นายกิตติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ยังเดินหน้าสะสางปัญหาต่างๆ ในตลาดหุ้น โดยมาตรการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่จะผลักดันให้มีผลบังคับใช้ภายในปีนี้คือ
การกำหนดให้ผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนต้องรายงานข้อมูลการนำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอวงเงินสินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้น หรือมาร์จิ้น เช่นเดียวกับการได้มาหรือจำหน่ายหุ้น ซึ่งต้องรายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายใน 3 วัน
ใครไม่รายงานถือเป็นความผิด จะต้องถูกลงโทษ
การหยิบยกประเด็นการที่ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนนำหุ้นไปจำนำต้องรายงานข้อมูลให้ ก.ล.ต. เพื่อเผยแพร่สู่นักลงทุนทั่วไป เพราะก่อนหน้านั้น มีหุ้นนับสิบบริษัทถูกบังคับขาย หรือ FORCE SELL จนราคาทรุดหนัก ตกติดฟลอร์ 30% ต่อเนื่องหลายวัน สร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมาก
และหุ้นที่ถูกโบรกเกอร์บังคับขายส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่นำไปตึ๊ง หรือนำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันมาร์จิ้น
เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงมา และโบรกเกอร์เรียกหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม เมื่อไม่สามารถหาหลักทรัพย์วางเป็นหลักประกันเพิ่มได้ โบรกเกอร์จะบังคับขายหุ้นตามสัญญาข้อตกลงที่ทำกันไว้
แรงขายจาก FORCE SELL เป็นการซ้ำเติมให้ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาอยู่แล้วทรุดฮวบลงติดพื้น โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องรับเคราะห์จากผลกระทบจากการ FORCE SELL
ทั้ง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีกฎเกณฑ์ห้ามผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนเล่นหุ้นหรือซื้อขายหุ้น แต่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เคร่งครัดในหลักธรรมาภิบาลไม่ควรเล่นหุ้น ไม่ควรหากินกับส่วนต่างราคาหุ้น โดยอาศัยความได้เปรียบในฐานะที่ล่วงรู้ข้อมูลภายใน
แต่ควรทุ่มเทการทำงานเพื่อสร้างผลประกอบการที่ดี สร้างกำไรสูงสุดเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ไม่ต้องเสียสมาธิการบริหารงานหรือวอกแวกกับการขึ้นลงของราคาหุ้น
ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนที่ยังตัดกิเลสไม่ได้ ลงมาเล่นหุ้นแข่งกับนักลงทุนทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่ดี และนักลงทุนต้องระวังบริษัทจดทะเบียนที่เจ้าของลงมาเล่นหุ้นตัวเอง เพราะนอกจากมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันแล้ว ยังต้องระวังพฤติกรรมของผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนแห่งนั้นด้วย
การออกกฎรายงานข้อมูลการนำหุ้นไปวางค้ำประกันมาร์จิ้น จึงเป็นสิ่งที่ดี และถือเป็นอีกมาตรการเร่งด่วน เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่า บริษัทจดทะเบียนใดบ้างที่ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่เปิดบัญชีเล่นหุ้น ก่อนพิจารณาตัดสินใจว่าควรจะเข้าไปลงทุนในบริษัทจดทะเบียนแห่งนั้นหรือไม่
เพราะมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่หลีกเลี่ยง หุ้นที่มีเจ้ามือ หรือหุ้นที่ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่เล่นหุ้น เนื่องจากกลัวการเสียเปรียบ
และไม่เชื่อว่าบริษัทที่มีผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่เปิดบัญชีซื้อขาย หากินกับส่วนต่างราคาหุ้น การบริหารงานจะเป็นไปอย่างโปร่งใส
ปีนี้มีหุ้นนับสิบตัวถูกบังคับขายจนราคาทรุดหนัก และแทบไม่ได้ผุดได้เกิด ทำให้นัก
ลงทุนรายย่อยเสียหายในวงกว้าง
กว่าจะรู้เบื้องหลังราคาหุ้นที่ดิ่งลงเหว กว่าจะรู้ว่าผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นตัวการที่ถูกบังคับขายหุ้นก็สายไปเสียแล้ว ราคาหุ้นถูกฝังอยู่ก้นหลุมเรียบร้อย
การผลักดันกฎกติกาใหม่ ตีกรอบให้ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ที่นำหุ้นไปจำนำเพื่อขอวงเงินมาร์จิ้นเล่นหุ้น จะช่วยให้นักลงทุนมีข้อมูลแยกแยะได้ว่าหุ้นตัวไหนควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ควรร่วมสังฆกรรมด้วย
บริษัทจดทะเบียนที่มีผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่โดดลงมาเล่นหุ้นด้วยใครล่ะอยากจะเข้าไปเล่นด้วย ขืนเข้าไปเล่นมีหวังถูกเจ้ามือหรือเจ้าของกินหมดตัว