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะแถลงรายละเอียดความชัดเจน โดยเฉพาะวันเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายวันนี้ยังค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดรอติดตามประเด็นต่างๆ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดี 40 ส.ว.ยื่นถอดถอนนายกฯ จะเลื่อนการวินิจฉัยออกไปหรือไม่ รวมทั้งในวันที่ 9-10 ก.ค. โดยนักลงทุนควรติดตามการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมุมมองแบบ Dovish เป็นครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งตลาดยังคาดหวังเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ และกลางสัปดาห์จีนจะแถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะฟื้นตัว และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัว โดยประเมินกรอบแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ ต่อไป โดยมองแนวรับที่ 1,300 จุด และ แนวต้านที่ 1,330 จุด" นายสรพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น