วิกฤตบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA หนักหน่วงจริงๆ ไม่เพียงราคาหุ้นที่ทรุดฮวบดิ่งลงเหวลึกเท่านั้น ปัญหาหนี้ก้อนโตยังไล่จี้หลังมาติดๆ จนประเมินไม่ได้ว่า บริษัทโรงไฟฟ้าขนาดกลางแห่งนี้จะไปรอดหรือไม่
ราคาหุ้น EA ปรับตัวลงต่อเนื่องหลายปี จากราคาที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 105.05 บาท ปรับตัวลงตลอด จนประมาณกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นทรุดฮวบลงผิดปกติ
และเริ่มมีข่าวในเชิงลบเข้ากระทบ รวมทั้งผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ซึ่งผลกำไรหดตัวลงอย่างหนัก
แรงขายไหลทะลักเข้าหุ้น EA และมีข่าวลือต่างๆ ตามมา จนนายสมโภชน์ อาหุนัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทต้องออกมาแถลงข่าวถี่ยิบ แต่ไม่อาจแก้สถานการณ์หุ้นที่กำลังทรุดลงได้
ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงนำไปสู่ชนวนการบังคับขายหุ้น หรือ FORCE SELL โดยหุ้นที่ถูก FORCE SELL กลายเป็นหุ้นที่นายสมโภชน์ นำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อเสียเอง
เมื่อหุ้นที่นายสมโภชน์ นำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จำนวนประมาณ 3% ถูกบังคับขายหมดแล้ว
ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนกันว่า หุ้น EA คงจะตั้งหลักได้เสียที เพราะมรสุมทุกลูกผ่านไปแล้ว และราคาหุ้นลงมาเยอะมากแล้ว
แต่ข่าวร้ายชิ้นใหญ่ที่สร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนทั้งตลาดหุ้นก็กระหน่ำซ้ำเข้ามาอีก และส่งผลกระทบต่อหุ้น EA รุนแรงที่สุดนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกล่าวโทษนายสมโภชน์ และพวกรวม 3 คน ในความผิดร่วมกันทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศและจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์ เพื่อใช่ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ โดยได้รับประโยชน์ร่วมกันรวม 3,465.64 ล้านบาท เหตุเกิดระหว่างปี 2556-2558
หุ้น EA ทรุดลงทันที โดยติดฟลอร์ 30% สองวันซ้อน และยังลงต่ออีกในวันที่สาม ก่อนปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 25 สตางค์ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่ราคาหุ้นที่ตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าราคาหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือราคาจองที่ 5.50 บาทเมื่อ 11 ปีก่อนเท่านั้น แต่แนวโน้มการดำเนินงานของ EA ยังน่าเป็นห่วง
เพราะมีหนี้จำนวน 31,166 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินและตั๋วแลกเงินจำนวน 8,354 ล้านบาท หนี้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ต้องชำระภายใน 1 ปี 5,659 ล้านบาท และหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระใน 1 ปีอีก 5,429 ล้านบาท
ถ้าไม่มีข่าวนายสมโภชน์ ทุจริต การระดมเงินเพื่อชำระหนี้ระยะสั้นคงไม่มีปัญหา แต่เมื่อนายสมโภชน์ เจอข้อหาร้ายแรง จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัท และความเชื่อถือของนักลงทุน รวมทั้งสถาบันการเงิน
หุ้นกู้ EA ที่เตรียมเสนอขายวงเงิน 5.5 พันล้านบาทในเดือนนี้ ต้องพับไปโดยปริยาย และไม่รู้ว่าจะหาแหล่งเงินจากไหนมาชำระคืนหนี้ระยะสั้นที่ไล่หลังมา
สถานการณ์ EA ตกอยู่ในภาวะมืดมน ทั้งหุ้นและฐานะการดำเนินงาน
ใครจะคิดว่า EA จะมีวันนี้ นักลงทุนจำนวนกว่า 4.26 หมื่นราย ที่ถือหุ้น EA ไว้ คงไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่า บริษัทโรงไฟฟ้าระดับใหญ่ และขยายการลงทุนไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่รถไฟฟ้า โดยหุ้นอยู่ในความนิยมของนักลงทุน ถึงวันหนึ่งสามารถล่มสลายภายในพริบตาเหมือนกัน
การลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จึงแทบวางใจหรือมั่นใจบริษัทจดทะเบียนใดไม่ได้เลย
เพราะบริษัทจดทะเบียนที่คิดว่าเลือกเฟ้นมาดีแล้ว ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบแล้ว และมีภาพลักษณ์ทั้งสังคมที่ดี เป็นหุ้นยอดนิยม แต่อาจแปลงโฉมเป็นหุ้นที่แสนร้าย สร้างความเสียหายย่อยยับให้นักลงทุนได้ เช่นหุ้น EA
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหุ้น หรือมาร์เกตแคป EA ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด หรือช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 105.50 บาท มีจำนวนสูงถึง 393,515 ล้านบาท
แต่ล่าสุดลดวูบลงมาเหลือเพียง 18836.50 ล้านบาท มาร์เกตแคป EA หายไป 374,678.50 ล้านบาท
นักลงทุนรายย่อย EA จำนวน 4.26 หมื่นคน ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 40.04% ของทุนจดทะเบียน โดยความสูญเสียของผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันมีจำนวน 150,021 ล้านบาท หรือสูญเสียเฉลี่ยคนละประมาณ 35,216 บาท
ใครที่เข้าไปเล่นกับหุ้น EA ถ้าไม่ขายทิ้งไปก่อน และถือติดมือจนถึงวันนี้เจ็บทุกคน เจ๊งกันถ้วนหน้า
และดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสให้นักลงทุนคนใดได้แก้ตัว รายย่อยเกือบครึ่งแสนคน คงได้แต่ทำใจกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากหุ้น EA
