นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และ น ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก.123 ระหว่างกรมศุลกากร กับกรมสรรพากร พ.ศ.2567 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากร สรรพากร ระบุส่งอีเมลสอบถามและแนวทางจัดเก็บภาษีจากไทย ยอมรับแพลตฟอร์ม TEMU ยังไม่เข้าข่ายการเสียภาษี ย้ำติดตามแพลตฟอร์มการซื้อขายทุกแพลตฟอร์มอย่างใกล้ชิตและเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล เรื่อง การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ที่กำหนดให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ลดการใช้เงินสดและเช็ค โดยกรมศุลกากรได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีการรับชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม รายได้อื่น หรือเงินประกันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เฉลี่ยร้อยละ 80 จากยอดรวมของการรับชำระเงินทุกประเภท และตามประกาศกรมศุลกากรที่ 69/2566 ลงวันที่ 11 เมษายน 2566 กำหนดให้ผู้ประกอบการที่ชำระค่าภาษีอากรโดยวิธีตัดบัญชี เงินฝากธนาคารของผู้ประกอบการ หรือ Direct Debit และการชำระค่าภาษีอากรผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารหรือตัวแทนรับชำระ หรือ Bill Payment สามารถพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก.123 จากระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กรมศุลกากร ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีการพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก.123 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนเฉลี่ย 3 ล้านฉบับต่อปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม สะดวก รวดเร็ว กรมศุลกากรจึงได้ร่วมมือกับกรมสรรพากรพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก.123 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กรมสรรพากรนำข้อมูลไปใช้ในการตรวจสอบภาษี และไม่ต้องเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้ประกอบการอันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากรได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมศุลกากรที่ได้วางแนวทางไว้ ซึ่งกรมศุลกากรพร้อมส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร
ได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567
น ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก.123 ระหว่างกรมสรรพากร และกรมศุลกากร ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์สำหรับในการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก.123 เป็นข้อมูลที่จำเป็น และเป็นข้อมูลสนับสนุนสำหรับการปฏิบัติงานตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำใบเสร็จรับเงิน กศก.123 ที่กรมศุลกากรออกให้จากระบบอิเล็กทรอนิกส์มา ถือเป็นใบกำกับภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้ประกอบการที่จะต้องนำส่งเอกสารใบเสร็จรับเงิน กศก.123 เว้นแต่ไม่ปรากฏข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก.123 บนระบบงาน หรือมีเหตุที่ต้องพิสูจน์ความถูกต้องของใบเสร็จรับเงิน กศก.123 ทั้งนี้ กรมสรรพากรคาดว่าจะเปิดใช้ระบบงานประมาณเดือนตุลาคม 2567
สำหรับประเด็นแพลตฟอร์ม TEMU ที่มีการซื้อขายสินค้านั้น กรมสรรพากรได้ส่งอีเมลสอบถามและแนวทางจัดเก็บภาษีจากไทยให้ TEMU แล้ว โดยขณะนี้แพลตฟอร์ม TEMU ยังไม่เข้าข่ายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้า เพราะการจัดเก็บภาษีจะเกิดขึ้นได้ เมื่อพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยของไทยเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มของ TEMU และนำสินค้าที่จำหน่ายส่งเข้ามายังไทย แต่ขณะนี้เป็นการซื้อสินค้าของคนไทยกับเอกชนจีนโดยตรง จึงยังไม่เข้าข่ายในการจัดเก็บภาษีบริการแพลตฟอร์ม และหากจะมีสินค้าจากไทยไปซื้อขายใน TEMU สรรพากรจะเรียกเก็บภาษี VAT ได้ อย่างไรก็ตาม สรรพากรได้ติดตามการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆอย่างใกล้ชิดซึ่งมีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง