กลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือสามารถปล้นเงินคริปโตฯ ทั่วโลกไปได้ถึง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ตลอดปี 2022
รายงานของ Chainalysis ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน ระบุว่า มูลค่าเงินคริปโตฯ ที่แฮกเกอร์โสมแดงปล้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 4 เท่าตัวของสถิติ 429 ล้านดอลลาร์ที่พวกเขาปล้นได้ในปี 2021
มูลค่าการปล้นของเกาหลีเหนือยังคิดเป็นสัดส่วน 44% ของเงินคริปโตฯ ทั้งหมด 3,800 ล้านดอลลาร์ที่ถูกปล้นในปี 2022 ซึ่ง Chainalysis ถึงขั้นยกให้เป็น “ปีแห่งการปล้นคริปโตฯ ครั้งมโหฬาร”
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การถูกนานาชาติคว่ำบาตรอย่างหนักทำให้เกาหลีเหนือต้องหันมาใช้วิธีปล้นทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
“มูลค่าการส่งออกของเกาหลีเหนืออยู่ที่ 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 ดังนั้น หากจะพูดว่าการปล้นเงินคริปโตฯ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจเกาหลีเหนือก็คงไม่เกินความจริง” Chainalysis ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (1 ก.พ.)
บริษัทแห่งนี้เผยว่า แฮกเกอร์โสมแดงมักจะใช้วิธีดูดเอาเงินดิจิทัลจากผู้ใช้รายต่างๆ เข้าไปยังแพลตฟอร์ม ‘mixers’ เพื่อทำการฟอกเงินและปกปิดแหล่งที่มา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญรายอื่นๆ ชี้ว่าแก๊งฟอกเงินเกาหลีเหนือยังนำเงินคริปโตฯ ที่ปล้นได้ไปฟอกผ่าน “โบรกเกอร์” ในจีน หรือไม่ก็พวกเหรียญ NFTs ต่างๆ
เมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ออกมาแถลงยืนยันว่า กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการปล้นเงินคริปโตฯ ราว 100 ล้านดอลลาร์ไปจากเครือข่ายบล็อกเชน Horizon Bridge ในปีที่ผ่านมา
ที่มา : BBC