สถานการณ์หุ้นใหม่ครึ่งปีหลังอยู่ในภาวะเงียบเหงา มีเพียงหุ้น 2 บริษัทที่เข้าซื้อขาย เพราะส่วนใหญ่ตัดสินใจเลื่อนการเสนอขายและนำเข้าจดทะเบียนออกไป เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงกับตลาดหุ้นที่ซบเซา และทำให้ราคาหุ้นต่ำกว่าจองได้
หุ้นใหม่ตัวแรกที่ประเดิมซื้อขายครึ่งปีหลังคือ หุ้นบริษัท เจ้าสัว ฟูดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO โดยซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาจอง 11.80 บาท และแม้จะยืนเหนือจองได้มาตลอด แต่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ต่ำกว่าจองเรียบร้อย โดยปิดที่ 11.50 บาท
หุ้นน้องใหม่ตัวล่าสุดที่เข้าซื้อขายคือ หุ้นบริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ คือผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก
FM นำหุ้นจำนวน 376 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 5.40 บาทจากพาร์ 2 บาท โดยมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ กองทุนในประเทศ กองทุนประกันสังคม นักลงทุนรายใหญ่หลายคนร่วมจองซื้อหุ้น รวมทั้งนักลงทุนรายย่อยจำนวนหนึ่ง
หุ้น FM เข้าซื้อขายวันแรก 25 กรกฎาคม ปรากฏว่า ไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จองซื้อมีโอกาสรอดจากการขาดทุนแม้แต่รายเดียว เพราะเปิดซื้อขายที่ 4.60 บาท ต่ำกว่าราคาจองในทันที โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายขึ้นไปสูงสุดที่ 4.90 บาท ต่ำสุดที่ 4 บาท และกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 4.16 บาท ต่ำกว่าจอง 1.24 บาท หรือต่ำกว่าจอง 22.69% มูลค่าซื้อขาย 1,420.49 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนรายใหญ่ระดับเสี่ยและเซียนหลายคน นักลงทุนรายย่อยที่คันไม้คันมือกับหุ้นใหม่ อยากลองของ มือพองตามๆ กัน ขาดทุนโดยถ้วนหน้าเฉลี่ยคนละ 22%
ในปีนี้มีหุ้นใหม่เข้ามาซื้อขายรวมแล้ว 19 บริษัท แยกเป็นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 8 บริษัท และเข้าซื้อขายในตลาด MAI 11 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่าจอง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะตลาดหุ้นตกต่ำ
แต่สาเหตุหลักคือ การกำหนดราคาเสนอขายที่สูงเกินไป ไม่เปิดช่องว่างให้นักลงทุนได้ทำกำไร
ภาวะตลาดที่ไม่เอื้อ ทำให้บริษัทจดทะเบียนใหม่เลือกที่จะเลื่อนแผนการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนออกไป เพราะไม่อยากเจอปัญหาหุ้นขายไม่ออก หรือหุ้นเข้าซื้อขายแล้วราคาต่ำกว่าจอง โดยมีหุ้นที่ประวิงเวลาการเข้าตลาดหลายสิบบริษัท
ส่วนบริษัทที่จำเป็นต้องเร่งระดมทุน ไม่ยอมเลื่อนแผนเข้าตลาด ตัดสินใจนำหุ้นเข้าซื้อขาย แต่ไม่ยอมปรับราคาเสนอขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเดินหน้าขายหุ้นราคาแพงอยู่
เมื่อเข้าซื้อขายจึงเน่า ราคาต่ำจอง โดย FM เป็นน้องใหม่ต่ำจองรายล่าสุด เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครทุบหุ้นจนลงต่ำจองกว่า 22%
หุ้นน้องใหม่ในช่วงหลัง โดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กๆที่เข้าตลาด MAI จะมีชื่อนักลงทุนขาใหญ่ได้รับโควตาจองหุ้นกันจำนวนหลายคน
เพราะนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขยาดกับการบาดเจ็บจากหุ้นใหม่ และไม่สนใจจองซื้อกันมากนัก ขณะที่กองทุนรวมในประเทศมักปฏิเสธการจองซื้อ เว้นแต่เป็นหุ้นขนาดใหญ่
หุ้นใหม่ขนาดเล็กจึงมีปัญหาการกระจายหุ้น และต้องดึงนักลงทุนขาใหญ่เข้ามาช่วยจองซื้อ รวมทั้ง FM แต่เมื่อเข้าตลาดหุ้นก็ไม่รอด ต่ำกว่าจองเยอะมาก นักลงทุนรายย่อยที่หลวมตัวจองซื้อบ่นกันอุตลุด
หุ้นน้องใหม่อีกนับสิบๆ บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้น ถ้ายังทรุด ยังซบเซา ครึ่งปีหลังอาจมีหุ้นใหม่เข้ามาซื้อขายไม่กี่บริษัท
ถ้าตลาดหุ้นฟื้น บรรยากาศการลงทุนคึกคัก จะมีหุ้นใหม่เข้ามาซื้อขายอีกหลายสิบบริษัท
แต่จะจองซื้อหุ้นใหม่ต้องเลือกเฟ้นให้ดี ต้องมั่นใจว่าไม่ตั้งราคาขายโหดเกินไป โดยไม่เผื่อให้คนจองซื้อทำกำไร จนจองแล้วเจ๊งเช่นเดียวกับหุ้นน้องใหม่ตัวล่าสุด FM
คนจองหุ้น FM เจ๊งคนละ 1.24 บาทต่อหุ้น โดยหุ้นที่นำมาเสนอขายมีจำนวน 376 ล้านหุ้น
รวมแล้วนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นถูก FM ปล้นเงินไป 466.24 ล้านบาท เจ็บตัวและเจ็บใจไปตามๆ กัน
